อาชญากรรม

ครอบครัวร้องระงม...เชิงตะกอนเผาร่าง เหยื่อกราดยิงสู่สวรรค์ สุดอาลัย กอดรูปอำลาลูกน้อยครั้งสุดท้าย

โดย nattachat_c

12 ต.ค. 2565

62 views

วานนี้ (11 ต.ต. 65) มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรม กราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู มีการจัดพิธีทั้ง 3 วัด โดย ...

  • วัดเทพมงคลพิชัย มีผู้เสียชีวิต 6 ราย
  • วัดศรีอุทัย มีผู้เสียชีวิต 11 ราย
  • วัดราษฎร์สามัคคี มีผู้เสียชีวิต 19 ราย 


โดย พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะเดินทางถึงวัดราษฎร์สามัคคี ตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู อ่านหมายรับสั่งพิธีพระราชทานเพลิง และอ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตามลำดับ


นายกรัฐมนตรีและผู้ร่วมพิธียืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที จากนั้น นายกรัฐมนตรีทอดผ้าไตรพระราชทาน จำนวน 5 ไตร พระสงฆ์สมณศักดิ์ 5 รูป พิจารณาผ้าไตรบังสุกุล


นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ วางดอกไม้จันทน์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น นายกรัฐมนตรีวางดอกไม้จันทน์


พันโท สมชาย กาญจนมณี รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง วางดอกไม้จันทน์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม


จากนั้น พระสงฆ์ ข้าราชการ แขกผู้มีเกียรติ ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ตามลำดับ เสร็จพิธีพระราชทานเพลิง


โดยมีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธีเพื่อไว้อาลัย


หลังจากนายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ก็เตรียมพื้นที่เพื่อฌาปนกิจร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 19 ร่าง


แต่ก่อนหน้าที่จะเริ่มพิธี ได้มีการทำพิธีกรรมเเก้เคล็ด จากปราชญ์ชาวบ้าน เนื่องจากมีความเชื่อว่า จะไม่ทำพิธีเผาศพวันอังคารเพราะเป็นวันแข็ง


โดยได้นำผู้ชาย 2 คน ถือไฟจุดกระบอง (ไต้กระบอง) เดินมาพร้อมกับผู้เฒ่าผู้เเก่ 1 คน ที่ถือจอบมาขุดหลุมเตรียมฝังศพในพื้นที่วัด จากนั้นจะมีพระภิกษุสงฆ์ 1 รูป เดินมาทักท้วงว่า มาขุดดินจะมาทำอะไรในที่ธรณีสงฆ์


ซึ่งคนที่ขุดดินก็จะตอบว่า มาเพื่อจะฝังศพ ซึ่งพระภิกษุสงฆ์ ก็ตอบกลับว่า อนุญาตให้เผาเเทน เเต่ขอถามญาติโยมก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากเห็นด้วยให้สาธุดังๆ ซึ่งญาติโยมที่มาร่วมพิธีก็ต่างยกมือขึ้นหัวส่งเสียงสาธุ ชาย 2 คน ที่ถือไฟใต้กระบอง ก็ได้ดับไฟ เป็นอันเสร็จพิธี


จากนั้นพระสงฆ์ก็ทำพิธีโยนเหรียญลงที่เตาเชิงตะกอนทุกเตา เปรียบเหมือนการซื้อที่ดิน


เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ร่วมกันเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 19 ร่าง จากภายในศาลาที่ประกอบพิธีหลวง มายังลานเอนกประสงค์ เพื่อทำพิธีฌาปณกิจ ซึ่งเดินลงมาจากศาลาวัดมาทางทิศเหนือของวัด เข้ามาที่ลานเตาเผา


โดยเจ้าหน้าที่อัญเชิญ เพลิงพระราชทาน ดอกไม้จันทน์พระราชทาน นำขบวนเคลื่อนโลงศพผู้เสียชีวิตมา โดยมีตำรวจ 6 นาย หามโลงศพ และมีพระสงฆ์ 1 รูป จูงสายสินธุ์เดินนำขบวน จากนั้นจะเป็นญาติๆ ถือรูปถ่าย ของใช้ส่วนตัวเด็กแต่ละคน  และของเล่น


เริ่มจากโลงแรกคือ ร่างของคุณครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ท้อง 8 เดือน มาพร้อมกับร่างของเด็กๆ ซึ่งเหตุผลที่นำคุณครูมาเป็นร่างแรก เนื่องจากต้องการให้คุณครูได้นำน้องๆ ต่อแถวกันขึ้นสู่สวรรค์ จากนั้นนำมาตั้งไว้ที่เตาเผาเชิงตะกอนเรียงกันทั้ง 19 ร่าง


เวลา 18.00.น. เข้าสู่พิธีสวดพระอภิธรรมหน้าไฟ และสวดมาติกา เจ้าหน้าที่จัดพื้นที่ให้ญาติของผู้เสียชีวิตปูเสื่อนั่งทำพิธีหน้าเตาเผา ส่วนผู้ร่วมงานอยู่รอบๆ สนาม


