รวบแล้ว 4 บัญชีม้า เอี่ยวหลอกเด็ก ม.3 ลงทุนออนไลน์ พบใช้เวลายักย้ายบัญชีแค่ 39 วินาที

ตร.ไซเบอร์รวบแล้ว 4 รายรับเปิดบัญชีม้า ให้แก๊งหลอกเด็ก ม.3 ลงทุนออนไลน์ จนต้องจบชีวิตตัวเอง สารภาพได้ค่าจ้าง 100 บาท พบใช้เวลาโยกเงินเหยื่อออกจากบัญชีม้าไปเว็บพนันออนไลน์ แค่ 39 วินาที คาดขยายผลลากคอตัวการใหญ่ภายในสัปดาห์นี้ ครอบครัวเตรียมเผาร่างเหยื่อ วันนี้ (12 ม.ค.) พ่อแม่วอนเจ้าหน้าที่ลุยปราบให้สิ้นซาก

กรณีน้องนายอาทิตย์ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านปากเกร็ด ถูกแก๊งหลอกทำงานออนไลน์ โอนเงินให้มิจฉาชีพ 14,000 บาท เพราะหวังได้ค่าตอบแทนหารายได้เสริม เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกก็พยายามขอเงินคืนแต่กลับถูกกดดันและข่มขู่ เกิดอาการเครียดคิดสั้นผูกคอตัวเองตาย บริเวณป่ากระถิน ใกล้กับห้องเช่า ในซอยติวานนท์- ปากเกร็ด 34

คืบหน้าวานนี้ (11 ม.ค.) ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ จับกุม น.ส.นภาพร หอมจันทร์ อายุ 33 ปี ผู้ร่วมขบวนการรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้แก๊งหลอกนักเรียน ม.3 โดยจับกุมได้ที่ อ.ท่าเรือ จ. พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการกระทำความผิด

โดยชุดสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องและนำไปสู่ปฏิบัติการดีเดย์ตัดบัญชีม้า ปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง เส้นทางการเงินในลักษณะบัญชีม้าของขบวนการดังกล่าว จากการตรวจสอบพบเงินจำนวนดังกล่าวได้ถูกโอนไปยังผู้ต้องหารายนี้ ก่อนที่จะโอนต่อไปยังผู้ต้องหาคนอื่น ๆ ในขบวนการ อยู่ระหว่างการติดตามขยายผลผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ ต่อไป

เจ้าหน้าที่สอบปากคำ น.ส.นภาพร หอมจันทร์ นานกว่า 2 ชม. จากนั้น พล.ต.ต.วิวัฒน์ เผยว่า ภายหลัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ได้ประชุมเร่งรัดคดีให้ทาง บช.สอท. ดำเนินการสืบสวนจับกุม โดยทาง บช.สอท. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นบัญชีม้า จำนวน 8 ราย

โดยวานนี้ (11 ม.ค.) จับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ประกอบไปด้วย น.ส. นภาพร หอมจันทร์ อายุ 33 ปี จับได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ,นายสมบูรณ์ พงษ์เทเวช 55 ปี จับได้ที่ จ.นครสวรรค์ และ น.ส.พบพร วงศ์แข อายุ 28 ปี จับกุมได้ที่ จ.ปราจีนบุรี ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

พล.ต.ต.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ น.ส.นภาพร หอมจันทร์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้เปิดบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยได้รับการชักชวนว่าจ้างจากเพจเฟซบุ๊ก เปิดบัญชีในราคา 100 บาท ตรวจสอบประวัติยังพบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน เมื่อปี 2559 คดีความผิด พ.ร.บ.การพนัน ปี 2561-2563

อีกทั้งเมื่อตรวจสอบในบัญชีที่ตำรวจตรวจยึดได้ พบว่ามีการโอนเข้าออกไปยังเว็บไซต์พนันออนไลน์ ซึ่งผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมเล่นพนันออนไลน์ทุกวัน นอกจากนี้คนร้ายได้มีการออกอุบายหลอกล่อจะให้ส่วนแบ่งกับทางให้บัญชีม้าด้วย แต่เนื่องจากบัญชีเพิ่งมีการเปิดไม่ถึงเดือน ส่วนจะได้จริงหรือไม่จริงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ตำรวจได้เช็คโทรศัพท์ของ น.ส.นภาพร ผู้ต้องหา พบว่ามีการแชตพูดคุยกับมิจฉาชีพ หลังจากที่ไปเปิดบัญชีมาแล้วโดยมิจฉาชีพ ได้ให้เธอไปขอรหัสเข้าแอพจากธนาคาร CIMB ซึ่งเธอก็ไม่รู้ เพราะเธอคิดว่าเปิดบัญชีแล้วจบกัน มิจฉาชีพจึงสั่งให้เธอไปบอกกับพนักงานธนาคารว่า ให้ไปขอรหัสการใช้งาน จากนั้นมิจฉาชีพ ก็ถามถึงรหัสของบัญชีธนาคาร TTB

พล.ต.ต.วิวัฒน์  เปิดเผยว่า คดีนี้มีกลุ่มบัญชีม้าที่รับโอนเงินจากเด็กผู้เสียหาย เมื่อโอนเข้าบัญชีม้าแล้ว เงินจำนวนนั้นจะส่งต่อเป็นทอดๆ จำนวน 8 ทอด ก่อนจะถูกแปลงเป็นเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี ผ่านพ่อค้าเงิน จากการตรวจสอบตำรวจได้อายัด เงินในบัญชีธนาคารได้ 50,000 บาท และตอนนี้ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาที่เปิดบัญชีม้าแล้ว 8 ราย ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี จับกุมได้แล้ว 2 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุม ซึ่งหนึ่งในนี้มีเยาวชนอายุ 17 ปี รับจ้างเปิดบัญชีม้าด้วย

นอกจากนี้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ ได้ยื่นคำขาดว่า จะขยายผลจับกุมเจ้าของอินสตราแกรมที่หลอกลวงเด็กชายที่เสียชีวิต มาดำเนินคดีให้ได้ตามข้อความในจดหมายสั่งเสีย และจะทำให้กรณีนี้เป็นเคสตัวอย่างที่สามารถจับกุมต้นตอของมิจฉาชีพให้ได้ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะได้ตัว แต่เบื้องต้นผู้ต้องหามีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ มีการใช้ VPN หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือน เพื่ออำพราง IP address ให้เป็นของประเทศเพื่อนบ้าน แต่ตำรวจก็พอมีเบาะแสแล้ว ซึ่งหากตัวเจ้าของไอจีอยู่ต่างประเทศ ก็จะประสานตำรวจสากลออกหมายแดง

ส่วนบัญชีม้า 8 ทอด เริ่มตั้งแต่ เหยื่อโอนเงิน เข้ามาให้บัญชีม้าขั้นที่ 1 จากนั้นก็จะโอนส่งต่อกันไป จนถึงขั้นที่ 8 ก่อนจะโอนหรือถอนเพื่อสกุลเงิน เป็นคริปโทเคอร์เรนซีและกลายสภาพเป็นเงินโอนเข้าบัญชีจริงของมิจฉาชีพ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดจะทำภายใน 1 นาที จากการตรวจสอบพบว่าใช้วิธีการยักย้ายถ่ายเทภายในระยะเวลารวดเร็ว จากบัญชีที่ 1 ไปยังบัญชีที่ 5 ไม่ถึง 39 วินาที

ส่วนแผนประทุษกรรม เมื่อเหยื่อเห็นโฆษณาผ่าน Instagram (lhonglost) ที่เปิดรับสมัครงานด้วย ดูคลิปผ่าน YouTube แล้วได้เงิน มีเงื่อนไข ดู 10 คลิป ได้เงิน 400 บาท / 20 คลิป 800 บาท /จนถึง 50 คลิป 2,000 บาท โดยไม่จำกัดอายุ ไม่จำกัดเพศ คนสมัคร และไม่ต้องมีประสบการณ์ก็สามารถทำได้ โดยเหยื่อหลงเชื่อทักแชตเข้าไปสอบถามรายละเอียด และแอดมินได้ชี้แจงและส่งหลักฐานที่มีการโอนเงินว่าทำงานแล้วได้เงินจริง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

