อาชญากรรม
รวบแก๊งสาวสอง อ้างเป็นเจ้าลัทธิล้างสมองเหยื่อ อุปโลกน์หนี้ทิพย์ 140 ล้าน หากขัดขืนสาดน้ำร้อน-กล้อนผม
โดย thichaphat_d
18 ต.ค. 2565
58 views
ตำรวจบุกช่วยเหยื่อ 5 คน ถูกขังในห้องพัก สภาพสะบักสะบอม มีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตา ลูกตาห้อเลือด หลังอดีตสามีร้องถูกสาวสองอ้างเป็นเจ้าของคลินิก สร้างลัทธิล้างสมอง สูบเงินเหยื่อก่อนอุปโลกน์ให้เป็นหนี้ 104 ล้านหลอกใช้เหยื่อ หาเงินคืนวันละ 6 หมื่นบาท ขัดขืนสาดน้ำร้อนลวก กล้อนผม กักขัง ไม่เว้นแม้แต่เด็ก พร้อมปั่นหัวลูกสร้างเรื่องให้เกลียดพ่อแม่ ด้านเหยื่อได้สติส่ง แชทลับพร้อมภาพลูกถูกทำร้าย ให้อดีตสามีก่อนประสานตำรวจช่วย
ตำรวจระบุ เป็นคดีประหลาด เพราะทุกคนไม่ติดใจเอาเรื่อง อ้างไม่มีใครทำร้ายใช้น้ำร้อนราดตัวเอง ก่อนแม่เด็กได้สติ สัญชาตญาณความเป็นแม่กลับมา จึงอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ล่าสุดมีผู้เสียหายนับ 10 ที่ทยอยเข้ามาแจ้งความและให้ข้อมูลเพิ่ม
ล่าสุด ตำรวจบุกจับ 2 ผู้ต้องหา แก๊งสาวสองอ้างเป็นผู้นำลัทธิคาที่พัก ฐานผิด 2 ข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส และ ข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมจำนน ก่อนคุมตัวมาสอบสวนพบว่า ทั้ง 2 ราย ไม่ได้มีเชื้อสายเกาหลี พร้อมยอมรับร่วมกันหลอกลวงและใช้กลอุบายอ้างเป็นนักลงทุนจากเกาหลี เพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อเท่านั้น แต่ยังภาคเสธไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ด้านตำรวจเผยผู้ต้องหาเป็นจิตวิทยาตัวยง พร้อมจ่อเอาผิดเพิ่มปมค้ามนุษย์หลังพบหนังสือยอมขายลูก
วานนี้ (17 ต.ค.65) ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ ของกองบังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล บุกเข้าช่วยเหลือ อดีตพยาบาล พร้อมเด็กชายและเด็กสาว ที่ รวม 5 คน คือ 1 น.ส.ไพริน (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี / น.ส.พลอย (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี / น.ส.ไข่มุก (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี / ด.ญ.ยา (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี บุตรของ น.ส.ไพริน / ด.ช.เช่ (นามสมมุติ) อายุ 6 ปี บุตรของ น.ส.ไพริน ภายในคอนโดมิเนียมทแห่งหนึ่งย่านพระราม 8
หลังมีญาติของผู้เสียหาย เข้าร้องเรียนว่า ผู้เสียหายได้แอบแชทพร้อมส่งรูปภาพมาเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยส่งรูปภาพที่ส่งมามีสภาพร่างกาย ถูกโกนผมสั้น และมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวก และยังมีการบังคับให้ผู้เสียหายที่เป็นแม่ตบตีทำร้ายเด็ก 2 คนที่เป็นลูกอีกด้วย ถ้าไม่ทำจะสาดน้ำร้อนใส่เด็กๆ
โดยเมื่อตำรวจเข้าไปช่วยเหลือ สภาพทั้ง 5 คน อยู่ภายในห้องอย่างแออัด และจากการตรวจสอบสภาพร่างกายเบื้องต้นพบว่า น.ส.ไพริน มีบาดแผลการถูกน้ำร้อนลวกทั่วบริเวณไหล่ซ้าย / น.ส.ไข่มุก มีบาดแผลการถูกน้ำร้อนลวกทั่วบริเวณหน้าอก / ด.ญ.ยา มีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตา / และ ด.ช.เช่ มีบาดแผลฟกช้ำบริเวณเบ้าตาและลูกตามีรอยแดง
จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า เหยื่อทั้ง 3 รายที่เป็นผู้ใหญ่ เป็นอดีตพยาบาลในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่กลับต้องลาออกและมาทำธุรกิจร่วมกับนายทุน ผู้คลั่งลัทธิคนนี้ โดยนายทุนผู้นี้จะใช้อุบายหลอกลวงทั้ง 3 โดยแรกเริ่มจะทำทีร่วมธุรกิจด้วยกันแต่จะให้รวมเงินไว้ที่ตนเองและเมื่อเริ่มขับเคลื่อนธุรกิจ นายทุนผู้นี้จะใช้ทุนดำเนินการต่างๆโดยที่ทั้ง 3 ไม่ทราบแต่อย่างใด
