ครอบครัวเหยื่อ ร้อง ปวีณาฯ ช่วยคดีลัทธิล้างสมอง ลวงเป็นหนี้ทิพย์กว่า 100 ล้าน

วันนี้ (18 ต.ค. 65) นางส้ม อายุ 64 ปี พร้อมด้วยนายบุญมา อายุ 44 ปี เดินทางมาเข้าพบนางปวีณา หงสกลุ ประธานมูลนิธิเพื่อเด็กและสตรีที่ ต.ลำผักชี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อขอให้ช่วยเหลือลูกสาวที่เป็นพยาบาล รวมทั้งหลานสาวและหลานชาย ซึ่งถูกเพื่อนหลอกให้ลงทุนขายคอลลาเจน


โดยนายบุญมา อายุ 44 ปี บอกว่า ตนเองพร้อมกับแม่ที่เดินทางมาที่มูลนิธิปวีณาฯ วันนี้ อยากให้ช่วยเหลือพี่สาวที่เป็นพยาบาล และถูกหลอกให้ใช้หนี้ทิพย์ ซึ่งถูกคนร้ายหลอกให้ลงทุนขายคอลาเจนเหมือนหลอกให้ธุรกิจร่วมกัน ซึ่งทำไปสักพัก ธุรกิจก็ล้มและเป็นหนี้ ซึ่งคนร้ายได้บังคับให้หาเงินมาใช้หนี้


ในช่วงแรกได้ให้นำสินค้าออกมาขายและให้ญาติพี่น้องช่วยซื้อ พอได้สักระยะก็ให้พี่สาวโทรศัพท์มายืมเงินกับญาติที่รู้จัก ซึ่งโดนหมดทุกคน และจะต้องให้ได้เงินวันละ 6 หมื่นบาท ถ้าไม่ได้ก็จะถูกทำร้ายด้วยการเอาน้ำร้อนลวก ส่วนหลานทั้งสองคนก็ถูกบังคับให้แม่ตบหน้า ซึ่งยิ่งทำให้ลูกเกลียดชังแม่


ซึ่งคนที่เข้ามาหลอกนั้น ได้รู้จักกับพี่สาวก่อนหน้าและมีการทำธุรกิจร่วมกัน อีกทั้งประวัติคนร้ายโดนคดีฉ้อโกงมาก่อนแล้วด้วย และจะไปติดต่อบุคลากรทางการแพทย์ให้มาร่วมลงทุน ซึ่งพี่สาวตนเองก็เชื่อใจ อีกทั้งยังพบว่ามีอินสตราแกรมเพื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ให้ติดตามกองประกวดนางงามแล้วใช้พยาบาลมาโปรโมตสินค้าสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งครั้งแรกคนร้ายได้แอบอ้างเป็นนายแพทย์กระทรวงคอยประสานงานระหว่างประเทศให้รู้จักผู้ใหญ่ แต่ถ้าคนไหนไม่ทำตามก็จะถูกดำเนินคดี


ดังนั้นพวกตนจึงอยากมาร้องมห้ มูลนิธิปวีณา ช่วยเรื่องคดีให้ดำเนินกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด


ด้านนางปวีณา หงสกุล กล่าวว่าสืบเนื่องจากวันศุกร์ที่ 14 ต.ค. 65 เวลา 17.00 น. อดีตสามีพยาบาลสาว เข้าร้องทุกข์กับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ที่ทำการ ถนนรังสิต-นครนายก (คลอง7) ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขอให้ช่วยประสานตำรวจเข้าช่วยเหลืออดีตภรรยาและลูกสาว 10 ขวบ และลูกชาย 7 ขวบ ถูกกักขังไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านบางพลัด กทม.


โดน อดีตสามี ได้เล่าว่า พยาบาลสาว ได้ไลน์มาขอความช่วยเหลือว่า ขอให้มารับลูกทั้ง 2 คน ออกไปด้วย นางปวีณา จึงได้ส่งอดีตสามี ไปให้ข้อมูลกับ สำนักงาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.


ต่อมากองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งนายบูม ได้ติดต่อไว้เช่นกันได้เรียกตัวมาสอบปากคำที่กองบังคับการบัญชาการขณะนั้นอดีตภรรยา ได้แอบไลน์มาบอกห้องที่พักอยู่และส่งพิกัดเบอร์ห้องพร้อมรหัสประตูเข้ามาให้ ในวันเสาร์ที่ 15 ต.ค. 65 จึงได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือ และจับกุมผู้กระทำผิดดำเนินคดี


และในวันนี้ พ่อเด็ก ยาย และน้า ได้เดินทางมามูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้นางปวีณา ช่วยเหลืออีกครั้ง ดังนี้

1.ขอให้ช่วยเหลือติดตามทางด้านคดีกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด

2.ขอให้ประสานให้ลูกสาวกลับเข้าไปทำงานพยาบาลเหมือนเดิม

3.ขอให้ช่วยติดตามด้านการรักษาของทั้ง 3 แม่ลูก จนกว่าสภาพจิตใจจะดีขึ้น โดยพ่อของเด็กขอรับลูกกลับไปดูแลเอง ซึ่งจะมียายและครอบครัวแม่ช่วยดูแล จนกว่าจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ


ซึ่งยาย มีความกังวลเป็นห่วงลูกและหลาน นางปวีณา จึงได้โทรศัพท์ไปยัง ศูนย์พึ่งได้ รพ.ตำรวจ สอบถามข้อมูลกับ พ.ต.ต.นิธิมา แมนเมธี นักสังคมสงเคราะห์ ให้ ยาย ได้คุยสอบถามอาการของหลาน 2 คน ว่าหลานทั้ง 2 มีสุขภาพดีขึ้น ร่าเริง พูดคุยกับนักสังคมสงเคราะห์ได้ดี


ส่วนแม่ ซึ่งเป็นอดีตพยาบาล ยังกังวลคิดว่า ตนเป็นต้นเหตุให้ลูกได้รับความเดือดร้อน


โดยในวันพฤหัสบดีที่ 20 ต.ค. 65 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นัดประชุมทีพสหวิชาชีพที่ ศูนย์พึ่งได้ รพ.ตำรวจ เพื่อที่จะให้พ่อ ยาย และครอบครัวเข้าเยี่ยมอดีตพยาบาล และประเมินสภาพจิต


และในขณะเดียวกัน นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก. สน.บวรมงคล เพื่อสอบถามทางด้านคดี และมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีร่วมกับตำรวจอย่างใกล้ชิดต่อไป