ครอบครัวของเด็กๆ ก็นำของเล่นต่างๆ ของใช้ ของน้องๆ มาเผารวมกันด้วย ก่อนที่จะเริ่มการทำพิธีสงฆ์ ได้มีเวลาให้ครอบครัวได้ร่ำลาส่งท้ายกับผู้เสียชีวิต


อย่างสามีของคุณครู ก็ได้จูบที่โลง และพูดกับคุณครูและลูกชาย (น้องซีวิค) บอกว่า “เป็นเด็กดีเด้อลูก เบิ่งแม่นำเด้อ” (ไปเป็นเด็กดี ดูแลแม่ด้วยนะลูก)


โดยช่วงเผาร่างผู้เสียชีวิตมาที่เตาเผา ทุกคนจะเงียบ คนเฒ่าคนแก่ก็จะกล่าวให้ลูกหล่นไปสู่สุขคติ เป็นภาษาอีสาน ว่าไปดีเด้อหล่า ไปอยู่สรวงสวรรค์ ช่วงนาทีนี้บีบหัวใจทั้งครอบครัวของเด็กๆ คุณครู และชาวบ้านที่มาร่วมงาน เป็นอย่างมาก


เมื่อเริ่มจุดเตาเผา เจ้าหน้าที่ก็นำผ้าแสลนสีดำ ปิดกั้นพื้นที่โดยรอบ เพื่อไม่ให้เห็นภาพสะเทือนใจ รวมทั้งป้องกันความปลอดภัยจากเปลวเพลิง


ช่วงนี้ ครอบครัวเด็กๆ และคุณครู ก็ทยอยเดินถือรูปออกจากพิธี บางครอบครัวญาติพี่น้องคนเฒ่าคนแก่ก็เป็นลม เจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาล และหน่วยเยียวยาจิตใจ (เอ็มแคทท์) ต้องเข้ามาดูแล


ส่วนบางครอบครัว ก็ยืนถือกรอบรูปลูกหลาน ยืนมองเปลวไฟที่ค่อยๆ เผาร่างเด็กๆ พร้อมทั้งไว้อาลัยส่งดวงวิญญาณให้ไปสู่สวรรค์


ต่อมา เวลา 22.00 น. ที่ผ่านมา สัปเหร่อและพระลูกวัดราษฎร์สามัคคี เริ่มดับถ่านในเตาเผาเชิงตะกอน เด็กๆ และครู 19 ร่าง ก่อนระบายความร้อน เตรียมทำพิธีเก็บอัฐิ ช่วงเช้าวันนี้ (12 ต.ค. 65)

--------------

ทีมข่าวได้รับการอนุญาตจากคุณปู่ของน้องภูเบศ เปิดเผยว่า ตนมาส่งหลานเป็นครั้งสุดท้าย ยืนมองร่างของหลานไปสวรรค์ ซึ่งหลานไม่ได้ทำผิดอะไร เขาก็จะไปเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ และก็ขอให้กลับมาเกิดเป็นลูกแม่มาเป็นหลานปู่กับย่าอีก


ส่วนสภาพจิตใจนั้นเริ่มผ่อนคลายขึ้น ต้องบอกว่าครอบครัวอยู่กับการสูญเสียมาต่อเนื่องกัน โดยก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็มีญาติๆ เสียชีวิตต่อเนื่องกัน 2 คน และก็ครั้งนี้เป็นหลานชายเป็นที่รักของครอบครัว


วันฌาปนกิจนี้ สภาพจิตใจผ่อนคลายจากช่วงแรกๆ ที่เกิดเหตุ และยังเห็นผู้คนมากมายที่ไม่ได้รู้จักกันมาร่วมไว้อาลัย และที่สำคัญคือได้รับพระมาหรุณาธิคุณจากในหลวง และจากคณะนายกรัฐมนตรี ทำให้ครอบครัวมีกำลังใจมากขึ้น หาสิ่งเปรียบไม่ได้ และเห็นน้ำใจของพี่น้องขาวบ้านมาช่วยงาน


ของใช้เสื้อผ้าต่างๆ ของหลานชายครั้งแรกตั้งใจจะเผา แต่มาคิดดูแล้ว คิดว่า การนำไปบริจาคให้กับคนยากไร้ หรือคนที่ต้องการ จะเป็นประโยชน์และยังส่งผลบุญถึงหลาน จึงจะนำไปมอบให้กับวัดบริจาคต่อไป

--------------
ทางด้านครอบครัวของน้องแฝด เด็กชายฝาแฝดพี่น้อง หลังจากพิธีฌาปนกิจแล้ว ครอบครัว มีคุณตาคุณยาย และญาติๆ ปู่เสื่อนั่งรอเปลวไฟที่เผาร่างของน้องจนมอดดับไป โดยมีการกอดรูปของน้องฝาแฝดไว้


