พ่อแม่เด็กร่ำไห้รับร่างลูกชาย 6 ขวบตกทางด่วนดับ เหตุกระบะพุ่งชนขอบสะพาน

จากกรณีอุบัติเหตุรถกระบะโตโยต้ารีโว่ ป้ายแดง เสียหลักพุ่งชนขอบทางบนทางด่วนพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ขาเข้าจากพระราม 2 มุ่งหน้าด่านบางแก้ว ส่งผลให้เด็กชายเอ (นามสมมติ) วัย 6 ขวบ ที่นั่งอยู่เบาะหลังรถกระเด็นออกมานอกรถก่อนตกลงมาที่พื้นถนนด้านล่างเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) เวลาประมาณ 15.00 น.



ล่าสุดวันนี้ (20 ก.พ.) ครอบครัวของเด็กชายเอ เดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อติดต่อขอรับศพของเด็กชายเอไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดชลบุรี โดยมีพ่อแม่และลูกชายคนเล็กที่อยู่ในรถคันเกิดเหตุ เดินทางมาพร้อมกับญาติๆ ท่ามกลางความโศกเศร้า

นายอาทิตย์ อายุ 41 ปี พ่อของเด็กชายเอ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถกระบะคันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เมื่อวานนี้ ตนขับรถมาปกติกำลังมุ่งหน้ากลับบ้านที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งพอมาถึงจุดเกิดเหตุ ตนไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนเลนเลย แต่อยู่ๆ พวงมาลัยรถก็บังคับหักออกไปทางซ้ายเอง ตอนแรกตนยังคิดว่า อาจจะไปเหยียบขอบทางทำให้รถแฉลบออก ก็ยังไม่ได้ตกใจอะไร พยายามจะหักพวงมาลัยกลับมาทางขวา แต่ปรากฎว่า ไม่สามารถหักกลับมาได้ พวงมาลัยล็อกโดยไม่รู้สาเหตุ ตอนนั้นจึงเริ่มตกใจ หันไปบอกภรรยาว่าพวงมาลัยรถหักไม่ไป ภรรยาจึงเอื้อมมาช่วยผลักพวงมาลัยก็หักไปไม่ไป จนมารู้ตัวอีกที รถก็เข้ามาชิดขอบทางแล้ว ตนจึงรีบเหยียบเบรก แต่รถก็กระแทกเข้ากับขอบทางอย่างแรง จนลอยขึ้น ซึ่งในความรู้สึกตน รู้สึกว่ามันแรงมาก จนตอนนั้นคิดเลยว่าต้องเสียชีวิตแน่



โดยจังหวะที่รถกระแทกเข้ากับขอบทาง ตนยังไม่เห็นว่าลูกชายวัย 6 ขวบ กระเด็นออกไปจากรถ ซึ่งพอตนตั้งสติได้ก็รีบหันไปดูภรรยากับลูกชายคนเล็กที่นั่งอยู่ด้านหน้าก่อน พอเห็นว่าทุกคนยังสามารถโต้ตอบได้ ก็เลยหันไปดูลูกชายคนโตที่เบาะหลัง แต่มองไม่เห็น ตอนแรกยังคิดว่าลงไปนอนอยู่ข้างใต้เบาะ แต่พอเปิดประตูไปดูก็ไม่เจอ เลยรีบวิ่งกลับไปที่จุดที่ชนครั้งแรก ก็เห็นกองเสื้อผ้า แต่ไม่เจอตัวลูก จังหวะนั้นเลยกลั้นใจมองลงไปด้านล่างทางด่วน ก็เห็นว่าลูกชายตกลงไปเสียชีวิตอยู่ด้านล่าง ตอนนั้นตกใจมากจนเข่าทรุด



สำหรับรถกระบะคันที่เกิดเหตุ ตนเพิ่งออกรถมาเมื่อปลายเดือนมกราคม ยังขับได้ไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีปัญหาหรือพบความผิดปกติใดๆ เพราะส่วนมากจะขับในระยะใกล้ ไปทำงานระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร และเป็นทางเรียบ ครั้งนี้เพิ่งเคยเป็นการนำรถคันนี้มาขับทางไกลเป็นครั้งแรก ก็มาเกิดเหตุ ซึ่งยืนยันว่าตนขับมาในความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแน่นอน เพราะไม่ใช่คนขับรถเร็วอยู่แล้ว และที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่ขึ้นสะพานด้วย



ซึ่งสาเหตุจะเกิดจากพวงมาลัยรถล็อกเองจริงหรือไม่ ตนยังไม่กล้ายืนยัน ขอให้เป็นเรื่องของคดีความ ส่วนตอนนี้จะขอจัดงานศพลูกชายให้เสร็จก่อน แต่ตนยืนยันได้ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่ตนเล่าจริงๆ ซึ่งก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้ได้ความชัดเจนต่อไป




ทั้งนี้ หากผลออกมาว่าสาเหตุเกิดจากความบกพร่องของรถจริงๆ ก็คงต้องปรึกษาทนายความอีกครั้งเรื่องการเรียกร้องค่าเสียหาย ส่วนที่ต้องสูญเสียลูกชาย ทุกคนในครอบครัวก็เสียใจอย่างที่สุด