อาชญากรรม

สอบยาว 8 ชม. 'เม พรีมายา' น้ำตาคลอ ปัดหลอกลวง-ทำธุรกิจสีเทา ตร.เร่งสอบเส้นทางการเงิน โยงกลุ่มดารา

โดย nattachat_c

20 ม.ค. 2566

1.4K views

โป๊ะแตก ลงทุน 6 พัน 3 เดือน รวย 15 ล้าน เป็นเหตุ ตำรวจเปิดปฏิบัติการ “ยุทธการผึ้งแตกรัง” บุกค้นบ้าน CEO สาว “เม พรีมายา” แต่ไร้เงา ก่อนเข้ามอบตัวในเวลาต่อมา เจ้าตัวน้ำตาคลอ อ้างไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ ไม่ได้สร้างเรื่องหลอกลวง ไม่มีธุรกิจผิดกฎหมายมาร่วมลงทุน ตลอด 7 ปี สู้ชีวิตหนักมาก มีแต่สร้างสิ่งดีๆให้คนรอบข้าง พร้อมป้อง “นิ่ม ฟันนี่ส์” ลูกข่ายภาคใต้ ไม่มีส่วนร่วมในการสร้างเรื่อง ทุกอย่างมีมูลความจริง ขณะที่ตำรวจ เผยการกระทำมีลักษณะหลอกลวงให้ร่วมลงทุนเกินจริง เชื่อทำเป็นขบวนการ มีหน้าม้าจนธุรกิจโด่งดัง ออกหมายผู้ต้องหา 11 คน จับกุมได้ 4 เร่งสอบเส้นทางการเงิน โยงกลุ่มดารา


วานนี้ (19 ม.ค. 65) ตั้งแต่ช่วงเช้า ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านของนางสาว พิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ 'เม พรีมายา' อายุ 28 ปี เจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ชื่อแบรนด์ PRIMAYA (พรีมายา) ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับ ข้อหานำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์


โดยต้นเรื่องมาจาก โพสต์หนึ่งในโลกออนไลน์ เมื่อปีที่ผ่านมา เป็นภาพหญิงคนหนึ่ง ยืนข้างรถหรู โพสต์ข้อความว่า “3 เดือน สร้างเงิน 15 ล้านบาท เด็กบ้านนอก กำเงินสุดท้ายในชีวิต พลิกชีวิตจากการขายของออนไลน์ จากการลงทุนแค่ 6,000 #พรีมายา” ซึ่งเป็นที่วิพากย์วิจารณ์ว่า เป็นโฆษณาเกินจริง หรือทำได้จริงหรือไม่ ในระยะเวลา 3 เดือน สามารถหาเงินได้ถึง 15 ล้าน


เมื่อตำรวจไปถึง ไม่พบตัวนางสาวพิชญ์นรี หรือ เม พรีมายา มีเพียงแม่บ้านออกมา พร้อมให้ข้อมูลว่า “ไม่มีใครอยู่บ้าน” โดยเม และสามี ชื่อนายสิทธานต์ สรรเสริญ หรือ แซก ออกจากบ้านและขนของไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ตอนเย็น โดยไม่ทราบว่าไปไหน


จากนั้น ตำรวจจึงได้ดำเนินการตรวจค้นหาพยานหลักฐานภายในบ้านและรถหรู พร้อมตรวจยึดผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไปตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย


ต่อมา ตำรวจได้เดินทางไปที่ โรงงานบริษัท พรีม่า มายา จำกัด ที่อยู่ในอำเมืองสมุทรปรการ จังหวัดสมุทรปราการ ที่อยู่ห่างออกไป 11 กิโลเมตร


ซึ่งการตรวจค้นบ้านและโรงงานในครั้งนี้ มาจากกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เคยได้ไปยื่นเรื่องร้องเรียนขอให้ กมธ. คุ้มครองผู้บริโภค ตรวจสอ บบริษัท พรีม่า มายา จำกัด ที่จำหน่ายอาหารเสริมลดน้ำหนัก และตรวจสอบเส้นทางการเงิน


โดยทางตำรวจได้แกะรอยจากเส้นทางการโพสต์ของหญิงคนหนึ่ง ชื่อ 'นิ่ม' หรือในโลกโซเชียล ชื่อว่า 'นิ่มฟันนี่' ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่คาดว่าจะเป็นลูกข่ายรายใหญ่ทางภาคใต้ และได้ออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 11 ราย ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 66


