ช่างประปาโหด ฆ่าชิงทรัพย์อดีตแอร์โฮสเตส หมกศพคาบ้านหรู เชิดเงินกว่า 4 แสนซื้อทอง-จ่ายพนันออนไลน์

รวบคนร้าย ในคราบช่าง ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ หญิงวัย 54 อดีตแอร์โฮสเตส มัดมือมัดเท้าหมกศพคาหมู่บ้านหรู นาน 3 วัน สารภาพต้องการนำเงินไปใช้หนี้พนัน และซื้อทองคำรูปพรรณเก็บสะสม

วานนี้ (4 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสืบสวน สน.โคกคราม คุมตัว นายโย (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ หญิงอายุประมาณ 50 ปี ภายในหมู่บ้านหรู ย่านนวลจันทร์ เมื่อช่วงบ่าย ของวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยตำรวจจับกุม ได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาย่านบางบัวทอง และสามารถยึดของกลางทรัพย์สิน ได้เป็น รถยนต์ยี่ห้อมาสด้า รุ่น CX5 สีน้ำเงิน  1 คัน / สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 10 บาท 1 เส้น / สร้อยข้อมือ น้ำหนัก 5 บาท 1 เส้น / ทองคำแผ่น 1 สลึง 1 แผ่น / โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และ ไอแพด 1 เครื่อง

โดยพลตำรวจตรี อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้บอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากญาติผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 พ.ย. หลังจากที่ทางญาติผู้เสียชีวิต ได้นัดหมายกับผู้เสียชีวิตว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน แต่ไม่สามารถติดต่อผู้เสียชีวิตได้ จึงได้ไปหาผู้เสียชีวิตที่บ้าน และเมื่อเปิดเข้าไปภายในบ้านพบว่าเสียชีวิตแล้ว

เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบและพบว่า รถยนต์ของผู้เสียชีวิตหายไปจากบ้าน ชุดสืบสวนจึงได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิดรถของผู้เสียชีวิต จนทำให้ทราบว่า ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์ สีขาวของตนเองมายังบ้านผู้เสียชีวิต ในเวลา 13.50 น. ของวันที่ 30 พ.ย. และเข้าไปในบ้านผู้เสียชีวิต จากนั้นเวลาประมาณ 15.30 น. ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์ สีน้ำเงิน ของผู้เสียชีวิตออกไปจากบ้าน ก่อนจะนั่งรถแท็กซี่ย้อนกลับมาเอารถยนต์สีขาวของตัวเองกลับไป

จากการสอบปากคำผู้ต้องหา พบว่า เป็นช่างซ่อมทำได้หลายอย่าง และเคยเข้าไปทำงานให้กับผู้เสียชีวิตที่บ้านมาแล้ว  2 ครั้ง และครั้งที่เกิดเหตุ เป็นครั้งที่ 3  ผู้เสียชีวิตได้โทรตามให้นายโย มาซ่อมท่อน้ำประปา จึงสามารถเข้าออกหมู่บ้านได้ แต่ผู้ก่อเหตุ เห็นพฤติกรรมของผู้เสียชีวิตว่ามีการชำระเงินเป็นการโอนเงินผ่านบัญชีโดยใช้ไอแพด ทำให้ผู้ก่อเหตุเห็นจำนวนเงินในบัญชีและเห็นรหัส จึงสบโอกาสลงมือก่อเหตุเพื่อชิงทรัพย์ และจับผู้เสียชีวิตมัดมือมัดเท้าและทำร้ายร่างกาย เชื่อว่าสามารถที่ทำร้าย เพราะมีการขัดขืนต่อสู้ และคนร้ายได้ใช้อาวุธเป็นมีดทำครัวจากภายในห้องครัวของผู้เสียชีวิต มาแทงตามร่างกาย 6 จุด กลางหลัง 2 จุดด้านหน้าช่วงลำตัว 3 จุด และ ที่บริเวณขา 1 จุด ก่อนจะทิ้งอาวุธที่ใช้ก่อเหตุไว้ภายในห้องครัว

เบื้องต้น ตำรวจคาดว่า ไม่ได้วางแผนมาก่อน เพราะมีการแสดงตัวตนในการเข้าออกหมู่บ้านไม่ได้ปกปิดตัวตน และทรัพย์สินที่ผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ไป เป็นเงินสดที่ได้จากบัญชีของผู้เสียชีวิต 60,000 บาท และโอนเงินจากไอแพดของผู้เสียชีวิตอีกกว่า 4 แสนบาท ซึ่งผู้ต้องหานำเงินส่วนใหญ่ไปซื้อทองคำมาเก็บไว้ และส่วนหนึ่งไปจ่ายค่าพนันออนไลน์ อีกทั้ง ผู้ต้องหายังมีการนำรถยนต์ของผู้เสียชีวิตไปขับขี่ใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย จึงเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุคงย่ามใจ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบประวัติ พบว่า เมื่อ ปี 2553 ผู้ต้องหาเคยมีคดีชิงทรัพย์ในขณะที่ยังเป็นเยาวชน และหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์อำพรางตัวด้วยการเป็นช่างหวังจะไปชิงทรัพย์หรือไม่

ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ฝากเตือนด้วยว่า กรณีบุคคลที่อยู่บ้านคนเดียว ให้ระมัดระวังตัวเอง อย่าไว้ใจให้มีช่างหรือใครมาที่บ้านเพราะคนร้ายอาจจะใช้จังหวะสบโอกาสในการก่อเหตุได้

ขณะที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังยัง ศาลอาญา ถนนรัชดา ผู้ต้องหาได้พูดสั้นๆว่า “ขอโทษ แล้วเดินขึ้นรถผู้ต้องขังไป”

ด้านชายอายุ 22 ปี หลานชายของผู้เสียชีวิต บอกว่า หลังจากที่ป้าเกษียณจากอาชีพแอร์โฮสเตส ก็มาอยู่บ้านหลังที่เกิดเหตุ อาศัยอยู่เพียงคนเดียว และปกติ ป้าจะไม่ไว้วางใจใคร ให้เข้ามาบ้าน และปกติแล้วป้าจะไม่โชว์ทรัพย์สินให้ใครเห็น ส่วนผู้ก่อนเหตุคนนี้ ไม่เคยมีใครเห็น รู้จักหรือเคยใช้บริการเลย ยอมรับว่าเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะสัปดาห์หน้าจะรับปริญญาแล้ว และอยากให้ป้าไปร่วมงานเพราะเคยเลี้ยงดูกันมาก่อน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/gBkUTyKVDQA