อาชญากรรม
'ชูวิทย์' แฉอีก! กลุ่มทุนจีนสีเทาถือหุ้นบริษัท 100% กวาดเงินรัฐ 1.5 พันล้าน ฮุบผลประโยชน์ชาติเหมือนเพลี้ย
โดย petchpawee_k
9 พ.ย. 2565
428 views
‘ชูวิทย์’ แฉอีก พิรุธทุนจีนถือหุ้นบริษัท 100% เข้าประมูลงานมิเตอร์ไฟ กวาดเงินรัฐ 1.5 พันล้าน พบเป็นคู่ค้ากับรัฐนานสิบปี ฮุบผลประโยชน์ชาติเหมือนเพลี้ย เผย 2-3 สัปดาห์ นี้อาจมีหมายจับรายใหญ่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ระบุ โจรจีนใส่สูทปล้นและมีหลายร้อยบริษัท
วานนี้ (8 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตผู้ประกอบสถานบริการ ตั้งโต๊ะแฉ “ทุนจีนสีเทาภาค 2” นายชูวิทย์ กล่าวว่า เรื่องมีสาระคือประเด็นกลุ่มชาวจีนที่ทำธุรกิจสีเทา 5 กลุ่ม ซึ่งนายสันธนะ อ้างว่ารู้จักนั้นกระจายการลงทุนอยู่ในหลายประเทศ เช่น เวียดนาม กัมพูชา ลาวและไทย เพื่อฟอกเงิน เนื่องจากรัฐบาลจีน ปราบปรามการทุจริตอย่างหนัก โดยในเวียดนามและกัมพูชา เช่น สีหนุวิลล์ ต่างมีราคาที่ดินสูงขึ้นมหาศาล โดยเฉพาะบ่อนพนันออนไลน์ เดือนเดียวได้กำไร 2,000 ล้านบาท
กลุ่มบริษัทและโรงงานจีนในไทย ตนเรียกว่ากลุ่มบริษัทศูนย์เหรียญ เหมือนทัวร์ศูนย์เหรียญและผับศูนย์เหรียญที่ตำรวจเพิ่งปราบไป ซึ่งบริษัทเหล่านี้ มี 2 กลุ่ม คือบริษัทไทย กฎหมายกำหนดให้มีสัดส่วนคนไทยถือหุ้น 51% และบริษัทต่างชาติ ให้ถือหุ้นในสัดส่วน 49% ซึ่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง ประกอบกับ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ระบุว่า บริษัทต่างด้าวห้ามประกอบธุรกิจที่คนไทย ยังไม่มีความสามารถพร้อมจะแข่งขัน เช่น การสีข้าว การทำประมง การผลิตปูนขาว สถาปัตยกรรม การทำกิจการทางวิศวกรรม เป็นต้น
นายชูวิทย์ ได้นำเอกสารรับรองการจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ของบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พบว่าจัดตั้งเป็นบริษัทนิติบุคคลตั้งแต่ปี 2543 โดยในครั้งแรกมีคนจีนและไทยร่วมเป็นกรรมการเพียง 2 คน ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 15 ล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับเป็นชาวต่างชาติถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็น และมีกรรมการเป็นคนจีนทั้งหมด และทุนจดทะเบียนกว่า 80 ล้านบาทในปี 2549
ซึ่งปีนี้บริษัทนี้ เพิ่งประมูลงานติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าของรัฐ ด้วยงบ 1,500 ล้านบาท และจะสั่งซื้อสินค้ามาจากจีนโดยตรง ซึ่งเรื่องนี้รัฐจะไม่รับรู้ไม่ได้ ตนคาดว่า ใน 2-3 สัปดาห์นี้อาจมีหมายจับรายใหญ่ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง
นายชูวิทย์ ยังพบหลักฐานการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างระหว่างบริษัทนี้ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ และชนะการประกวดราคาเป็นเงินกว่า 90 ล้าน 6 แสนบาท และยังชนะการประกวดราคากับหน่วยงานนี้มาแล้วหลายครั้ง แม้ว่าหลักเกณฑ์การพิจารณาจะกำหนดให้วัสดุที่จะนำมาใช้จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสากรรมในประเทศไทยเท่านั้น
“ปี 2565 บริษัทนี้มีรายชื่อกรรมการ 5 คนเป็นจีนทั้งหมด ผู้ถือหุ้นเป็นจีนทั้งหมด ถามว่าอย่างนี้รัฐบาลทำอะไรครับ ข้อมูลทั้งหมดจะส่งให้คนเดิม บิ๊กโจ๊ก บิ๊กต่อ แล้วขอถามต่อว่าจากนี้จะมีคนมาดูห้องส้วมผมอีกไหม มีใครที่เสียประโยชน์เพราะอย่างนี้คือโจรจีนใส่สูทปล้น และมีหลายร้อยบริษัทที่เป็นจีนล้วนแบบนี้”
นายชูวิทย์ กล่าวว่า กลุ่มทุนจีนใส่สูทปล้น เปรียบเสมือนเพลี้ย เหมือนแมลง เข้ามาในพื้นที่ สูบกินทรัพยากรจนแห้งจากนั้นก็จะบินหนีไปที่อื่น สร้างความเสียหายและไม่มีประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย นี่เป็นเพียงตัวอย่าง 1 บริษัทที่ตรวจสอบพบ และมีข้อมูลว่าเป็นคู่ค้ากับรัฐมาเป็นสิบปี
ทั้งนี้นายชูวิทย์ เตรียมส่งหลักฐานเหล่านี้ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินคดีกับกลุ่มทุนจีนที่เข้ามาเปิดบริษัทในไทยแบบนี้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนจีนเหล่านี้
โดยกลุ่มทุนจีนที่นำมาเปิดเผยนี้เป็นเพียงกลุ่มทุนเดียว แต่ปัจจุบันพบว่ามีการทำอยู่จำนวนมากถือว่าผิดกฎหมายทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับผู้มีสิทธิ์ขอขึ้นทะเบียน ผู้ประกอบการ และ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ซึ่งถือว่ากลุ่มทุนจีนกำลังเข้ามาครอบงำกิจการในไทยมากขึ้น
จากเดิมที่บริษัทที่ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในไทย จะให้สิทธิ์คนไทยถือหุ้นมากกว่า แต่ปัจจุบันจากเอกสารจะเห็นได้ว่าคนจีนเข้ามาถือหุ้นและเป็นกรรมการบริษัททั้งหมดแล้ว เป็นกลุ่มบริษัทและโรงงานจีนในไทย “พฤติกรรมของกลุ่มทุนจีนเหล่านี้จึงถือได้ว่าเป็นกลุ่มใส่สูทปล้น”
เมื่อถามว่า กลุ่มจีนใส่สูทปล้นนี้รู้จักและเชื่อมโยงกับมาเฟียจีน 5 กลุ่มที่เคยออกมาแฉข้อมูลหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า กลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้รู้จักกัน แต่ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงทางธุรกิจกันอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มนี้เชื่อมโยงอดีตรัฐมนตรีหรือไม่ นายชูวิทย์ ตอบว่า “ผมไม่อยากจะพูดไป การพูดโดยไม่มีข้อมูล ไม่มีหลักฐาน เท่ากับว่าไปใส่ร้ายเขา อย่างนายสันขวาน ไปพูดหน้า สน. ผมฟ้อง แต่ผมฟ้องในทางกฎหมายเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี”
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/JH0nBYUroEY
