อาชญากรรม

'พ.อ.เขมรคลั่ง' ซิ่งรถพกปืน แหกด่านข้ามชายแดนไทย ตร.สกัดวุ่น ยันไม่ส่งตัวกลับ พร้อมตั้ง 13 ข้อหาหนัก

โดย thichaphat_d

7 พ.ย. 2565

25 views

ระทึก กลางเมืองสระแก้ว พันเอกกัมพูชาคลั่ง ซิ่งรถพกปืน แหกด่านข้ามชายแดน ช่วงจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน เจ้าหน้าที่ยิงยางสกัดวุ่น ปิดล้อมนานนับ 10 ชั่วโมง  

ก่อนจนมุมที่สี่แยกวัฒนานคร  คว้าปืนเดินลงจากรถ ทางการไทยประสานญาติเจรจาเกลี่ยกล่อม แต่ไม่เป็นผล สุดท้าย เจ้าหน้าที่ตัดสินใจ ใช้โล่บุกเข้าชาร์จ ไร้เหตุรุนแรง เผยปมเครียดจากปัญหาครอบครัว ตรวจไม่พบสารเสพติด ตำรวจแจ้ง 6 ข้อหาหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สระแก้ว ว่า เกิดเหตุการณ์ระทึกขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 5 พ.ย. 65 โดย พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้รับแจ้งจาก ตม.ประจำด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ว่ามีรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ติดป้ายทะเบียนทหารกัมพูชา PICH.NIK บนฝากระโปรงรถติดตราสัญลักษณ์ทหารกัมพูชา ขับแหกด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน จากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทย ด้วยความเร็วสูง โดยไม่ยอมหยุดรถให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และไม่ขออนุญาตเข้าประเทศไทย


จากนั้น รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไปทาง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.สระแก้วได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว ออกติดตามไล่ล่า พร้อมทั้งประสานไปยัง พล.ต.สราวุธ ไชยสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา จัดกำลังทหารสังกัดกองกำลังบูรพา ร่วมออกติดตามไล่ล่า


จนกระทั่ง เวลาประมาณ 21.00 น. ชุดไล่ล่าได้ตรวจพบรถยนต์คันดังกล่าว บริเวณสี่แยกไฟแดง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว จึงนำกำลังเข้าปิดล้อม พร้อมทั้งใช้เครื่องกีดขวางดักสกัดไว้ แต่ผู้ขับขี่รถไม่ยอมลงมาจากรถ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการปิดล้อมนานข้ามคืน เนื่องจากผู้ขับขี่ไม่ยอมลงจากรถ อีกทั้งเกรงว่าภายในรถอาจมีอาวุธปืน


ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jutalak Kanha ได้โพสต์ภาพสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.43 น. บริเวณหน้าปั๊ม วัฒนานคร พร้อมระบุว่า “เคยเห็นแต่ในข่าว มาเจอเองกับตาใจสั่นไปหมดเลย”


ต่อมา เวลา 07.00 น. วานนี้ (6 พ.ย. 65) ทางตำรวจยังคงปิดล้อมรถดังกล่าวไว้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.รุ่ง ได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ที่ขับรถยนต์คันดังกล่าว คือ พ.อ.ซก บานพอล เป็นนายทหารประจำกระทรวงกลาโหม ของรัฐบาลกัมพูชา ได้เกิดความเครียดจากปัญหาครอบครัว ทำให้ให้อาการคลุ้มคลั่ง ขับรถจากฝั่งกัมพูชาฝ่าด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เข้ามาในประเทศไทย จนถูกปิดล้อม และสกัดไว้ได้ แต่ยังไม่ยอมลงจากรถ


ต่อมา พ.ต.อ.ปรีชา สมสถาน รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เป็น ผบ.เหตุการณ์เข้าเจรจากับ พ.อ.ซก บานพอล ที่ยังไม่ยอมออกจากรถ แต่การเจรจาไม่เป็นผล ต่อมา ผบ.กกล.บูรพา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานประสานงานไทย-กัมพูชา ประสานไปยังสถานกงสุลใหญ่กัมพูชา ประจำ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำครอบครัวและญาติของ พ.อ.ซก มาร่วมกันเจรจา แต่ก็ยังไม่เป็นผล พ.อ.ซก ยังไม่ยอมออกมาจากรถ


