ล่าตัวชายวัย 52 ขืนใจสาว 17 จนท้องขู่ฆ่าห้ามบอกใคร

ล่าชายวัย 50 ปี เสพติดยาบ้า หื่นกามบุกข่มขืนเด็กสาว ปวช. ปี 2 วัย 17 ปี คาขนำ อาศัยจังหวะพ่อแม่เหยื่อไปกรีดยางพารา ถึง 2 ครั้งในเดือนเดียว ก่อนเหยื่อพบร่างกายผิดปกติ ตรวจครรภ์เองผลปรากฏตั้งครรภ์ เนื่องจากคิดว่าท้องกลับแฟนหนุ่ม ที่คบกันได้ 3 เดือน ผลสุดท้ายแพทย์ระบุอายุครรภ์ 8 เดือน ก่อนจะยอมรับกับพ่อแม่ ถูกข่มขืน เหตุที่ไม่กล้าบอกเพราะถูกขู่ฆ่า หากปริปากบอกเรื่องเลวทราม



วันนี้ 15 พ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายโสพล อายุ 42 ปี และ นางจิราวรรณ อายุ 33 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.เอ(นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษาระดับชั้น ปวช. ชั้นปีที่ 2 สถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง หลังลูกสาวถูก นายประเสริฐ หรือเสริฐ อายุประมาณ 52 ปี ซึ่งเป็นเครือญาติห่างๆ กัน และบ้านอยู่ไม่ห่างไกลกัน บุกเข้าขืนใจกระทำชำเราลูกสาว ถึง 2 ครั้งเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา จนทำให้เด็กสาวตั้งท้อง 8 เดือน เหตุเกิดขนำภายในสวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่ บ้านผมเด็น ต.ไม้ฝาด



ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ รพ.แห่งหนึ่ง พบว่าสาววัย 17 ปี ซึ่งตกเป็นเหยื่อ แพทย์และพยาบาลได้ทำการคลอดลูกคนดังกล่าวออกมาแล้ว โดยเป็นทารกเพศชาย น้ำหนักแรกเกิดประมาณ 2 กิโลกรัม ร่างกายและสุขภาพแข็งแรงดี ก่อนที่จะพบกับพ่อแม่ และญาติพี่น้องของผู้เสียหายคอยเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง และต่างรับไม่ได้เมื่อเพิ่งจะรับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น



น.ส.เอ เล่าว่า คนก่อเหตุมาที่บ้านบ่อย เกือบจะทุกวัน เนื่องจากสนิทกับพ่อ และก่อนจะเกิดเหตุช่วงกลางคืนมักจะขับรถจักรยานยนต์มาวนเวียนอยู่รอบขนำบ่อยครั้ง โดยในวันเกิดเหตุช่วงเดือนมีนาคม 2565 เวลาประมาณ 01.00 น. พ่อกับแม่ออกไปกรีดยางพารา ตนเองนอนอยู่ในขนำเพียงคนเดียว ผู้ก่อเหตุได้เปิดประตูบุกเข้ามาข่มขืน ก่อนจะขู่ไว้ว่าห้ามบอกใคร หากบอกพ่อแม่หรือใครรู้จะฆ่าให้ตาย และถัดมา 3 วัน ผู้ก่อเหตุได้บุกเข้ามาข่มขืนอีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 หลังจากนั้นทำให้ตนเกิดความกลัวจึงเก็บไว้เป็นความลับ ไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ กลัวว่าพ่อกับแม่จะตี หลังจากคลอดออกมา และทางบ้านรับรู้ก็รู้สึกโล่งไปมาก ไม่มีความกังวลอะไรแล้ว และไม่ขอรับเลี้ยงลูกคนดังกล่าว



ขณะที่ นายโสพล ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า วันศุกร์ที่ 11 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ลูกสาวรู้สึกว่าร่างกายผิดปกติ จึงได้ไปซื้อชุดตรวจครรภ์มาตรวจเอง ผลปรากฏว่าตั้งท้อง จึงทำให้ลูกสาวและตนคิดว่าน่าจะตั้งท้องกับแฟนหนุ่มของลูกสาวที่คบหากันได้แค่เพียง 3 เดือน ลูกสาวจึงบอกให้ทางบ้านรับรู้ว่าตั้งครรภ์โดยที่ทุกคนยังคิดว่าตั้งท้องกับแฟนหนุ่ม

