คนร้ายงัดตู้เซฟ อาศัยเสียงดังจากงานดนตรีหมอลำกลบ ได้ทองไปกว่า 30 บาท เงินสดนับแสน พบก่อนหน้าป่วนหนักหมู่บ้านข้างเคียง

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 13 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังหนึ่ง ใน ต.ท่าวัด อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น พบกับนางกาญจนา อายุ 49 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งถูกคนร้ายเข้าไปยกเอาตู้เซฟที่ตั้งไว้ในห้องนอนไปทุบทำลายอยู่ในป่าหลังบ้าน ซึ่งข้างในเก็บทองรูปพรรณต่างๆ น้ำหนักรวมกว่า 30 บาท พร้อมเงินสดอีกกว่า 1 แสนบาท โดยคนร้ายได้ขโมยไปหลังจากทุบทำลายตู้เซฟจนพังเสียหาย



นางกาญจนา อายุ 49 ปี เจ้าของบ้าน พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่ตั้งตู้เซฟ ในห้องนอน พบเพียงรอยฝุ่นบนพื้น ส่วนตู้เซฟที่หายไปนั้นเป็นขนาดกลางที่มีน้ำหนัก 40 กิโลกรัม พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าคืนวันเกิดเหตุ ตรงกับคืนวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ต่อเนื้องถึงเช้าวันที่ 12 ธันวาคม ที่มีหมอลำชื่อดังมาแสดงที่วัดเทวราช บ้านทุ่งตะวัน ต.ท่าวัด อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ห่างจากบ้านไปประมาณ 1 กม. ตนจึงไปดูหมอลำ และกลับเข้าบ้านในช่วงเช้ามืด ตื่นนอนในช่วงสายวันเดียวกัน ก็ไม่เห็นตู้เซฟที่ตั้งอยู่ในห้องแล้ว จึงเชื่อว่ามีคนร้ายลักลอบเข้ามาในบ้านเพื่อยกเอาตู้เซฟไป และเชื่อว่า คนร้ายเข้ามาทางประตูข้างบ้านแล้วมางัดลูกบิดห้องนอนยกเอาตู้เซฟไป

หลังจากคนร้ายออกจากประตูบ้านได้ น่าจะยกตู้เซฟข้ามรั้ว แล้วไปทุบทำลายในป่าละเมาะหลังบ้าน งัดเอาทรัพย์สินในตู้ไป ซึ่งในคืนเกิดเหตุ เสียงของเครื่องเสียงวงดนตรีหมอลำดัง จนสังกะสีสะเทือน จึงไม่มีใครได้ยินเสียงของคนร้าย ส่วนจุดอื่น ๆ ในบ้านไม่มีรอยรื้อค้นแต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังมีเพื่อนบ้านอีก 5 หลังก็ถูกคนร้ายเข้าไปขโมยเอาทรัพย์สินในคืนเดียวกัน เสียหายไปหลายรายการ อยากจะให้ตำรวจทำการสืบสวนจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายให้ด้วย เพราะเหตุการณ์ที่มีคนร้ายลักทรัพย์เกิดขึ้นในพื้นที่บ่อยมาก แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ เกรงว่าหากมีการก่อเหตุซ้ำอีก แล้วคนร้ายพบกับเจ้าของบ้าน เจ้าของทรัพย์ อาจจะลงมือก่อเหตุร้ายแรงกับเจ้าของทรัพย์สินก็ได้



ผู้เสียหายบอกอีกว่า ตู้เซฟใบที่ถูกคนร้ายลักลอบเข้ามายกไปนั้น ซื้อมาได้ประมาณ 20 ปีแล้วเอามาเก็บของมีค่าที่ครอบครัวสะสมกันไว้ และระยะหลังๆ นี้มีข่าวแพร่สะพัดเรื่องคนร้ายอาละวาดลักทรัพย์และทองรูปพรรณในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ทางขวาง อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นหมู่บ้านติดกัน ได้ทองคำรูปพรรณไปกว่า 40 บาท ผู้เสียหายกว่า 10 หลัง แต่ตำรวจยังจับกุมตัวคนร้ายไม่ได้ ครอบครัวกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ตน พร้อมด้วย พ่อ แม่ และลูกสาวอีก 2 คน ต่างก็นำทองที่มีอยู่ เอามาเก็บรวมกันไว้ในตู้เซฟ ซึ่งมีทั้งสร้อยข้อมือ สร้อยคอ แหวน รวมแล้วน้ำหนักประมาณ 30 บาท และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพิ่งขายข้าวนาปีได้เงินมาร่วมสองแสนบาท ยังไม่เอาไปฝากธนาคาร เพราะครอบครัวยังต้องส่งเงินให้ลูกหลานที่กำลังเรียนหนังสือ จึงนำเงินทั้งหมดเก็บไว้ในตู้เซฟ แล้วก็มาถูกคนร้าย ลักลอบเข้ามาในบ้าน ยกเอาตู้เซฟออกไปงัดเอาทรัพย์สินที่ป่าละเมาะหลังบ้าน ซึ่งภายหลังมั่นใจว่าตู้เซฟถูกคนร้ายลักลอบยกไปงัดเอาทรัพย์สินในป่าละเมาะหลังบ้าน จึงแจ้งตำรวจ สภ.แวงน้อย มาตรวจที่เกิดเหตุและสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็ว ตอนนี้ทุกข์ใจและกลัวว่าคนร้ายจะก่อเหตุขึ้นอีก