กระทั่ง ช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. พ.อ.ซก ได้ลงมาจากรถ แต่ถือปืนพกสั้นลงมาด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องหาที่หลบ และพยายามเจรจาให้ พ.อ.ซก วางอาวุธ แต่ พ.อ.ซก ไม่ยอม ยังคงเดินถือปืนส่ายไปมา ท่ามกลางความระทึกของเจ้าหน้าที่ ที่ยังไม่สามารถเข้าไปควบคุสถานการณ์ได้ เนื่องจาก พ.อ.ซก มีอาวุธปืน อีกทั้งยังเป็นนายทหารกัมพูชา เกรงหากทำอะไรรุนแรงจะทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยกำลังหารือ และวางแผนเพื่อดำเนินการให้ได้เร็วที่สุด


เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว นำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษภูธรจังหวัดสระแก้ว เข้าชาร์จควบคุมตัว พอ.ชก ทหารกัมพูชา


เนื่องจากร่างกายนายกัมพูชาอ่อนเพลีย จึงได้ตัวส่งโรงพยาบาลวัฒนานคร เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกาย พร้อมตรวจหาสารเสพติด และจะนำพันเอกเขมรมาสอบปากคำที่ สภ.วัฒนานค เพื่อหาสาเหตุเข้ามาในประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต


ส่วนรถยนต์ของกล่าวได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.วัฒนานคร ในเบื้องต้น เจ้าตำรวจยังไม่ได้ตั้งข้ออะไร เพราะต้องรอสอบปากคำ พ.อ.เขมร รายนี้เสียก่อน


โดยการควบคุมตัวทหารเขมรคนนี้ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่ทุกคน รวมถึงประชาชนในพื้น และผู้ก่อเหตุที่ปลอดภัยดี


ล่าสุด พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2 ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรภาค 2 เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดี "ทหารกัมพูชาคลั่ง" ในประเทศไทย โดยไม่ส่งตัวกลับ เนื่องจากเป็นการกระทำผิดภายในราชอณาจักร


ซึ่งดำเนินคดี 13 ข้อหาหนัก ดังนี้

1. หลบหนีเข้าเมือง” ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522

2. เป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานี หรือท้องถิ่นที่กำหนด /

3. ต่อสู้ หรือขัดขวางพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยมาอาวุธ” ตาม ป.อาญา มาตรา 138 มาตรา 140วรรคท้าย”

4. ขับรถในทางโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวอันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลหรือทรัพย์สิน” พ.ร.บ.จราจร พ.ศ.2522 มาตรา43(2)(4)”

5. ทำให้เสียทรัพย์” ตาม ป.อาญา มาตรา 258”

6. มี ทำ สั่ง นำเข้าซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง”

7. พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์”  มาตรา 7 มาตรา 8 มาตรา 8 ทวิมาตรา 72 วรรคแรก  มาตรา 72 ทวิวรรคสอง  ป.อาญา มาตรา 371 /

8. ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว”  มาตรา 392

9. เข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ยื่นรายการตามแบบ และไม่ผ่านการตรวจอนญุาตของพนักงาน เจ้าหน้าที่”

10. เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะไม่แจ้งกําหนดวันและเวลาที่พาหนะจะเข้ามาถึง หรือ จะออกจากเขตท่า สถานี หรือ ท้องที่ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทําการตรวจคนเข้าเมือง

11. เจ้าของพาหนะหรือ ผู้ควบคุมพาหนะ ไม่ยื่นรายการตามแบบ และผ่านการตรวจของ พนักงานเจ้าหน้าที่ ณ ที่และ ภายใต้เงื่อนไขที่อธิบดีประกาศ 

12. เจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคมุ พาหนะไม่ให้ความสะดวกแก่ พนักงานเจ้าหน้าที่ในการ ปฏิบัติการตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง

13. ลักลอบศุลกากร”  พรบ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา242”


ส่วนของกลางที่ตำรวจ ตรวจยึดได้มี  

1. อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ CZ-P-07  สีดำ  ขนาด 9มม.  จำนวน 1 กระบอก

2. กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 17 นัด

3. ซองบรรจุกระสุน จำนวน 1 ซอง

4. ซองพกใน จำนวน 1 ซอง

5. รถยนต์ ยี่ห้อ JEEP   สีดำ จำนวน 1 คัน

6. กุญแจรถ รีโมท จำนวน 1 อัน


นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรอผลตรวจสารเสพติดในร่างกายของ "ทหารกัมพูชาคลั่ง" จากแพทย์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง หากพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมด้วย
--------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/iTqFue4Y_mI

คุณอาจสนใจ

Related News