อาชญากรรม

'ชูวิทย์' แฉแหลก 'ดีเอสไอ-ตร.191' รับเงินปล่อย 'จีนเทา' - จนท.มอบตัวแล้ว 15 คน ปฏิเสธทั้งหมด

โดย nattachat_c

16 ม.ค. 2566

147 views

วานนี้ (15 ม.ค. 66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความพร้อมคลิปลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุเป็นคลิปที่ DSI + ตำรวจ 191 รับเงินปล่อย 'จีนเทา' ดังนี้...


เรื่อง 'จีนเทา' ผลประโยชน์เงินมาก กล้าจ่าย จึงหลุดรอดไปทุกครั้ง


ครั้งนี้อ้างเป็น 'บ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรู' (ประเทศนาอูรูเป็นเกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิค มีพื้นที่ 21 ตารางกิโลเมตร มีจำนวนประชากรเพียง 10,670 คน น้อยเป็นอันดับ 2 ของโลก) เป็นแหล่งของพวกจีนเทา นิยมไปแปลงสัญชาติ ใช้พาสปอร์ตนาอูรูในการทำธุรกรรม หรือเดินทาง


โดยบ้านหลังดังกล่าว จีนเทาใช้เป็นที่ทำ 'พาสปอร์ตและวีซ่าปลอม' ของประเทศนาอูรู แต่อ้างว่าเป็น 'บ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรู' เหตุเกิดวันที่ 22 ธันวาคม 65


DSI ประสานไปที่ รอง ผบช.น. เพื่อให้ขอศาลออกหมายค้นบ้านโดยยังไม่ได้ตั้งเลขคดี พอศาลออกหมายค้นให้ DSI ก็ขอกำลังตำรวจ 191 และมีทหาร 1 นาย เข้าร่วมค้นบ้าน


พบจีน 11 คน มีหมายแดงจากประเทศจีน และมี 1 คนหนีมาจาก 'จินหลิง' พบเงินสด 8 ล้านบาท แต่กลับโลภ ยักเอาไว้ 5.5 ล้าน นำส่งบันทึกไว้แค่ 2.5 ล้าน 5.5 ล้าน แบ่งกันระหว่าง DSI กับ 191 แต่ยังแบ่งไม่ลงตัว จึงให้จีนเทาไปเอาเงินสดมาอีก 4 ล้าน นัดให้เอามาส่งที่ปั๊มน้ำมัน


DSI ให้ 'ล่ามจีน' ที่พามาด้วย ไปนำเงิน 4 ล้าน ในถุงกระดาษ หิ้วออกมาจากปั๊ม จาก 5.5 ล้าน ขอเพิ่มอีก 4 ล้าน รวมเป็น 9.5 ล้าน นำไปจัดสรร โดยโทรศัพท์แจ้งไปที่ 'ท็อป' เจ้าหน้าที่ระดับสูง DSI ว่า ได้เงินเรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็ปล่อยตัวจีนเทาไปทั้งหมด


งานนี้ให้ติดตามว่าใครเกี่ยวข้องอย่างไร? ผบ.ตร. ทราบเรื่องร้องเรียนจาก ปปป. แต่ที่ ปปป. ขี้เกียจทำ เพราะปวดหัวกับเรื่องอธิบดีอุทยาน ยังทำสำนวนไม่เสร็จ ปัดไปให้ 'บิ๊กโจ๊ก”'พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล จัดการแทน


ส่วนข้อมูลมาจากวงในอีกเหมือนเคย อธิบดี DSI ถึงเวลาทำความสะอาดบ้านครับ เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลที่ต้องจัดการ ตัวองค์กร DSI ยังมีประโยชน์ในการจัดการทั้งพนันออนไลน์ ฟอกเงิน นอมินี วงเงินสูง ต้องตรงไปตรงมา อย่าให้เจ้าหน้าที่เพียงบางคนทำให้องค์กรพัง


เรื่องจีนเทา ผมขออย่าไปยุ่ง เพราะตอนนี้จีนบุกไทยหนัก แม้แต่ร้านอาหารแถวเยาวราช ห้วยขวาง ขยายกิจการหลายสาขา จนคนไทยสู้ไม่ได้ อาชีพบางอย่าง เขาสงวนไว้สำหรับคนไทยตามกฎหมาย


หากไม่เอาจริง ต่อไป คนจีนรุ่นใหม่เข้ามากวาดเรียบ แม้แต่มหาวิทยาลัยไทย ยังถูกทุนจีนซื้อ งานนี้ไม่ยากครับท่านอธิบดี นิ้วไหนร้ายก็ตัดทิ้งไป การแฉสำหรับผมเป็น 'ศิลปะ' บางคนพยายามเลียนแบบแต่ไปไม่ถึง เรื่องจึงเงียบ


ไม่ใช่ผมอยากจะทำ รู้ว่าชักแก่เกินไปแล้ว กะว่าจะพักไปเที่ยวทะเลเสียหน่อย ดันให้ผมต้องออกมาแฉอีก เพลาๆ กันบ้างเถอะ นี่ใจคอจะไม่ให้ผมได้พักบ้างเลยหรือไง?

-------------

จากกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ปีที่แล้ว มีตำรวจ 191 และเจ้าหน้าที่ดีเอสไออีกจำนวนหนึ่ง ไปตรวจสอบ บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ที่แอบอ้างว่าได้รับการรับรองจากสถานกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย แต่ภายในสถานที่ดังกล่าว มีชาวจีนเข้าออกพลุกพล่าน เมื่อตรวจสอบตามหมายค้นแล้ว ได้นำหญิงชาวจีน 1 คน พร้อมเงินสด 2 ล้าน 5 แสนบาท ส่งพนักงานสอบสวนนครบาลทุ่งมหาเมฆ


ประเด็นสำคัญที่นายอัจฉริยะ นำหลักฐานไปยื่นตำรวจ ป.ป.ป. คือระบุว่า แท้จริงแล้ว กรณีนี้มีตำรวจ 10 นาย และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 3 นาย เข้าไปตรวจค้น สถานที่ดังกล่าว และพบบุคคลสัญชาติจีน 11 คนพร้อมเงินสด 10 ล้านบาท แต่เจ้าหน้าที่ทั้งหมด กลับร่วมกันเรียกเงิน 20 ล้านบาท แลกกับการปล่อยคนจีน 11 คน เหลือเพียง หญิงชาวจีน ที่เป็นคนดูแลบ้าน พร้อมเงินสด 2 ล้าน 5 แสนบาท เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน


ล่าสุด พลตำรวจเอกดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน ได้ตรวจสอบพบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมหลักฐาน จนนำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับ ตำรวจ 191 / เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ / และบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวม 16 คน


จนถึงขณะนี้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้ามอบตัวแล้ว 15 นาย ทั้งหมดให้การปฎิเสธ และได้รับอนุญาตให้ยื่นหลักประกันเพื่อปล่อยตัวชั่วคราว และในวันพรุ่งนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ จะประชุมเร่งรัดคดี ที่ตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ พร้อมชี้แจงความคืบหน้าต่อสาธารณชนด้วย

-------------


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/8_NbGQEHam8


คุณอาจสนใจ

Related News