ประวัติก่อเหตุอาชญากรรมอื้อ! คุมตัวมือยิงกิ๊กภรรยาสอบปากคำ พบให้การขัดกันหลายอย่าง

จากกรณีพบศพ ชายอายุ 27 ปีถูกยิงเสียชีวิต ภายในอ่างอาบน้ำ บริเวณระเบียงห้องพักที่เปิดโล่งมีเพียงผ้าม่านกั้น ในพื้นที่รีสอร์ต แห่งหนึ่งใน อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น เมื่อวานนี้ (8 กันยายน) ขณะที่ผู้เสียชีวิตเข้าพักกับหญิงอายุ 39 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายรุ่งโรจน์ ผู้ก่อเหตุ โดยหลังก่อเหตุนายรุ่งโรจน์ ได้ขับรถเก๋งสีขาว พาภรรยาหนีออกจากรีสอร์ตดังกล่าว


โดยตำรวจสามารถสกัดจับนายรุ่งโรจน์ อายุ 40 ปี ผู้ก่อเหตุ ขณะขับรถเก๋งสีขาว ได้ที่จุดสกัดป้อมตำรวจทางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง โดยมีภรรยาอายุ 39 ปีนั่งมาด้วย


ซึ่งตำรวจได้นำตัว นายรุ่งโรจน์ และภรรยา มาสอบปากคำ ก่อนจะส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.ภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร


พลตำรวจตรีมนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยภายหลังการสอบปากคำนายรุ่งโรจน์ และ ภรรยาว่า ตอนนี้ทั้ง 2 คนยังให้การขัดแย้งกัน โดยมีชนวนเหตุ ทั้งเรื่องหึงหวง และเรื่องเงิน จึงยังไม่สรุปว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากเรื่องอะไร


ภรรยานายรุ่งโรจน์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ได้ทะเลาะกับนายรุ่งโรจน์ และกลับมาที่จังหวัดขอนแก่นได้ 1 เดือน จากนั้นเริ่มคบหากับชายอายุ 27 ปี เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา


ยอมรับว่าได้นัดกับชายอายุ 27 ปีไปเที่ยว และเมื่อวันที่ 1 กันยายนมีการจองที่พักผ่านเพจของรีสอร์ต ว่าจะเข้าพัก 7 กันยายน จนสุดท้ายนายรุ่งโรจน์ทราบว่า มาพักที่นี่จากการเช็กอินทางโซเชียล จึงตามหา และมาก่อเหตุยิงชายอายุ 27 ปี 3 นัด เสียชีวิตคาอ่างอาบน้ำในห้องพัก


จากนั้น นายรุ่งโรจน์ใช้ปืนบังคับข่มขู่ให้ภรรยาตามขึ้นไปบนรถเก๋งซีวิค แล้วพาหลบหนี ภรรยายังยอมรับด้วยว่า ระหว่างที่ตนอยู่ขอนแก่น ยังติดต่อกับนายรุ่งโรจน์สามีอยู่


ซึ่งจากคำให้การทั้งหมดตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของทั้ง 2 คน ซึ่งจะต้องมีการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง


ขณะที่แม่ของชายอายุ 27 ปี เดินทางเข้ารับศพ ที่นิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น โดยแม่เล่าว่า ตนมีลูก 3 คน คนเสียชีวิต คือลูกชายคนที่ 2 สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ยังทำใจไม่ได้ เพราะแม่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกชายคบหากับหญิงรายนี้ที่มีสามีแล้ว เพราะลูกชายเพิ่งเลิกกับแฟนเก่าที่คบกันมา 8 ปี


ลูกชายไม่มีความผิดปกติ ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง ในช่วงเช้าวันที่ 7 กันยายน ขณะที่แม่ขายข้าวห่อสุโขทัย ที่หน้าห้างแห่งหนึ่ง ลูกชายมากินข้าวอิ่ม แล้วก็บอกว่าจะเข้าบ้าน แต่งตัวไปทำงาน จนเย็น ติดต่อโทรศัพท์ไม่มีใครรับสาย มีเพียงเพื่อนบ้านมาบอกว่า เห็นลูกชายแต่งตัวพร้อมสะพายกระเป๋าออกจากบ้านเดินไปขึ้นรถเก๋งสีขาว มีผู้หญิงเป็นคนขับ จอดรอรับลูกชายที่ปากซอย