ทำให้เมื่อวานนี้ 14 พ.ย. 65 พ่อกับแม่ได้พาลูกสาวไปตรวจที่คลินิก และทำการอัลตราซาวด์ โดยที่แพทย์ระบุว่าอายุครรภ์ 8 เดือน จนทำให้เกิดความสงสัยว่าเพิ่งจะคบกับแฟนหนุ่มได้เพียงแค่ 3 เดือน แต่ลูกสาวกลับตั้งท้อง 8 เดือนมาแล้ว ก่อนจะเค้นถามลูกสาวว่าท้องกับใคร ก่อนที่ลูกสาวจะรับว่าเมื่อช่วงเดือนมีนาคม ได้ถูกนายประเสริฐบุกเข้าข่มขืน จนช่วงเช้าของวันนี้ (15 พ.ย.) ลูกสาวปวดท้องคลอด จึงนำมาโรงพยาบาลและคลอดเด็กออกมาในเวลาประมาณ 9 โมงเช้า



นายโสพล กล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่านายประเสริฐเป็นคนข่มขืนจริง เพราะลูกสาวยืนยัน ตั้งแต่เกิดเหตุลูกสาวไม่เคยเล่าหรือบอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังเลย อยากให้กรณีเช่นนี้จบที่ลูกของตนเป็นคนสุดท้าย ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีก ยังไงตนก็จะไม่ยอม ขอดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด



ด้าน น.ส.ประไพ อายุ 52 ปี ยายของผู้เสียหาย กล่าวว่า เพิ่งจะรู้ว่าหลานตั้งครรภ์ ได้เพียงแค่ประมาณ 5 วัน ก่อนที่หลานจะคลอดในวันนี้ ทำใจยอมรับไม่ได้ ส่วนเด็กที่เกิดก็ไม่ขอรับเลี้ยง ได้ให้ทางโรงพยาบาลประสานมอบให้กับสถานสงเคราะห์ไปแล้ว ซึ่งเชื่อแน่ว่าเกิดจากการกระทำของนายประเสริฐ ซึ่งมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด รู้สึกเสียใจมากที่หลานถูกกระทำแบบนี้ ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาไม่รู้และดูไม่ออกเลยว่าหลานสาวตั้งครรภ์ แต่ก็เอะใจเพราะช่วงหลังหลานมีพฤติติกรรมเปลี่ยนไป จากคนร่าเริง กลายเป็นคนซึมเศร้า และเหมือนเก็บกดมาตลอด ทุกคนที่บ้านก็สงสัย แต่ถามเท่าไรหลานก็ไม่ยอมบอก จนหลานมาบอกว่าท้อง และมารู้ความจริงว่าท้องกับนายประเสริฐ



น.ส.ประไพ กล่าวอีกว่า เท่าที่ทราบมา นายประเสริฐมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด และจากคำบอกเล่าทราบว่าเมื่อช่วงปี 2564 ที่ผ่านมา นายประเสริฐเคยก่อเหตุข่มขืนเด็กสาววัย 16 ปี ซึ่งเป็นหลานของภรรยานายประเสริฐเองมาแล้ว แต่ไม่มีใครไปแจ้งความดำเนินคดี ส่วนคดีของหลานในครั้งนี้ตนจะขอให้ทางตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด



เบื้องต้นวานนี้ (14 พ.ย.65) ทางด้านนายโสพล ผู้เป็นพ่อของเด็กสาววัย 17 ปี ได้ไปแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สำราญ ดินเต็ม สารวัตร (สอบสวน) สภ.สิเกา จ.ตรัง เพื่อให้ดำเนินคดีกับตัวนายประเสริฐ (ผู้ก่อเหตุ) โดยทาง พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง หลังทราบเรื่องได้รายงานถึงผู้บังคับบัญชา และสั่งการและเร่งรัดคดีนี้อย่างรวดเร็วที่สุดแล้ว ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป