'ชูวิทย์' เปิดพยานปากเอก เหยื่อถูก 'ตู้ห่าว' เบี้ยวเงิน ป.ป.ส.จ่อยึดทรัพย์ 2 พันล้าน

ความคืบหน้าคดีตู้ห่าว นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เผยข้อมูลจากพยานอักษรย่อ อ. และ อักษรย่อ ป. ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ เป็นผู้ที่เห็นเงินสด

โดยนายชูวิทย์ ได้พา 1 ในพยานที่เป็นบุคคลใกล้ชิด คือ นาย อ. มาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน นาย อ. เล่าวว่า นายตู้ห่าวสั่งให้คนไปถอนเงินสดครั้งละ 20-30 ล้านบาทต่อวัน จากธนาคารแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ซึ่งเป็นเงินจากประเทศจีนที่โอนเข้ามาในไทย ซึ่งได้พาไปให้ปากคำกับอัยการแล้ว โดยที่ไม่ผ่านตำรวจเพราะไม่ไว้ใจการทำงานเช่นกัน

ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณเจี๊ยบ หนึ่งในพยานเหยื่อตู้ห่าว เล่าว่า ตนเปิดบริษัทเกี่ยวกับการซ่อมงานกระจกอะลูมิเนียมและฝ้า ฯลฯ รู้จักกับตู้ห่าวมาตั้งแต่ทำงานด้วยกันที่ภูเก็ต ตอนนั้นได้เงินดี จึงปิดบริษัทแล้วตามมาทำงานที่ กมม. และสมุทรปราการ เพื่อเปิดร้านใหม่และได้มีโอกาสไปทำงานร่วมกับตู้ห่าว ซึ่งตนยืนยันว่าได้รับงาน ได้รับเงินกับตู้ห่าวโดยตรง

สำหรับตู้ห่าว รับงานมา 4 ไซต์งาน มูลค่าประมาณ 20 กว่าล้านบาท ทำตั้งแต่ปี 2559 แต่ครั้งที่ตู้ห่าวจ่ายเงินให้งวดสุดท้ายคืองวดเดือน ก.ย. ปี 2561 ประมาณ 300,000 บาท เหลืออีก 8.5 ล้านบาท จนถึงปัจจุบัยนี้ยังไม่ได้คืน ซึ่งรู้มาว่าตู้ห่าวมีเงินเป็นหลายพันล้าน แต่ทำไมไม่จ่าย ทุกคนเดือนร้อนกันเยอะ ซึ่งตนได้ไปหาตำรวจและอัยการมาแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงมาหานายชูวิทย์ เพราะคิดว่า เป็นคนจริง ตรงไปตรงมา มองว่าจะมีความหวังตรงนี้ ขณะเดียวกันเวลาไปเบิกเงิน นายตู้ห่าวใช้คำพูดไม่น่าฟัง คำด่ามาเต็ม ไอ้พวกตัวเหี้ยมากันอีกแล้ว พร้อมปฏิเสธให้เงินอ้างว่าไม่มี บางครั้งถึงขึ้นทุบโต๊ะ ขว้างนู้นขว้างนี่ใส่ แต่ทุกคนไม่สู้เพราะหวังจะได้เงินคืน

ทั้งนี้ เวลาก่อนไปเบิกเงิน จะมีคนสนิท ที่เป็นคนเดียวกับที่มาเป็นพยานให้นายชูวิทย์วานนี้ จะเป็นคนบอกว่าตู้ห่าวเบิกเงินสดมาแล้ว มาทวงกันได้

คุณเจี๊ยบ ยืนยันว่า ไม่รู้มาก่อนว่านายตู้ห่าวทำธุรกิจสีเทา เพิ่งมาทราบตอนเห็นข่าว ซึ่งตนเคยเข้าไปสร้างบ้านให้นายตู้ห่าว ย่านลาดกระบังเมื่อปี 62 ซึ่งหมู่บ้านนั้นมีคนจีนอยู่ทั้งหมด ตั้งแต่คนบริหาร พนักงาน ซึ่งคนไทยเข้าไปไม่ได้เลย จึงไม่รู้ว่าข้างในนั้นทำอะไรกันบ้าง

เมื่อวานนี้ (5 ม.ค.) นายวิชัย ชัยมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดของนายตู้ห่าว และพวก ว่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปปส. ได้รับข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมและจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และได้มีการตรวจยึดทรัพย์สินไปมูลค่า 1200 กว่าล้านบาท

ล่าสุดทางปปส. ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงินและทรัพย์สินอื่นๆ จากแหล่งข้อมูลต่างๆ จนสามารถทราบข้อมูลเครือข่ายทรัพย์สินได้เพิ่มอีกมากกว่า 2,000 ล้านบาทรวมมูลค่าแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท โดยพบว่าทรัพย์สินที่ตรวจพบเพิ่มเป็นสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งทางปปส. เตรียมจะเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆ และเปิดโอกาสให้เจ้าของทรัพย์สินเข้ามายื่นเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ

ส่วนข้อมูลที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้นำมายื่นกับทาง ป.ป.สไว้ก่อนหน้านี้ ถือว่าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ หากเปรียบเทียบกับการใบ้หวยหรือการออกเลขสลาก ก็เป็นการให้เลขตรงๆ และมีความเป็นไปได้ที่จะถูกรางวัล โดย 1 ในสถานที่ที่นายชูวิทย์ได้ให้ข้อมูลไว้ ปปส. จะเข้าไปตรวจสอบในเร็วๆนี้ ก่อนที่จะมีการแถลงสรุปข้อมูลการเข้าตรวจยึดทรัพย์ต่างๆโดยจัดให้นายสมศักดิ์เทพสุทินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้แถลงสรุปข้อมูลต่างๆกับสื่อมวลชน

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/RJ38NUTfPEI