และจะใช้ความกลัวเข้ากดขี่ เช่น หลอกว่างานไม่สำเร็จมีค่าปรับ , ลูกค้าเรียกเงินคืน , ฝากบุตรเข้าโรงเรียนดัง ฯลฯ จากนั้นนายทุนผู้นี้ก็จะอุปโลกน์หนี้ ยัดเยียดให้กับทั้ง 3 และใช้การหลอกว่ารู้จักกับตำรวจ จะดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน ทำให้เกิดความกลัวและยอมตกเป็นเบี้ยล่างทำงานใช้หนี้ทิพย์นี้เรื่อยมากว่า 3 ปี
โดยล่าสุดทั้ง 3 เข้าใจว่าตนเองตกเป็นหนี้นายทุนผู้นี้ถึง จำนวน 140 ล้านบาท ทั้งที่แท้จริงทั้ง 3 ได้ถูกนายทุนหลอกลวงทรัพย์สิ้นไป รวมเป็นความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5,000,000 บาท ซึ่งตลอด 3 ปีนั้น เหยื่อไม่ได้โดนกักขังตลอด สามารถออกไปไหนมาไหนได้
ขณะเข้าช่วยเหลือจากการสอบถามเด็กที่ถูกทำร้าย บอกว่า ตัวผู้ก่อเหตุได้ให้แม่ของเธอตบทำร้าย เพื่อแลกกับโอกาส
ต่อมาช่วงบ่ายวานนี้ ชุดสืบสวนของกองบังคับการสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้ง 2 ราย ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนที่ ศูนย์สืบฯ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดี ว่า ล่าสุดออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 2 ราย คือ นายฮารุ ฮวังสิริ อายุ 39 ปี หรือปาร์ค ซอ ยอ และนายตรีเพชรรัตน ณพชร อายุ 20 ปี ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นนั้นได้รับอันตรายสาหัส / ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
จากการสอบปากคำเบื้องต้น พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การภาคเสธ ขณะเดียวกันยังมองว่าผู้ต้องหาเป็นนักจิตวิทยาตัวยง เพราะไม่มีการบอกชื่อ ไม่ให้การใดๆ กับตำรวจเลย และจากการเช็คประวัติข้อมูลผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ทราบว่าไม่ได้มีเชื้อสายหรือเป็นชาวเกาหลีแต่อย่างใด
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ตอนที่เข้าไปจุดเกิดเหตุเห็นว่าบนใบหน้าตรงดวงตาของเด็กทั้ง 2 มีรอยฟกช้ำคล้ายถูกทำร้าย เมื่อถามว่าโดนอะไร เด็กบอกว่าโดนแม่ตบ ที่แม่ตบเพราะมีคนสั่งให้ตบ ก็คือคนที่ควบคุม ทราบชื่อคือนายนายตรีเพชรรัตน์
ทั้งนี้ คดีนี้เป็นคดีที่มีพฤติกรรมค่อนข้างประหลาด ตอนเข้าไปเจอเหยื่อทั้งหมด 5 ราย เป็นเด็ก 2 ราย และผู้ใหญ่ 3 ราย ซึ่งผู้ใหญ่ทั้ง 3 ราย ทั้งหมดถูกโกนหัว และย้อมผมสีเขียว บริเวณใบหน้าถูกทำร้าย เมื่อถามว่าแผลเกิดจากอะไร เหยื่อทุกคนบอก เอาน้ำร้อนราดตัวเอง มีแค่เด็กทั้ง 2 ราย ที่พูดความจริงว่าใครสั่งให้ทำร้าย
ขณะเดียวกันนั้นตอนแรกเข้าไปเจอเด็กหญิง 2 คน แต่พอมาแยกสอบถึงพบว่าเด็กตัวเล็กเป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งแม่เด็กบอกว่า ผู้ต้องหาที่ชื่อฮารุ ที่เป็นสาวสอง อ้างว่าเกิดวันเดียวกัน จึงอยากให้เป็นเหมือนกันจึงให้แต่งตัวเป็นผู้หญิง
จากการสอบสวนพบว่าทุกคนไม่ติดใจเอาเรื่องผู้ต้องหา มีเพียงแม่เด็กเท่านั้นที่เมื่อได้สติ สัญชาตญาณความเป็นแม่กลับมา จึงอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด แต่ด้วยความเป็นแม่ เห็นลูกตัวเองถูกตบ ถูกราดน้ำร้อน จึงลุกขึ้นมาขอความช่วยเหลือจากอดีตสามี
ขณะเดียวกันในปัจจุบันตัวลูกทั้ง 2 คน เรียกผู้ต้องหาว่าแม่ เรียกแม่ว่าคุณ จึงขยายผลแล้วทำให้รู้ว่าเป็นลัทธิที่ผู้ต้องหาทำให้เชื่อ