ซึ่งแม่ไม่เคยรู้จัก แต่ฟังจากเพื่อนลูกชายเล่าให้ฟังจึงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นพี่สาวของเพื่อนลูก แม่เองก็ไม่รู้ในเรื่องของการติดต่อว่า ลูกชายกับฝ่ายหญิงติดต่อกันทางไหน แต่เชื่อว่าน่าจะติดต่อทางโซเชียล ยืนยันไม่ให้อภัย ทั้งผู้ก่อเหตุและภรรยา ขอให้ตำรวจดำเนินคดีตามความผิดที่สูงสุด


ขณะที่ญาติ กล่าวว่า น้องไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง แต่เคยเห็นฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นพี่สาวของเพื่อนมาหาน้องชายอยู่บ่อยๆ ซึ่งการไปเที่ยวและพักที่รีสอร์ตดังกล่าว น้องไม่ได้บอกอะไร จนมารู้ว่าทีหลังว่าน้องถูกยิงเสียชีวิต มารู้เรื่องหลังจากน้องถูกฆ่าตายแล้ว ซึ่งที่น้องถูกฆ่าถือว่าเป็นแต่การกระทำโหดร้ายมาก


ส่วนบรรยากาศที่วัดคุ้งยางใหญ่ ตำบลบ้านสวน อำเภเมือง จังหวัดสุโขทัย ซึ่งญาติอยู่ระหว่างเตรียมประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดดังกล่าว


โดยพี่ชายคนโต กล่าวว่า ไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ แต่มารู้ทีหลังว่า น้องชายเพิ่งรู้จักกับ ฝ่ายหญิงเพียงไม่ถึง 1 เดือน และ ไม่รู้ว่า ฝ่ายหญิงเขามีปัญหากับสามีเก่ามาก่อน


ซึ่งตนอยากรู้ว่า ทำไมคนก่อเหตุ ถึงยิงน้องชายด้วยความรุนแรงขนาดนี้ และอยากขอความเป็นธรรม ซึ่งตนเองไม่ต้องการให้ผู้ก่อเหตุมาขอขมาศพ


ขณะที่ตำรวจได้พาภรรยา ของนายรุ่งโรจน์มาสอบปากคำด้วยว่า มีส่วนรู้เห็นกับสามีในการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่ โดยหญิงรายนี้ยืนยัน ไม่ได้นัดแนะและไม่รู้มาก่อนว่าเขามาที่นี่ด้วย ส่วนผู้ชายที่เสียชีวิต ก็ไม่ใช่คู่รัก แต่เป็นเพียงน้องชายคนสนิทกัน และที่ผ่านมาก็เคยเห็นสามีจะทำร้ายน้องชายคนนี้มาก่อนด้วย เพราะเขาเป็นคนขี้หึง


โดยตำรวจก็ได้นำตัวทั้งสองคนเข้าห้องพิมพ์ลายนิ้วมือ และทำการสอบเครียด


ขณะที่ย้อนกลับไปดูประวัติการก่อเหตุของผู้ต้องหารายนี้ พบประวัติก่อคดีอุกฉกรรจ์หลายคดี ทั้งคดีพยายามฆ่าและอาวุธปืน ส่วนการเข้ามาก่อเหตุดูเหมือนว่า จะสืบจนรู้ว่าภรรยามาเข้าพักที่รีสอร์ตที่เกิดเหตุ จึงวางแผนเข้ามาพักที่เดียวกัน


สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ แม่บ้านของรีสอร์ตดังกล่าว เข้ามาเรียกลูกค้าที่ห้องพักหมายเลข 3 เพื่อจะสอบถามเรื่องอาหารเช้าวานนี้ (8 กย) แต่ต้องเจอเรื่องที่น่าตกใจ เพราะพบศพของชายอายุ 27 ปี เสียชีวิตภายในอ่างอาบน้ำ พร้อมคราบเลือดที่ปะปนกับน้ำเต็มอ่าง โดยอ่างอาบน้ำนี้ อยู่บริเวณระเบียงของห้องพักด้านนอก และมีเพียงผ้าม่านกั้นไว้ (โดยรีสอร์ตแห่งนี้มีห้องพักเพียง 8 หลังเท่านั้น)


