จ่อส่ง ตร.บินไต้หวัน บันทึกปากคำดาราสาว ยันถ้าผิดจริง ไม่ปกป้อง เพจดังเปิดไทม์ไลน์ แฉภาพถือบุหรี่ไฟฟ้า

บช.น. เร่งประสานกองต่างประเทศ สอบคำให้การดาราสาวไต้หวัน หากไม่สะดวกเตรียมส่งตำรวจบินถึงที่บันทึกปากคำ ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ลั่นเอาให้ชัด ชี้ไปเลยว่าเป็นใคร คนไหน-นายใด รีดเงิน พร้อมเร่งหา 3 เพื่อนชายร่วมก๊วน เพื่อเร่งทำความจริงให้ปรากฏ

ขณะที่ผลสอบเบื้องต้นไม่พบหลักฐาน ตั้งด่านรีดเงิน ส่วนกล้องหน้ารถแกร็บ กู้ไฟล์ไม่ได้เพราะผ่านมานาน ก่อนยืนยันไม่ได้ปกป้องหรือทำลายหลักฐาน

ด้านเพจ ‘ดาวแปดแฉก’ เผยไทม์ไลน์วงจรปิดจับภาพดาราสาวไต้หวัน มีบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในมือ ช่วงวันที่ 4-5 ม.ค.ก่อนจะถูกตำรวจเรียกตรวจสอบ ชี้ขัดแย้งกับคำพูด

วานนี้ (29 ม.ค. 66) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี ดาราสาวชาวไต้หวันอ้างว่าถูกตำรวจไทย 'รีดไถเงิน' 27,000 บาท ย่านห้วยขวาง หลังมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ในช่วงปีใหม่ ว่า

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล ลงพื้นที่ในการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้ความกระจ่างชัดในคดีนี้แล้ว 

เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำคนขับรถแท็กซี่ทั้ง 2 คน และได้รวบรวมคำให้การไว้เป็นหลักฐาน ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานสักระยะ คาดใช้เวลา 1-2 วัน จึงจะมีความชัดเจนมากขึ้น 

ด้าน พลตำรวจตรี อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า หลักฐานต่าง ๆ ทั้งกล้องวงจรปิดหรือกล้องหน้ารถ ส่งให้กับตำรวจพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบว่ามีการตัดต่อหรือไม่แล้วทั้งหมด ซึ่งจะมีการรายงานผลกลับมาอย่างไม่เป็นทางการ แต่ส่วนหลักฐานด้านเอกสารต่าง ๆ หรือหลักฐานอื่น ๆ ขอเวลา 1-2 วันในการตรวจสอบ ซึ่งกล้องวงจรปิดเป็นของ กทม. 

-------------

เวลา 15.00 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ประชุมติดตามความคืบหน้าคดี

เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการมายังศูนย์สืบสวนตำรวจนครบาล ให้เข้ามาร่วมคลี่คลายคดี หลังคคีดังกล่าวผ่านไปแล้วกว่า 25 วัน แต่ยังไม่มีความชัดเจน

สิ่งแรกที่จะต้องทำคือ วันนี้ (30 ม.ค. 66) จะประสานไปยังตำรวจกองการต่างประเทศ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อที่จะติดต่อประสานไปยังนางสาวอันยู่ชิง ดาราสาวชาวไต้หวัน พร้อมเพื่อนรวม 4 คน เพื่อให้ปากคำอย่างเป็นทางการ และให้ชี้ชัดไปเลยว่า ในวันเกิดเหตุ ตำรวจนายใดเป็นผู้เรียกรับผลประโยชน์ หากไม่สะดวก จะมีการส่งตำรวจไทยไปบันทึกคำให้การถึงที่ เพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจนมากยิ่งขึ้น

