อาชญากรรม

ครม.เคาะร่าง พ.ร.ก.เปิดบัญชีม้า 'โทษคุก 3 ปี - ปรับ 3 แสน' - ธนาคารระงับการทำธุรกรรมได้เอง หากสงสัย

โดย nattachat_c

25 ม.ค. 2566

52 views

วันที่ 24 ม.ค. 2566 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. …. เพื่อใช้มาตรการทางกฎหมายควบคุมเป็นการเฉพาะ เพื่อคุ้มครองประชาชนอย่างเร่งด่วน


สืบเนื่องจากปัจจุบัน มิจฉาชีพมีการหลอกลวงให้ประชาชนโอนเงินผ่านการติดต่อทางโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งขยายตัวรวดเร็วและเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง จากสถิติตั้งแต่ 1 มี.ค. – 31 ต.ค.2565 มีคดีออนไลน์เกิดขึ้นกว่า 114,000 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 22,000 ล้านบาท เฉลี่ย 800 คดีต่อวัน

อีกทั้งยังไม่มีกฎหมายเฉพาะที่ให้อำนาจสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจ สามารถระงับการทำธุรกรรมใด ๆ ที่ต้องสงสัยว่าเป็นธุรกรรมที่กระทำผิดทางอาญา โดยเฉพาะการหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินไปยังบัญชีผู้อื่นที่อยู่ในขบวนการเป็นทอดๆ อย่างรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า บัญชีม้า ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถระงับการทำธุรกรรมหรืออายัดเงินได้ทันท่วงที


สำหรับ พ.ร.ก. มีสาระ ดังนี้

1. กำหนดให้มีกลไก “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” เพื่อกำหนดแนวทางในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกำหนดหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นประธาน และมีกรรมการโดยตำแหน่ง 8 คน


2. สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจ มีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีและธุรกรรมของลูกค้าผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูล


3. ผู้ให้บริการโทรคมนาคม มีอำนาจแลกเปลี่ยนข้อมูล และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงาน ปปง. และหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลที่มีการแลกเปลี่ยนได้


4. สำนักงาน กสทช. เป็นหน่วยงานจัดทำระบบฐานข้อมูลกลางเท่าที่จำเป็น เกี่ยวกับข้อมูลการลงทะเบียนผู้ใช้งาน ข้อความสั้น เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและป้องกัน


5. ขั้นตอนในการระงับการทำธุรกรรม อาทิ

1.กรณีสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจพบเหตุอันควรสงสัยเองหรือได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงาน ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจระงับการทำธุรกรรม แล้วแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมต่อไปทันทีเป็นการชั่วคราว หากตรวจสอบแล้วไม่พบเหตุสงสัย ให้สามารถดำเนินการทำธุรกรรมต่อไปได้

2.กรณีได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจระงับการทำธุรกรรมและแจ้งให้สถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่รับโอนระงับการทำธุรกรรมไว้ทันทีเป็นการชั่วคราว เพื่อให้ผู้เสียหายร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนภายในเวลา 48 ชั่วโมง และให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีและกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์นั้นภายในเวลา 7 วัน นับแต่วันได้รับแจ้ง


6.การแจ้งข้อมูลหรือหลักฐาน สามารถแจ้งผ่านทางโทรศัพท์หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ กรณีแจ้งทางโทรศัพท์ให้ผู้ระงับการทำธุรกรรมบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรและส่งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน


7.กำหนดบทลงโทษ แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

1.ห้ามมิให้ผู้ใดเปิดบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้มีเจตนาใช้เพื่อตน และห้ามไม่ให้ผู้ใดยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้ซิมโทรศัพท์ของตนในทั้งที่รู้หรือควรจะรู้ ซึ่งอาจจะนำไปใช้ในการทุจริตหรือทำผิดกฎหมาย ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ห้ามไม่ให้ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายบัญชี บัตรอิเล็กทรอนิกส์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือซิมโทรศัพท์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการกระทำความผิดอาญา ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 200,0000 บาท ถึง 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมให้รับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบทั้งหมดทุกประเด็นก่อน เพื่อให้การตรวจพิจารณาร่างพ.ร.ก.เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีผลบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถคุ้มครองและปกป้องประชาชนจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ ทั้งนี้ ในลำดับต่อไป จะส่งร่าง พ.ร.ก.ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา

-----------

หนุ่มคนหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า 


ความฝัน ความหวัง ท้อ และเหนื่อย

รู้สึกสิ้นหวังกับชีวิตตัวเองมาก 


ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง พยายามบอกกับคนในครอบครัวว่าระวัง แต่สุดท้ายก็ผิดที่ตัวเอง โดนมิจฉาชีพหลอกดูดเงินกมดบัญชีธนาคาร ซวยตั้งแต่ต้นปีเลย ก็เห็นข่าวอยู่ทุกวัน ว่ามีคนโดนโกงเยอะมาก และไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นกับตนเองเด็ดขาด เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้เก็บออมมากลับหายไปต่อหน้าต่อตา แค่ไม่กี่นาที ทุกอย่างคือพังทลายหมดเลย ไม่รู้จะเอายังไงต่อชีวิตดี อยากจะเตือนภัยทุกๆ คนด้วยครับ 


ทีมข่าวได้สอบถาม คุณแอ๊ด เล่าว่า 


เป็นสมาชิกร้านไอทีแห่งหนึ่ง ได้รับสายเสนอโปรโมชั่น ตอนแรกเสนอก็ปฏิเสธ อักครั้งโทรมาใหม่ เสนอโปรใหม่ แล้วส่งลิงก์ ก็กดไป ระหว่างที่ดาวน์โหลดก็คุยไปด้วย โหลดเสร็จ มิจฉาชีพถามวันเดือนปีเกิด แล้วจะส่ง OTP มาให้ ตอนนั้นก็ได้ยินมิจฉาชีพคุยกันว่าเงินในบัญชีเป็นแสน หลังจากนั้นก็มีเมสเสจว่าเงินได้ถูกดูดออกไปยังพร้อมเพย์ 

-----------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ENdGEddP9uY

คุณอาจสนใจ

Related News