ทั้งนี้มีรายงานว่า น.ส.มณีนุช เทียนสว่าง อายุ 27 ปี น้องสาวของ เม พรีมายา ซึ่งเป็นผู้ต้องหา 1 ใน 11 คน ตามหมายจับในคดีนี้ ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. จับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ของคืนวันที่ 18 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา ขณะเตรียมขึ้นเครื่องบิน เดินทางไปประเทศเกาหลีใต้ ก่อนควบคุมตัวดำเนินดี ตำรวจจึงประสานรับตัวมาสอบปากคำ และจับกุมผู้เกี่ยวข้องตามหมายจับทั้งหมด รวมถึง เม พรีมายา ซึ่งเป็น CEO บริษัทด้วย


หลังจากนั้น เม พรีมายา และแฟนหนุ่ม ทราบข่าวว่าน้องสาวโดนจับ จึงได้เดินทางออกจากบ้านพักในจังหวัดสมุทรปราการ ไปที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ซึ่งตลอดทั้งวันมีกระแสข่าวว่า CEO เม ได้หลบหนี และอีกกระแสก็บอกว่า ประสานจะเข้ามอบตัวกับตำรวจ สอท.


จนกระทั่ง เวลา 15.30 น. นางสาวพิชญ์นรี หรือ 'เม พรีมายา' ได้เดินทางมามอบตัวพร้อมกับทนายความ มอบตัว ตำรวจ สอท. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี


เมื่อตำรวจแจ้งข้อหาแล้ว ก่อนจะนำตัวไปสอบปากคำ เม พรีมายา ได้เปิดใจว่า ถึงการถูกจับกุม ว่า ตัวเองเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 7 ปี เป็นคนทำงาน และพัฒนาตัวเองในเส้นทางนี้ ยอมรับว่า แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดเรื่องใดเรื่องหนึ่งบ้าง ตัวเองก็พร้อมแก้ไข และทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการพิสูจน์ความจริง


ซึ่งบางอย่างคนทำงานอย่างตัวเอง อาจจะผิดข้อตกลงหรือกฎกติกาบ้าง ก็ไม่รู้จริงๆ แต่ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะหลอกลวงใครในการทำงานทุกๆ วันนี้


ส่วนประเด็นการโฆษณาชวนเชื่อลงทุน 6,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ได้เงิน 15 ล้านบาทนั้น เม พรีมายา บอกว่า ไม่ใช่โฆษณาคำชวนเชื่อ ทุกอย่างได้ให้การกับทางตำรวจแล้ว และขอยืนยันว่า ธุรกิจของตัวเองไม่ได้สร้างเรื่องหลอกหรือชวนเชื่อ และเชื่อว่า วันนึงทุกอย่างจะปรากฎขึ้นเอง


ส่วนหญิงที่ร่วมโพสต์ต้นเรื่อง ชื่อ นิ่ม เครือข่ายรายใหญ่ และคนสำคัญทางภาคใต้ นางสาวเม บอกว่า ไม่มีส่วนร่วมในการสร้างเรื่อง


ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นผลกำไรที่ยื่นต่อพาณิชย์ พบว่าไม่สอดคล้องกับที่โฆษณาสื่อโซเชียล และเงินลงทุน เป็นเงินผิดกฎหมายหรือไม่


นางสาวเม ระบุว่า ตนเอง ไม่ทราบรายละอียด เพราะทำงานอยู่หน้าบ้าน ไม่ได้รู้ดีเทลทุกอย่าง และจุดเล็กๆ น้อยๆ ตัวเองไม่สามารถตอบได้ เพราะไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้ ที่ผ่านมาชีวิตตัวเองสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคม และคนรอบข้างตลอด ขอยืนยันว่าไม่ได้หลอกลวงประชาชน


หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ารู้สึกเครียดหรือไม่ เจ้าตัวบอกว่า “ได้อยู่ค่ะพี่” ก่อนที่ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามว่า เป็นการเดินทางเข้ามามอบตัวเองหรือไม่ ทางทนายความได้หันมาตอบว่าเข้ามามอบตัวเองครับ