ญาติบอกว่า เช้าวันนี้ (12 ต.ค. 65) ทางวัดได้เตรียมโกฐใส่กระดูก หรืออัฐิหลานๆ ให้ทำพิธีในตอนเช้าวันนี้ (12 ต.ค. 65) หลังจากนั้น ก็จะนำไปทำพิธีตอนเช้า ทำบุญ และเมื่อถึงเวลาก็จะมีการนำไปฝัง


ส่วนรถจักรยานที่เห็นนี้เป็นของน้องแฝดพี่น้อง ตอนแรกครอบครัวว่สจะเผาไปกับร่างของน้อง แต่คิดว่า นำไปบริจาคให้กับเด็กคนอื่นจะมีประโยชน์กว่า จึงจะนำจักรยานคู่ใจนี้ไปมอบให้กับเจ้าอาวาส วัดราษฎร์สามัคคี เพื่อทำพิธี และพิจารณามอบให้เด็กคนอื่นๆ


ซึ่งจักรยานนี้เป็นของรักของน้องฝาแฝด ทุกวันจะปั่นจักรยานเล่น และจะชอบบอกกับญาติว่า รถคันนี้ซื้อมาแบบเต็ม คือซื้อด้วยเงินสด แต่ด้วยความไร้เดียงสาน้องฝาแฝดจะบอกว่า ซื้อด้วยเงินเต็ม


ส่วนสภาพจิตใจครอบครัวก็ผ่อนคลายมากขึ้น ทุกคนในครอบครัว ได้เห็นชาวบ้านร่วมให้กำลังใจ และเชื่อว่าสถานการณ์เลวร้ายนี้จะผ่านไป และค่อยๆดีขึ้น

--------------
ด้าน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเทพมงคลพิชัย ตำบลด่านช้าง อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู


วัดนี้ทำพิธีพระราชทานเพลิงศพ จำนวน 6 ราย ญาตินำกลับไปประกอบพิธีที่วัดบ้านเกิด 3 ราย ส่วนอีก 3 ราย ทำการเผาบนเชิงตะกอน ซึ่งได้เริ่มเผาทั้ง 3 รายพร้อมกันช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ที่ผ่านมา โดยมีบรรดาครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต กอดรูปของลูกหลาน เฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง


อีกหนึ่งภาพที่เห็นแล้วเศร้าใจ คือภาพขณะที่ครอบครัว ญาติๆ มาเกาะผ้าแสลนดำคอยดูร่างอันไร้วิญญาณของบุคคลอันเป็นที่รักที่กำลังเผาไหม้ คอยส่อง คอยเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง บางครอบครัวพบว่าเฝ้าอยู่จนมืดกว่าจะกลับ
--------------

ด้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดศรีอุทัย ตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู


หลังจากเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานเพลิงศพ 11 ราย ซึ่ง 2 ราย คือภรรยาและลูกเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ ทางครอบครัวได้นำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านเกิด ส่วน 9 ราย ฌาปนกิจที่วัด


เวลา 16.50 น. เจ้าหน้าที่เริ่มฌาปนกิจศพแรก คือร่างของเด็กชายนันท์นภัส สำหรับการเคลื่อนร่างจากศาลาไปยังเตาเผา จะมีตัวแทนครอบครัวถือรูปปผู้เสียชีวิตเดินนำขบวน มีพระถือสายสิญจน์โยงกับโลงศพนำส่งดวงวิญญาณ


สำหรับการเผาแบบเตาไฟฟ้าศพแรกจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเวลาจะลดลงเหลือ 30-40 นาที แต่ว่าต้องมีการพักเตาระหว่างเผาอีกร่าง 30 นาที คาดว่าทั้ง 9 ราย จะเผาเสร็จในช่วงเช้ามืด


โดยบรรยากาศนั้นเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ศพแรกเด็กชายนันท์ภัส พ่อและแม่ต่างกอดกันร้องไห้ตลอดเวลา เมื่อเคลื่อนร่างมาถึงบริเวณหน้าเตา เจ้าหน้าที่เปิดฝาโลงให้ครอบครัวดูหน้าลูกหลานเป็นครั้งสุดท้าย ครอบครัวญาติ ต่างร่ำไห้ บอกลาหลานเป็นครั้งสุดท้าย ขณะเดียวกันพบว่าหลายครอบครัว ยังอยู่ในสภาวะที่ยังทำใจไม่ได้ บางคนถึงกับเป็นลมล้มพับลงไป

สำหรับที่วัดศรีอุทัยเมื่อเผาเสร็จ จะทำพิธีเก็บอัฐิทันที เนื่องจากว่าใช้เตาเผาไฟฟ้า สามารถเก็บอัฐิได้ทันที เมื่อเสร็จเจ้าหน้าที่ก็จะนำเฒ่ากระดูกออกมาให้ญาติทำพิธีก่อนนำใส่โกศกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อที่บ้าน และบางส่วนนำไปลอยอังคาร

--------------

คุณอาจสนใจ