สำหรับการแจ้งข้อหานั้นค่อนข้างยาก เพราะทุกคนสมัครใจถูกควบคุม ถูกซ้อม หรือถูกราดน้ำร้อน ทุกคนจะบอกว่าที่โดนกระทำเพราะตัวเขากระทำความผิด ใช้จิตวิทยาขั้นสูง ในทางจิตเวชคือทฤษฎี Gaslighting เป็นรูปแบบหนึ่งของการควบคุมทางจิตใจ (psychological manipulation) ในความสัมพันธ์ด้วยการปลูกฝังเมล็ดพันธ์ของความแคลงใจ ความสงสัย และความไม่เชื่อมั่นในตนเอง
ซึ่งพบได้ในทุกรูปแบบความสัมพันธ์ รวมไปถึงครอบครัว เพื่อน สังคมการศึกษา และสังคมการทำงานอีกด้วย ซึ่งจะทำให้มีความรู้สึกศรัทธา รู้สึกรักเป้าหมาย รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ผิด สมควรแล้วที่ถูกกระทำ โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ยังบอกด้วยว่า ขณะนี้เหยื่อทั้งหมดยังมีความเชื่อและความศรัทธาอยู่
สำหรับเหยื่อเมื่อเข้ามาลัทธินี้แล้ว ต้องเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุลเป็นนามสกุลเดียวกันทั้งหมด ส่วนชื่อเล่นนายฮารุตั้งให้ตั้งตามอัญมณี เช่น ไข่มุก พลอย ฯลฯ
พล.ต.ต.ธีรเดช ยังกล่าวว่า การติดตามตัวผู้ต้องหายากมาก เพราะเหยื่อบอกว่า ผู้ต้องหาเป็นลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่น ชื่อ “ปาร์ค ซอ ยอ” เมื่อมานิติบุคคลกลับได้ข้อมูลว่าผู้ต้องหาเป็นหมอทำงานสถานทูต
ขณะเดียวยังพบเอกสารการเซ็นยินยอมลูกทั้ง 2 คน ที่เขียนด้วยลายมือแม่ ยกให้ผู้ต้องหา และต้องสอบสวนขยายผลต่อว่าหลักฐานเข้าข่ายกระบวนการค้ามนุษย์หรือไม่
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวถึงผู้ต้องหาที่เป็นผู้ควบคุมเหยื่อว่า เป็นนศ.ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยชื่อดัง เข้ามาเพราะอยากเป็นนักแสดง เป็นคนควบคุมและสั่งการในการทำร้าย ในการราดน้ำร้อนต่าง ๆ ถือว่าร่วมกระทำผิด
ขบวนการนี้เป็นการอุปโลกน์ให้เหยื่อกู้หนี้ยืมสินทั้งหมดกว่า 140 ล้านบาท แต่ละวันต้องทำงานหาเงินให้ได้ตามคำสั่ง เช่น 60,000 บาทต่อวัน บางรายต้องขายบ้าน ขายรถ ที่นา ถ้าหาไม่ได้ก็จะทำโทษตามพฤติการณ์ที่กล่าวไป
ส่วนเส้นทางการเงินของนายฮารุ กำลังตรวจสอบเนื่องจากการทำธุรกรรม นายฮารุไม่ได้ใช้ชื่อตัวเอง เพราะเคยโดนคดีฉ้อโกงมาก่อนแล้ว 1 คดี
ส่วนเหยื่อทั้ง 5 ราย พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ขณะสอบปากคำเหยื่อเบื้องต้นเห็นสภาพจิตของเหยื่อทั้งหมดยังไม่พร้อม จึงให้ไปอยู่ในความดูแลของแพทย์และนักจิตวิทยา ที่ รพ.ตำรวจ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้เสียหายที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์อีก 10 กว่าราย ที่กำลังทยอยเข้ามาแจ้งความและให้ข้อมูลกับตำรวจ
ต่อมาเวลาประมาณ 21.30 น. หลังสอบปากคำผู้ต้องหานานเกือบ 8 ชั่วโมง ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ลงมาเพื่อส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล สน.ท้องที่เกิดเหตุ สอบสวนอย่างละเอียดและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะที่นำตัวทั้ง 2 ลงมา ผู้ต้องหามีสีหน้าเรียบเฉย ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ให้การว่าอย่างไร รับสารภาพหรือไม่ หรือว่าสร้างความเชื่อ ให้คนเชื่อคนศรัทธาอย่างไรนั้น ผู้ต้องหาปัดตอบ เดินขึ้นรถไปทันที
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Qwpx15zp0dU
แท็กที่เกี่ยวข้อง ลัทธิประหลาด ,สาวประเภทสอง ,จิตวิทยา ,ทำร้ายร่างกาย ,สาดน้ำร้อน ,กล้อนผม