ทส.ประชุมสอบอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เรียกสินบน บ่ายวันพรุ่งนี้ ฟันธงผิดวินัยข้าราชการหรือไม่

ความคืบหน้าผลสอบข้อเท็จจริงอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเรียกสินบน เบื้องต้นมีความชัดเจน คณะกรรมการสอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ทส.เตรียมเรียกประชุมบ่ายวันพรุ่งนี้ ฟันธงเข้าข่ายผิดวินัยข้าราชการหรือไม่

กรณีเหตุใหญ่ส่งท้ายปี ที่เจ้าหน้าที่กองบังคับการปรามปราบการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือบก.ปปป. พร้อมเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. เข้าไปตรวจค้นภายในห้องทำงานของ นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ หลังจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯได้เข้าไปมอบกระเช้าปีใหม่ พร้อมแนบซองบรรจุธนบัตร เงินสด 9 หมื่น 8 พันบาท เรียบร้อยแล้ว และต่อมาเจ้าหน้าที่บก.ปปป.และป.ป.ช.จึงซ้อนแผนเข้าจับกุม และขอตรวจค้น เจรจาขอเปิดเก๊ะ จึงพบหลักฐาน เงินสดบรรจุในซอง

ก่อนเปิดเซฟรวมถึงลิ้นชักโต๊ะทำงานอื่นและกระเป๋าสะพาย พบเงินสดนับได้ อีก 4 ล้าน 9 แสนบาท โดยแต่ละซองได้เขียนกำกับเป็นเงินมาจากเดือนไหน หลังจากนั้นจึงเชิญตัวไปสอบปากคำต่อ ที่บก.ปปป.กระทั่งได้ขอประกันตัวในคืนวันเกิดเหตุ ด้วยเงินสด 4 แสนบาท จากนั้นกระทรวงทรัพย์ฯสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน และนายกรัฐมนตรีเซ็นต์โยกย้าย มาประจำที่สำนักนายกรัฐมนตรีชั่วคราวระหว่างสอบ (แฟ้มภาพ กุศล)

วันนี้ทีมข่าวได้สอบถาม นายกุศล รองปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการสอบฯ บอกว่า วันพรุ่งนี้ (3ม.ค.66) ช่วงบ่ายได้เรียกประชุมกรรมการ นัดที่ 2 เนื่องจากช่วงเช้าจะต้องไปเอาหลักฐานจากบก.ปปป. มาให้คณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริง ข้อหาเรียกรับสินบน แต่เบื้องต้นเท่าที่ดูจากเหตุการณ์และหลักฐานก็ชัดเจนอยู่แล้วถึงความผิด โดยในวันพรุ่งนี้ ต้องรอฟังคณะกรรมการจะฟันธงชี้มีความผิดวินัยข้าราชการหรือไม่ ก่อนให้คณะกรรมการสอบวินัยของกระทรวงอีกชุด สอบต่อ โดยชุดนี้ต้องให้เวลา เพราะต้องสอบทุกคนที่มีชื่อปรากฎหลักฐานในซองบรรจุธนบัตร

ในส่วนของผู้ร้องเรียน จนเป็นที่มาของการบุกรวบตัวอธิบดีกรมอุทยานฯ นายชัยวัฒน์ ล่าสุด ตำรวจได้นัด ซึ่งเข้าให้ปากคำ ในวันพุธที่ 4 มกราคมนี้ รวมถึงได้ทยอยออกหนังสือเชิญพยานมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งนายชัยวัฒน์ ระบุว่า มีหลักฐานเป็นคำสั่งของอธิบดีฯ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ที่เป็นจุดเริ่มต้นของสินบนต่างๆที่เกิดขึ้น และก่อนหน้านี้ นายชัยวัฒน์ ได้เคยส่งหนังสือและเนื้อหาอย่างละเอียดถึงนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการ ปปช.เมื่อ 4 สิงหาคมปีที่แล้ว เพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในทางลับ โดยหนังสือนี้ ยังได้แจกแจงรายละเอียดและตัวอย่างการเรียกรับเงิน ทั้งจากค่าวิ่งเต้นตำแหน่ง และส่วนแบ่งจากโครงการไว้ด้วย