การตรวจสอบกล้องวงจรปิด เบื้องต้นกล้องที่ตำรวจได้มามีเพียงภาพวงจรปิดระยะไกล ซึ่งไม่สามารถชี้ชัดถึงตัวบุคคล หรือเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุได้อย่างชัดเจนว่า ตำรวจมีการรีดไถเงินจริงหรือไม่

ส่วนเพื่อนชายทั้ง 3 คน ที่เดินทางมาด้วยในวันเกิดเหตุ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าทั้งหมดเป็นใคร และยังอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งก็อยากจะประชาสัมพันธ์ไปยังทั้ง 3 คน ให้ช่วยมาให้ปากคำกับตำรวจด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบ เบื้องต้นเชื่อว่าชาย 1 ใน 3 คน ที่เดินทางมากับสาวชาวไต้หวันนั้น น่าจะเป็นไกด์นำเที่ยว

-----------

ต่อมา พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยหลังการประชุม ยืนยันว่า ขณะนี้ สอบปากคำพยาน ไปแล้ว กว่า 10 คน

แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำด่านตรวจ 6-7 คน ,คนขับแกร็บคาร์ ,คนขับรถแท็กซี่ และพยานจากสถานบันเทิงที่นักท่องเที่ยวสาวไปใช้บริการอีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่ามีการเรียกรับเงินตามถูกกล่าวอ้าง

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบวัตถุพยาน ทั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ กล้องหน้ารถของคนขับแกร็บ และกล้องคอมแบทคาเมร่า ที่ติดตัวของตำรวจ ทั้งหมดถูกส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานแล้ว เบื้องต้นยืนยันแล้วว่า กล้องหน้ารถของคนขับแกร็บ ไม่สามารถกู้ไฟล์ภาพวิดีโอได้ถึงวันที่เกิดเหตุ เนื่องจากระยะเวลาผ่านเลยมานานกว่า 20 วัน แต่ในส่วนอื่นๆ

ขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม โดยผู้บังคับการตำรวจนครบาล1 สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กับตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าว และการตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย ขอยืนยันว่า สามารถดำเนินคดีได้ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ยืนยันว่า ไม่มีใครยื่นบุหรี่ไฟฟ้าให้สาวชาวไต้หวันตามที่กล่าวอ้าง

ในส่วนของเพื่อนชาย ทั้ง 3 คน ที่เดินทางมาด้วยกันในวันเกิดเหตุ ขณะนี้พบว่าทั้ง 3 คน เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 และ วันที่ 9 มกราคม โดยเดินทางตามสาวชาวไต้หวันคนดังกล่าว ซึ่งปลายทางไม่ใช่ที่เดียวกัน

โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะให้กองบังคับการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังกระทรวงต่างประเทศ เพื่อประสานไปยัง สำนักงานเศรษฐกิจและการไต้หวัน เพื่อให้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวัน เข้าไปสอบปากคำหญิงสาวคนดังกล่าว

ทั้งนี้ หากตำรวจไต้หวัน ต้องการให้ตำรวจไทยร่วมสอบปากคำด้วย ก็พร้อมจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบทันที โดยยืนยันว่า ไต้หวันไม่มีอินเตอร์โพล หรือเครือข่ายตำรวจสากลแต่อย่างใด

ยืนยันว่า ไม่ได้ปกป้องหรือทำลายพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว ทั้งนี้ หากพบว่ามีการรีดทรัพย์สาวชาวไต้หวันจริง ก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้นทางวินัยและอาญา

-------------

ขณะที่เพจ ‘ดาวแปดแฉก’ ได้โพสต์ไทม์ไลน์ของดารา หรือเน็ตไอดอลสาวที่มีบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในมือ

• ในช่วงวันที่ 4-5 มกราคม 66 ขณะที่ใช้ลิฟท์ของที่พักย่านห้วยขวางโดยภาพแรก เวลา 15.59 น. ของวันที่ 4 มกราคม 66 เน็ตไอดอลสาวถือบุหรี่ไฟฟ้าที่มือข้างซ้าย
• เวลา 16.02 น. เธอไปยืนสูบบุหรี่ไฟฟ้าหน้าที่พัก
• เวลา 22.37 น. เธอกลับมาที่ห้องพัก
• เวลา 23.45 น. เธอเปลี่ยนชุดและออกจากห้องพัก และที่มือข้างซ้ายยังถือของลักษณะคล้ายบุหรี่ไฟฟ้า และมือข้างขวาถือโทรศัพท์
• เวลา 03.12 น. วันที่ 5 มกราคม 66 ก็มีภาพเธอปรากฎว่าถือบุหรี่ไฟฟ้า ถูกตรวจสอบบุหรี่ไฟฟ้า โดยอ้างว่าตำรวจเป็นคนยัดใส่มือเธอ

อย่างไรก็ตาม เพจ ‘ดาวแปดแฉก’ ได้ระบุข้อมูลว่าไทม์ไลน์ก่อนเน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวันอ้างถูกยัดข้อหา นี่คือไทม์ไลน์ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานที่แห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง กรุงเทพฯ ที่เน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวัน เข้าพักโดยภาพจากกล้องวงจรปิดระหว่างวันที่ 4 - 5 ม.ค. 2566 บันทึกภาพ เธอมีบุหรี่ไฟฟ้าและสูบพอดบุหรี่ไฟฟ้าบริเวณสถานที่พัก

จากนั้น เน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวัน ออกจากสถานที่พักไปผับแห่งหนึ่ง ย่านอาร์ซีเอ และกลับมาถูกตำรวจ สน.ห้วยขวาง เรียกตรวจซึ่งเธอให้สัมภาษณ์อ้างกับสื่อไต้หวันว่า คืนวันนั้นเธอถูกยัดข้อหา ถูกตำรวจยัดบุหรี่ไฟฟ้า ตอนนั้นไม่รู้จักว่าคืออะไร ถูกตำรวจถ่ายรูป ถูกตำรวจเรียกเงิน

หลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ขัดแย้งกับคำพูดของเน็ตไอดอลสาว เพราะเธอมีบุหรี่ไฟฟ้าก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ส่วนที่อ้างว่าตำรวจเรียกเงิน 27,000 บาท ชุดสืบสวนรอภาพเพิ่มเติมจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โดยคาดว่าวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.2566) น่าจะทราบคำตอบ

รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนทราบข้อมูลว่าการเข้าพักที่สถานที่แห่งหนึ่ง ย่านห้วยขวาง พบว่า เพื่อนชายของเน็ตไอดอลสาวชาวไต้หวัน เป็นผู้เปิดห้องพัก จำนวน 2 ห้อง และพบว่าชายทั้งสองคนที่เข้าพัก ตรงกับชายสองคนที่เดินกับเน็ตไอดอลสาว ที่ตลาดห้วยขวาง หลังจากไปส่งเพื่อนชายชาวต่างชาติที่พอพูดภาษาไทยได้เล็กน้อยที่ ซ.รัชดาภิเษก 32

เพจ ‘ดาวแปดแฉก’  ยังระบุรายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนตั้งข้อสังเกตว่าขณะอยู่ที่ด่านตรวจเน็ตไอดอลสาวอ้างว่า หนังสือเดินทางอยู่ที่พัก กำลังให้เพื่อนนำมาให้ แต่รอประมาณเกือบ 1 ชั่วโมง เพื่อนไม่นำมาให้ ขัดแย้งกับข้อมูลที่พักว่าเธอพักกับเพื่อนชายอีก 2 คน แล้วเพื่อนคนใดจะนำหนังสือเดินทางมาให้ เพราะห้องพักใช้ระบบคีย์การ์ด ซึ่งทางสถานที่พักคงไม่ให้คีย์การ์ดกับบุคคลอื่นเพื่อเปิดห้องพักของแขกที่มาพัก

----------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/XnnW2xBief0