อาชญากรรม

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 10 กำลังพล ร.ล.สุโขทัย ญาติกอดรูปร่ำไห้ ติดใจเหตุช่วยเหลือล่าช้า

โดย thichaphat_d

29 ธ.ค. 2565

60 views

กองทัพเรือลำเลียงร่าง 10 กำลังพล ร.ล.สุโขทัย ขึ้นเครื่องบินจากกองบิน 5 ไปสัตหีบ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ส่งมอบให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนา ญาติเศร้าจุดธูปบอก “จะพากลับบ้าน”


วานนี้ (28 ธ.ค.) เวลา 11.30 น. ทางกองทัพเรือ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลำเลียงร่างกำลังพล 10 นาย ที่เสียชีวิตจากเหตุเรือหลวงสุโขทัย อับปาง ที่ได้ทำการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเสร็จสิ้นแล้ว ออกจากมูลนิธิสว่างราษฏร์ศรัทธาธรรมสถาน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศแบบ C-130 ที่กองบิน 5 อ่าวมะนาว ไปยังสนามบินอู่ตะเภา เพื่อประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบน้ำศพ และสวดพระอภิธรรมศพ ที่ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากองทัพเรือ ได้จัดรถมินิบัส อำนวยความสะดวกให้กับญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต รับญาติมาที่มูลนิธิสว่างฯ เพื่อทำเรื่องติดต่อรับศพตามขั้นตอน/ จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำรถตู้ ถอยเข้าไปรับร่างของ 10 กำลังพลทีละคันบริเวณอาคารที่เก็บศพของมูลนิธิสว่างฯ โดยร่างของผู้เสียชีวิตทุกนายบรรจุไว้ในหีบศพสีขาวคลุมด้วยธงชาติ


หลังจากที่นำร่างขึ้นรถกู้ภัยครบทั้ง 10 ร่างแล้ว ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำรถมาตั้งขบวน ขณะที่ทางญาติและครอบครัวได้ถือกรอบรูป เดินมาจุดธูปสั่งลาผู้เสียชีวิตแต่ละรายที่อยู่บนรถตู้ของกู้ภัย/ ก่อนที่ขบวนจะเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 10 นาย ออกจากมูลนิธิสว่างฯ ไปยังกองบิน 5 อ่าวมะนาว


หลังจากที่กู้ภัยนำโลงศพของทหารกล้าเดินทางไปถึงกองบิน 5 มีทหารกองเกียรติยศตั้งแถวรอรับ ทำพิธีเคารพศพจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ โดยมีพลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการกองทัพเรือภาคที่ 1 และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพอากาศและกองทัพเรือ ร่วมส่งร่างเหล่าทหารกล้า


ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต มานั่งที่เก้าอี้ร่วมพิธีสดุดีก่อนส่งร่างผู้เสียชีวิตขึ้นเครื่องบิน โดยญาติอยู่ในอาการเศร้าเสียใจนั่งกอดรูปร้องไห้ตลอดเวลา โดยมีทีมแพทย์มาช่วยเยียวยาสภาพจิตใจ บางครอบครัวบอกว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุพอทราบว่ามีผู้สูญหาย ก็ไปเฝ้าดูการค้นหาทุกวันจนเจอร่าง แม้จะทำใจไว้แล้ว แต่ลึกๆ รับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้


ทีมข่าวได้คุยกับแม่ของ พลทหาร จำลอง แสนแก เผยทั้งน้ำตาว่า ลูกชายเพิ่งได้เป็นพลทหารแค่ 4 เดือน อยากทำหน้าทีลูกผู้ชาย ลูกชายบอกจับใบดำใบแดงได้เป็นทหารอะไรก็เอา ซึ่งจับใบแดงได้เป็นทหารเรือ แม่ภูมิใจในตัวลูกชาย จากนั้นคุณแม่ก็ร้องไห้บอกว่า ภูมิใจในตัวลูกและรักลูก หลังทำพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพเสร็จ จะนำร่างของลูกชายไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาที่บ้าน จ.ขอนแก่น


ขณะที่พ่อของ ‘จ่าก็อต’ จ่าตรี สิริธิติ งามทอง คือผู้ที่ปรากฎในคลิปที่ได้กล่าวว่า “ถ้าคลิปนี้แพร่ออกไป แสดงว่าเรายังมีชีวิตรอดกันอยู่ จากเรือหลวงสุโขทัย รอด วันนี้ขอให้รอด” คุณพ่อนั่งกอดรูปชองลูกชายร้องไห้ตลอด อยากจะพูดความในใจให้นักข่าวฟัง แต่ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ พอพูดก็จะร้องไห้ออกมา พูดสั้น ๆ เพียงว่า “ภูมิใจในตัวลูกแล้ว”



