อาชญากรรม

รวบผู้บริหารนอมินบริษัทเอกชน เบี้ยวส่งงบการเงินก.ล.ต. โทษปรับ 1.8 ล้าน

โดย kanyapak_w

22 ก.พ. 2566

364 views

ตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเศรษฐกิจ จับกุม นายอรรถวัต (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 344/2566 ลง 2 ก.พ.66 ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน ร่วมกันไม่จัดทําและไม่นําส่งงบการเงินประจําปี และไม่จัดทําและนําส่งรายงานประจําปี โดยสามารถจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านบางนา



จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ สํานักงาน ก.ล.ต. ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตํารวจว่า นายอรรถวัต ซึ่งมีฐานะเป็นกรรมการของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยมีหน้าที่สั่งการหรือกระทําการให้บริษัทดังกล่าว ต้องจัดทํางบการเงินและนําส่งรายงานทางการเงินต่อสํานักงาน ก.ล.ต. แต่ทางผู้ต้องหาไม่ได้จัดทําและนําส่ง รายงานดังกล่าว เป็นเหตุให้บริษัทดังกล่าวได้ทําการฝ่าฝืนข้อบังคับตามกฎหมาย พ.ร.บ.หลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และยังไม่ได้ดําเนินการแก้ไขเป็นระยะเวลาหลายเดือน ซึ่งมีโทษปรับ มูลค่ารวมกว่า 1.8 ล้านบาท โดยทางพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ได้มีการออกหมายเรียกไปยังผู้ต้องหา ถึง 2 ครั้ง แต่ผู้ต้องหาไม่ได้มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เป็นเหตุให้มีการยื่นคําร้องขอออกหมายจับ ผู้ต้องหาเพื่อนําตัวมาดําเนินคดีตามกฎหมาย



ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้อาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ย่านบางนา เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ พบตัวผู้ต้องหาอยู่ที่คอนโดดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงเข้าแสดงตัวและจับกุมผู้ต้องหา จากนั้นนําตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดําเนินการตามกฎหมายต่อไป



หลังจับกุม เจ้าหน้าที่ตํารวจตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นายอรรถวัตฯ เป็นพนักงานบริษัท ของบริษัท ดังกล่าว ซึ่งถูกชักชวนและลวงให้มาเป็นกรรมการบริษัท โดยให้สัญญาว่าจะรับผลประโยชน์มากขึ้น โดยไม่ต้อง ทํางาน เสมือนเป็นผู้บริหารในนามนอมินี ซึ่งผู้ต้องหาเชื่อผู้ที่มาชักชวน จึงได้เป็นกรรมการบริษัท จํากัด (มหาชน) โดยไม่ได้บริหารงานจริง ผู้ต้องหาจึงไม่ได้ไปทํางานและไม่ทราบหน้าที่ในการบริหารของบริษัท เป็นเหตุให้บริษัทได้ ทําการฝ่าฝืนข้อบังคับตามกฎหมาย พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ซึ่งมีโทษปรับรายวันและ ปัจจุบันได้ตรวจสอบแล้วพบว่าบริษัทฯ ยังฝ่าฝืน และยังไม่ได้ดําเนินการเป็นเวลาหลายเดือนซึ่งมีโทษปรับมูลค่าสูง ถึง 1.8 ล้านบาท


สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา


เตือนภัย หากมีผู้ใดมาชักชวนเป็นกรรมการบริษัทหรือผู้มีอํานาจลงนาม ควรศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และขอย้ําเตือนว่า บริษัทมหาชนมีหน้าที่ต้องจัดทําและนําส่งงบการเงินและรายงานประจําปี ต่อสํานักงาน ก.ล.ต. โดยให้ปฏิบัติตรงตามระยะเวลาที่กําหนด หากเพิกเฉยถือเป็นความผิดทางอาญา ทั้งบริษัทหรือผู้ประกอบกิจการใน นามนิติบุคคลและบุคคลทั่วไป




แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