ทั้งนี้ ข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ รายงานว่า บริษัทพรีม่ามายา จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2560 โดยมี น.ส.พิชญ์นรี ตันติวิทย์ และนายสิทธานต์ สรรเสริญ เป็นกรรมการบริษัทฯ ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ดำเนินธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องสำอาง โดยมีวัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียนคือจำหน่ายเครื่องสำอาง  มีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้

  • ปี 2560 รายได้ 748,021.00 บาท กำไร 610.72 บาท
  • ปี 2561 รายได้ 1,920,822.47 บาท กำไร 450,683.04 บาท
  • ปี 2562 รายได้ 8,649,550.78 บาท กำไร 472,200.38 บาท
  • ปี 2563 รายได้ 21,962,998.24 บาท กำไร 1,343,321.39 บาท
  • ปี 2564 รายได้ 33,632,860.48 บาท กำไร 8,041,136.68 บาท


ทั้งนี้ คุณเม เคยถ่ายคลิป นั่งกับเงินกองโตในกระเป๋าจำนวนมาก พร้อมระบุว่า สู้ตั้งแต่เด็ก จนเติบโตเป็นนักธุกิจ 1,000 ล้าน

-------------

จากกรณีนี้ หญิงที่ถ่ายรูปข้างรถหรู แล้วโพสต์เชิญชวนลงทุนนั้น ชื่อ 'นิ่ม' หรือในโลกโซเชียล จะใช้ชื่อว่า 'นิ่มฟันนี่' 


ซึ่งต่อมา มีคนส่งข้อความไปถามโชว์รูมรถโดยตรง ทางโชว์รูมก็ตอบว่า “รถคันนี้ยังไม่ได้ขายครับ” คนเลยมองว่าโป๊ะแตกทั้งคนทั้งแบรนด์ แล้วคุณนิ่มก็ลบรูปนี้ทิ้งไป


เหตุการณ์นี้ทำให้มีหลายคนร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบว่าพรีมายาโฆษณาเกินจริง หลอกลวงประชาชน และนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่


ทั้งนี้พบว่า ในติ๊กต็อกพรีมายา (ช่องบริษัท) โพสต์คลิป เล่าเรื่องราวของนิ่ม ในการเข้ามาทำธุรกิจกับพรีมายา


เป็นน้องนิ่ม นั่งกับพี่สาว หน้าบ้าน บอกว่า ถ้าไม่ได้มาทำพรีมายา ต้องไปเป็นขอทานแน่ๆ บ้านก็ต้องขาย เพราะเป็นหนี้แล้วเขาก็มาทวงถึงหน้าบ้าน ถามแม่ว่าเมื่อไหร่จะจ่ายหนี้ เมื่อไหร่จะจ่ายเงิน แม่ก็บอกไม่มีแล้วแม่ก็ร้อง แล้วเขาก็ด่าแล้วขี่รถออกไป “ชีวิตเหมือนในละครเลยค่ะ ถ้าไม่เจอพรีมายา ชีวิตนิ่มเป็นขอทานแน่นอนค่ะ”


จากนั้นก็เป็นการสนทนาในห้องซึ่งเป็นส่วนต่อเติมใหม่จากบ้านของนิ่ม โดยมี เม อยู่ในคลิป ร่วมพูดคุยด้วย แล้วบอกว่าถ้าเรามีเงินเราก็ไปได้แล้วพี่สาวของนิ่มก็น้ำตาคลอ คลิปนี้ ตั้งแคปชั่นว่า “สองพี่น้องสู้ชีวิตมาก บีบหัวใจมาก ถ้าไม่เจอ พรีมายา นิ่มเป็นขอทานแน่นอน”


แล้วก็มีคลิปต่อมา สองพี่น้องนิ่มและพี่สาว อัดคลิปร้องไห้ ว่าเราต้องทำอะไรสักอย่าง เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นห่วงแม่ไม่ให้แม่ลำบาก ทำงานหนัก จนเราได้มาขายออนไลน์กับพี่ มันขายได้จริงค่ะ “ไม่คิดว่าเงิน 6,000 บาท จะมาทำให้ถึงวันนี้ ภายใน 3 เดือน ที่พวกเราขายกันได้ยอดมา 15 ล้านบาท อันนี้นิ่มไม่ได้โกหก ไม่ได้แต่งเรื่องขึ้นมา มันคือเรื่องจริง 3 เดือนนี้ ชีวิตครอบครัว เปลี่ยนไปเลย”