จากนั้นนายทหาร ร่วมกันแบกหีบศพสีขาวคลุมด้วยธงชาติ เดินผ่านทหารกองเกียรติยศ ที่ยืนทำความเคารพ ลำเลียงร่างขึ้นเครื่องบินของกองทัพอากาศแบบ C-130 ไปยังสนามบินอู่ตะเภา จ.ระยอง และส่งต่อไปยัง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมีญาติของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมาร่วมรับศพ ที่อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ ร่วมเดินทางกลับไปด้วย


ด้านนางศิรินภา อีสา อายุ 54 ปี แม่ของ จ่าโท สหรัฐ  อีสา หรือจ่าบูม อายุ 22 ปี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอว่า ลูกชายมีความตั้งใจอยากเป็นทหารเรือ เขาบอกว่าใส่แล้วหล่อ มันเป็นความฝันของลูกชาย เค้าเห็นพี่ชาย (ลูกพี่ลูกน้อง) ซึ่งเป็นทหารเรือเหมือนกัน ใส่ชุดทหารเรือแล้วหล่อ จึงมีความฝันอยากเป็นทหารเรือเหมือนพี่ชาย และได้ไปสอบก่อนบรรจุรับราชการ

ในวันเกิดเหตุลูกชายใช้โทรศัพท์ของเพื่อนที่อยู่บนเรือหลวงสุโขทัย โทรมาบอกแม่ว่า “เรือผมจะจมจะมีเรือมาช่วยแม่ไม่ต้องตกใจ แม่ผมไม่ได้เสื้อชูชีพ ผมได้แต่ห่วง” พอแม่ฟังก็รู้สึกตกใจที่ลูกชายไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ จึงถามลูกชายว่าบนเรือไม่มีเสื้อชูชีพหรอ ลูกบอกบนเรือมีคนเยอะ ทุกคนบนเรือตกใจมาก จากนั้นก็ตัดสายไป


จากนั้นแม่โทรกลับไปที่เบอร์ดังกล่าว เนื่องจากเสื้อผ้าและโทรศัพท์ของลูกชายอยู่ภายในเรือ แม่จึงบอกกลับไปว่าช่างมันให้ซื้อใหม่ทิ้งไปเลย แต่ลูกชายห่วงเสื้อผ้าชุดทหารของเขา ซึ่งมีบางคนที่เก็บสัมภาระติดตัวมาด้วย แม่พยายามสอบถามว่ามีเรือมาช่วยหรือยัง ลูกตอบกลับว่าเรือหลวงกระบุรี กำลังมารับ


นางศิรินภา กล่าวต่อว่า ตนเองบอกให้ลูกชายตั้งสติ เราต้องรอด แล้วสายก็ตัดไป แม่โทรกลับไปอีกครั้งก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีก ซึ่งปลายสายโอนไปที่แฟนสาวของเพื่อนลูกชาย คืนนั้นแม่ทราบว่าทุกคนปลอดภัยดีจึงนอนหลับไป ตื่นขึ้นมาทราบว่าลูกชายถูกคลื่นซัดสูญหาย จึงรีบเดินทางมาที่ท่าเรือประจวบ อ.บางสะพาน


  “วันแรก ๆ คิดว่าลูกชายต้องลอยคออยู่กลางทะเล รอความช่วยเหลือ มาเฝ้ารอดูการค้นหาตั้งแต่วันแรก กระทั่งพบร่างของลูกชาย คิดว่าลูกเราจะรอดสุดท้ายไม่รอด ส่วนสาเหตุที่ทำให้เรืออับปาง แม่ไม่ขอพูดถึง มองว่ากองทัพเรือทำอย่างเต็มที่แล้ว อย่างน้อยก็ตามหาลูกชายกลับคืนมาได้ แม้จะอยู่ในสภาพร่างไร้วิญญาณ แค่นี้แม่ก็ดีใจแล้ว ดีกว่าสูญหาย”

-----------------------------------------------


วานนี้ (28 ธ.ค.) ที่ ฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มีการเคลื่อนร่างกำลังพล 10 นาย ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ ร.ล.สุโขทัย อับปางที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์  หลังจากผ่านขั้นตอนและกระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเสร็จสิ้น เพื่อมาประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ โดยหนึ่งในนั้นคือร่างของ จ่าเอกบุญเลิศ ทองทิพย์


ซึ่งวานนี้ ผู้ใช้ Tiktok รายหนึ่งได้โพส์คลิป ขณะที่คุณทิพยมณี หลวงผ่าน 30 ปี ภรรยา และเด็กชาญบุญมี ทองทิพย์ หรือน้องนาวี อายุ 5 ไปรับร่างของคุณพ่อ คือจ่าเอกบุญเลิศ จากคลิปลูกชายวัย 5 ขวบ ซึ่งสวมหมวกทหารเรือ ปักว่า ร.ล.สุโขทัย พร้อมถือรูปพ่อกอดไว้กับอก มองรูปพ่อร้องไห้ตลอดเวลา


ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณทิพยมณี ภรรยาของจ่าเอกบุญเลิศ เธอเล่าสั้นๆ ว่า ลูกชายมีความฝัน อยากเป็นทหารเหมือนพ่อ ทุกคนถามเขาก็บอกว่าอยากเป็นทหารเหมือนพ่อ ซึ่งสามีและลูกก็มีความผูกพันกันมาก สามีเพิ่งจะกลับไปหาลูกมาที่ จ.บึงกาฬ ไม่นานมานี้เอง


ส่วนตนเพิ่งมาทราบว่าสามีเสียชีวิตเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. เพราะมีเจ้าหน้าที่โทรมาแจ้ง แต่ก็รู้ว่าเกิดเหตุการณ์เรือล่มอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าบอกอะไรลูก


ส่วนลูกรู้ข่าวพ่อจากคนอื่นพูดกัน และน้องดูตามข่าวเอง ซึ่งน้องก็รู้ว่าพ่อของตนเองนั้นอยู่บน ร.ล.สุโขทัย ลูกเห็นข่าว ลูกก็เดินมาบอกว่า “แม่ดูข่าวไหม เรือพ่อนะ”


ช่วงหนึ่งน้องนาวี สวมหมวก ร.ล.สุโขทัยทีมข่าวสอบถามว่าอยากเป็นทหารเหมือนพ่อใช่หรือไม่น้องนาวีพยักหน้าบอกว่า “ครับผม”


ขณะที่อีกหนึ่งครอบครัว คุณกัญญารัตน์ เชิดชิด ภรรยา ของจ่าเอกชูชัย เชิดชิด สังกัด กร. ผู้ที่มีหน้าที่ดูแลข้าวปลาอาหารให้ทุกคนประจำเรือ เล่าว่า ตอนเช้าก่อนจ่าชูจะออกจากบ้านไปขึ้นเรือ สามีได้เปิดดูพยากรณ์ ว่าที่จะไปมันคลื่นแรงก็ได้บอกว่า “ทำไมคลื่นมันแรงจัง จะได้กลับบ้านไหมเนี่ย” ซึ่งตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร นึกว่าดูตามเหตุการณ์ที่ดู ซึ่งสามีก็ไม่ได้กังวลใจหรือปรึกษาว่าจะออกเรือดีหรือไม่


ด้านนายรัตนชัย หรือน้องนิว เล่าว่า ตนรู้เรื่องจากเพื่อนที่เป็นทหาร บอกมาว่าเรือที่ล่มเป็นเรือพ่อของตน ตอนแรกที่รู้ว่าพ่ออยู่บนเรือ จากนั้นก็มีรายงานว่าทุกคนปลอดภัย ตอนนั้นก็โล่งอก ว่าจะรอเจอพ่อกลับมา ก่อนสุดท้ายจะมีคนโทรมาแจ้งว่าเจอพ่อที่เสียชีวิต


ทั้งนี้ ส่วนตัวตนรู้สึกอยากฟังคำชี้แจงจากทางผู้เกี่ยวข้องประเด็นว่าทำไมวันนั้นต้องออกไป / เกิดเหตุการณ์ได้ยังไง / การช่วยเหลือล่าช้าและทำไมช่วยเหลือไม่ทัน สุดท้ายตนอยากบอกพ่อว่า ไม่ต้องเป็นห่วง หลับให้สบาย ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว


ด้านคุณวิมลวัลย์เพื่อนของจ่าชู เอกชูชัย กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนมารู้ข่าวว่าเพื่อนคือหนึ่งในบุคคลสูญหาย ก็ตกใจ และรู้สึกว่าเพื่อนเราจะอยู่อย่างไร เพราะเพื่อนไม่ค่อยแข็งแรง ผ่าตัดขามา แต่ก็มีความหวังตลอดว่าจะมีคนสามารถไปช่วยเหลือได้ แต่สุดท้ายก็พบว่าเสียชีวิต

ตนติดใจประเด็นการช่วยเหลือล่าช้า รู้อยู่แล้วว่าเรือจะอับปาง เพราะมีโพสต์ของ พ.จ.อ.อำนาจ พิมพ์ดี ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือ ซึ่งเคยโพสต์เอาไว้ว่า “ช่วยผมด้วย เรือกำลังจะจม พิกัด090 ห่างฝั่งบางสะพานน้อย 20 ไมล์” จึงตั้งคำถามว่าทำไมการช่วยเหลือถึงล่าช้า และยิ่งใช้เวลานาน กำลังพลยิ่งถดถอย แล้วนี่ใช้เวลากี่ชั่วโมง โอกาสที่จะรอดมองว่ายากซึ่งหลักๆเกิดจากการช่วยเหลือช้า


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/sSkT5ezXZVs

คุณอาจสนใจ

Related News