จนเหยื่อ ตกลงและโอนเงิน ไป 100 บาท และแอดมินก็ทำทีไปเบิกงาน และมาอ้างกลับว่า งานที่ดู YouTube เต็ม ให้ทำงานอื่นสำรองไปก่อน โดยเป็นงานให้กดรับ ออร์เดอร์สินค้าตามยอดที่กำหนด และจะส่งต่อแอดมินอีกคนให้สอนงาน ซึ่งเหยื่อก็หลงเชื่อ และไปคุยกับแอดมินอีกคนเพื่อสอบถามรายละเอียด

และเมื่อเหยื่อเริ่มทำงานซึ่งเป็นการทดลอง จากนั้นแอดมินได้นำเงื่อนไข แผนการลงทุน มาให้ 5 ขั้น เช่น หากลงทุน100 บาท จะได้ค่าคอมมิชชั่น 100-300 บาท หรือมากสุด ลงทุน 1000 บาท ได้ค่าคอมมิชชั่น 2000 ถึง 3000 บาทพร้อมโบนัส โดยเหยื่อ ตัดสินใจลงทุน 100 บาท และโอนเงินไปแล้ว

จากนั้นแอดมินก็อ้างว่า แผนที่เหยื่อลงทุนไปแล้วนั้นเต็ม ต้องเปลี่ยนแผนการลงทุนใหม่ โดยให้เงินเพิ่มอีก 400 บาทและเมื่อ โอนไปก็ไม่วามารถทำงานได้ เหยื่อจึงถามตรง ๆ ไปว่า “โกงใช่ไหม” จากนั้น แอดมันก็ให้แอดมินอีกคนติดต่อมาและอธิบาย และเมื่อเหยื่อจะถอนเงิน แอดมินก็บอกว่า ทุนในระบบไม่เพียงพอต้องโอนเงินเข้าไปเพิ่มเพื่อจบงานที่ลงทุนไป แจ้งว่าให้โอนเพิ่มอีก 2,049 บาท

เหยื่อหลงเชื่อตัดสินใจโอนไปอีก แต่ก็ไม่สามารถถอนออกมาได้ และสงสัยว่าถูกโกงจึงถามไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แอดมินตอบกลับมาว่า จะฟ้องกลับในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้เหยื่อกลัวและตัดสินใจโอนไปอีกครั้ง จำนวน 11,973.71 บาท เพื่อจะจบงาน

แต่เมื่อโอนไปอีกแอดมินก็บอกว่าเงินยังไม่เพียงพอต้องเพิ่มเงินลงทุนอีก ทำให้เหยื่อบอกว่าไม่มีเงินแล้ว และได้ขอยืมเงินแอดมิน เพื่อมาลงทุน จำนวน 13,000 บาท แต่แอดมินไม่ให้ ทำให้เหยื่อเครียด และขู่ว่าจะมีข่าวเด็กตายเพิ่มอีก 1 คน และส่งรูปเชือกไปให้พร้อมข้อความ “ซาโยนาระ” และแอดมินตอบกลับมาว่า “goofluck”

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวทางรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับกับชุดทำงานไปทำงานอย่างเต็มที่ให้ทำตามคำมั่นของนักเรียนชั้น ม.3 ได้สั่งเสียไว้ ว่าตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างเต็มความสามารถ กวาดล้างทั้งขบวนการ  

ในส่วนของตัวการใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี Instagram ต้องยอมรับว่า คนร้ายมีความเชี่ยวชาญทางด้านคอมพิวเตอร์มีการปกปิดตัวตนโปรไฟล์เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะสามารถดำเนินการออกหมายจับ และจับกุมตัวได้ภายในสัปดาห์นี้

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (11 ม.ค.66) ตำรวจจับชายเปิดบัญชีเป็นรายที่ 4 ชื่อนายโอภาส ผลาพรม อายุ 26 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด จับได้ที่บ้านใน จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบัญชีที่ผู้ตายโอนเงินเข้าไป ล่าสุดยังเหลือผู้เปิดบัญชีม้าอีก 4 รายที่อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/bJZyhvHFCqY