ยังมีอีกคลิป เป็นคลิปของนิ่มฟันนี่อแนะนำตัวเอง กินอาหารเสริมของพรีมายา จนรูปร่างเปลี่ยน และที่สำคัญ โชว์ยอดเงินในบัญชีด้วย โดยบอกว่าเริ่มจากเงิน 6,000 บาท ผ่านมา 3 เดือนจนมียอด 15 ล้านบาท แต่ในคลิปนี้ เป็นแค่ยอดตัวเลข สรุปรายรับรายจ่าย ไม่ได้ระบุว่าเป็นบัญชีของใคร


ทั้งนี้ หลังจากที่นิ่ม ขายอาหารเสริมกับพรีมายาแล้ว พบว่าชีวิตเปลี่ยน มีการไปเที่ยวต่างประเทศหลายวัน โดยคนออกค่าใช้จ่ายคือ เม พรีมายา


โดย ผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อว่า “lekreview” ได้โพสต์คลิปคณะที่อยู่ที่โชว์รูมรถหรูแห่งหนึ่ง โดยในคลิปดังกล่าวมีนิ่ม ปรากกฏอยูในคลิปด้วย โดยระบุข้อความ “นุ่มนิ่ม ทีมครีมหมีพรีมายา” และยังมีภาพขณะที่นิ่มยืนถ่ายรูปคู่กับรถหรู พร้อมกับระบุข้อความว่า “3 เดือน สร้างเงิน 15 ล้านบาท เด็กบ้านนอก กำเงินก้อนสุดท้ายในชีวิต พลิกชีวิตจากการขายของออนไลน์ จากการลงทุนแค่ 6,000 บาท”


นอกจากนี้ คุณเมยังเคยทำคลิปคอนเทนต์พาตัวแทนของแบรนด์พรีมายา ไปเที่ยวโดยเหมาเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว พร้อมกับให้โบนัสและเงินสด


ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามนิ่ม ถึงกรณีดังกล่าว เธอบอกสั้นๆ ว่า ไม่รู้เรื่องที่ พี่เม โดนจับ และไม่รู้เรื่องอะไร ก่อนจะตัดสายไป


นอกจากนี้ ลูกทีมของนิ่ม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและอาศัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ข้อมูลทีมข่าวว่า เริ่มขายอาหารเสริมพรีมายา กับนิ่มได้สักพัก ตอนแรกก็เชื่อนิ่มว่าทำได้จริง ก็ลงทุน แต่พอมาขายจริงๆ ทำไม่ได้เหมือนที่นิ่มบอก ตอนนี้หันมาทำอาหารขายแทน และไม่ได้ติดต่อกับนิ่มอีก


นอกจากนี้ ทีมข่าวยังสอบถามไปยังลูกค้าของนิ่ม ให้ข้อมูลว่า เธอซื้ออาหารเสริมกิน 1 ชุด ตามที่โฆษณาว่าแค่ 1 ชุด ก็น้ำหนักลง เธอบอกว่า พอกินไป น้ำหนักไม่ได้ลงตามโฆษณา และไม่ได้กินต่อ เพราะรู้สึกว่าไม่ได้ผลตามที่โฆษณา และยอมรับว่า ที่ซื้อกินนั้นเพราะมีการรีวิว และโฆษณาในติ๊กต็อกเยอะมาก

-------------

ด้าน พลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยว่า


คดีนี้สืบเนื่องจากที่มีผู้มาแจ้งความร้องทุกข์ ประกอบกับตำรวจไซเบอร์ได้รับนโนบายให้ดำเนินการตรวจสอบเพจที่มีการชักชวนลงทุนเกินความเป็นจริง จนได้ไปพบว่า 'พรีมายา' เข้าข่ายกรณีดังกล่าว ตำรวจจึงได้ตรวจสอบ และหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนสามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับได้ เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา


และต่อมาพบว่าญาติของนางสาวพิชญ์นรี ตันติวิทย์ หรือ เม พรีมายา เจ้าของแบรนด์ และหนึ่งในผู้ที่ถูกออกหมายจับ กำลังจะออกนอกประเทศ ทำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สกัดจับ และทางตำรวจไซเบอร์จึงต้องปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออย่างเร่งด่วน แม้จะยังไม่มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ แต่ก็เป็นการปฏิบัติการก่อนที่จะเกิดความเสียหายขึ้น


ด้านพลตำรวจตรีวิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผย ว่าพฤติการณ์เป็นการโพสต์เชิญชวนลงทุนจำนวนเงิน 6,000 บาท และจะได้กำไร 15 ล้านบาท ภายใน 3 เดือน ซึ่งตำรวจไซเบอร์ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 11 หมาย และจับกุมได้ 4 คนแล้ว ส่วนที่เหลือจะเร่งจับกุมได้ครบภายในสัปดาห์นี้ หนึ่งในนี้ก็มีหน้าม้าที่เป็นต้นโพสต์ เชิญชวนมาลงทุน จนทำให้แบรนด์พรีมายาโด่งดัง


ซึ่งตำรวจจะต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยได้อายัดเครื่องคอมพิวเตอร์และบัญชีธนาคารมาตรวจสอบ ว่าเป็นการหลอกลงทุนเกินจริงหรือไม่ ขณะที่รายงานการเสียภาษีเองก็ไม่ได้สอดคล้องกับผลกำไรที่โฆษณา แต่เบื้องต้น ทแจ้งข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ก่อน ส่วนข้อหาอื่นอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม ว่าลงทุนได้กำไรตามคำโฆษณาจริงหรือไม่ เป็นการลงทุนในลักษณะหลอกลวงหรือไม่


ส่วนแฟนหนุ่มของเม ไม่ได้ถูกออกหมายจับ เพราะไม่ใช่ผู้โพสต์ชักชวนลงทุน ส่วนหลังจากนี้ก็จะมีการขยายผลตรวจสอบเพจชักชวนลงทุนอื่นๆ ที่มีลักษณะชวนลงทุนเกินจริงเพิ่มเติม


ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เส้นทางการเงินของพรีมายา เชื่อมโยงกับดารานักแสดงกลุ่มนึง ตำรวจไซเบอร์ก็ขอดูพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อน

------------

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. มีรายงานว่าตำรวจ ติดตามจับกุม ผู้ต้องหาแล้ว 9 คน จากจำนวน 11 คน เหลือ 2 คนยังหลบหนี


ส่วนนิ่มฟันนี่ คนที่เป็นต้นโพสต์ อาศัยอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ถูกตำรวจควบคุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว


ส่วน เม ถูกสอบปากคำที่ สอท ตั้งแต่เวลา 16.00 น. จนถึง 22.00 น.ก็ยังสอบปากคำยังไม่เสร็จ และเจ้าตัวก็ให้การปฏิเสธทุกข้อหา



สำหรับการจับกุมครั้งนี้ มีรายงานว่า เงินที่นำมาทำธุรกิจนี้ อาจจะเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน จากธุรกิจผิดกฎหมาย หรืออาจจะเกี่ยวข้องกับคดีใหญ่คดีหนึ่ง (ฟอเร็ก 3D) ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน

------------

เม พรีมายา มีธุรกิจขายอาหารเสริม / คลินิกเสริมความงามที่โด่งดังในติ๊กต๊อก และร้านทำเล็บ โดยมักจะอยู่ที่พรีมายาคลินิก สาขาทองหล่อ ซึ่งคลินิกนี้ มีดาราชื่อดัง และเซเล็บคนดังเข้าร่วมหุ้นเปิดคลินิก โดยมีภาพอยู่ในติ๊กต๊อก หนึ่งในนั้น คือ นักร้องสาวลูกทุ่งคนหนึ่ง (ใบเตย สุธีวัน)

------------

แท็กที่เกี่ยวข้อง  พรีมายา ,เม พรีมายา ,ศาลจังหวัดนนทบุรี ,ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ,ตำรวจไซเบอร์ ,อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ,กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ,กระทรวงพาณิชย์ ,ใบเตย สุธีวัน ,ชักชวนลงทุนเกินความเป็นจริง ,Primaya ,นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ,นิ่มฟันนี่ ,ฟอเร็กซ์3D

คุณอาจสนใจ

Related News