เจ้าของรีสอร์ตให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้มีหญิงคนหนึ่งเป็นคนจองห้องพักผ่านเพจของรีสอร์ต และติดต่อขอจองห้องพักตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา และขอเข้าพักช่วง 14 นาฬิกา 30 นาที ของวันที่ 7 กันยายน


ซึ่งในตอนนั้น มีชายอีกคนพยายามติดต่อขอจองห้องพักที่รีสอร์ตแห่งนี้หลายครั้ง แต่ทางเจ้าของรีสอร์ต แจ้งไปว่า ห้องพักไม่ว่าง แต่ต่อมามีห้องพักหมายเลข 4 ว่างลง จึงแจ้งกลับไป


โดยประมาณเที่ยงของวันที่ 7 กันยายน ชายคนดังกล่าวก็ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาขอพัก แต่ไม่ยอมแสดงบัตรประชาชน ไม่ยอมกรอกรายละเอียด ทางรีสอร์ตไม่อยากเสียลูกค้า จึงปล่อยให้เข้าพัก เมื่อเข้าห้องพักแล้วก็ปิดไฟ เงียบ ไม่ติดต่อสื่อสารใด ๆ กับรีสอร์ต ซึ่งทางเจ้าของรีสอร์ตมาทราบภายหลังว่า คือนายรุ่งโรจน์ หรือเสี่ยอั๋นที่มาก่อเหตุ


จากนั้นในช่วงเวลาบ่ายของวันที่ 7 กันยายน หญิงสาวคนที่จองห้องพักขับรถเก๋งสีขาว เข้ามาพักกับชายอายุ 27 ปี โดยเข้าพักห้องหมายเลข 3 พอช่วงค่ำ ของวันเดียวกัน มีลูกค้า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด ทำให้ลูกสะใภ้ของเจ้าของรีสอร์ต เข้าตรวจสอบเหตุดังกล่าว


ขณะเดินทางมาตรวจสอบ ก็พบชายคนที่พักห้องหมายเลข 4 จูงมือหญิงที่พักห้องหมายเลข 3 ท่าทีลุกลี้ลุกลน วิ่งถือกระเป๋าออกจากห้องพักหมายเลข 3 ซึ่งฝ่ายชายพูดเพียงว่า ออกไปข้างนอกเดี๋ยวกลับมา แล้วก็พากันขึ้นรถเก๋งสีขาวที่ผู้หญิงขับมากับชายอายุ 27 ปี แล้วขับออกไป


จากนั้นก็มีแม่บ้านมาพบศพ แล้วแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ มีข้อมูลด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุ นายรุ่งโรจน์ ได้เดินทางมาพักที่รีสอร์ตใกล้ ๆ ห่างจากรีสอร์ตที่เกิดเหตุ 1 กิโลเมตร โดยมีพนักงานของรีสอร์ตอีกแห่ง มายืนยันว่า นายรุ่งโรจน์ขับรถเบนซ์ มาพักที่รีสอร์ตเมื่อวันที่ 4 กันยายน จากนั้นก็ยืมจักรยานยนต์พนักงานไป และทิ้งรถเบนซ์เอาไว้ ไม่มาเอาคืน จนพนักงานเพิ่งมาทราบว่า นายรุ่งโรจน์ก่อเหตุยิงชายอายุ 27 แล้วหลบหนี


ขณะที่จากการตรวจสอบประวัตินายรุ่งโรจน์ พบว่าเคยก่อเหตุมาแล้ว 5 คดี ได้แก่


ปี 2553 ก่อเหตุคดีพยายามฆ่า ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร

ปี 2555 คดีครอบครองและพกพาอาวุธปืน จังหวัดสมุทรสาคร

ปี 2563 ก่อคดียิงปืนในช่วงปีใหม่ 2 คดี ที่จังหวัดสมุทรสาคร

และปีเดียวกัน ก็พบก่อเหตุยิงปืนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นอีก 1 คดี


โดยทั้ง 5 คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล และนายรุ่งโรจน์ได้หลบหนีในชั้นประกันตัว จนกระทั่งมาก่อเหตุล่าสุดและถูกจับกุมได้


นอกจากนี้พบประวัติครอบครัว นายรุ่งโรจน์ หรือเสี่ยอั๋น เป็นลูกชายคนโต ประกอบธุรกิจหลายอย่าง ซึ่งรับช่วงธุรกิจมาจากพ่อ (เสียชีวิตไปเมื่อ 10 ปี ที่แล้วจากเหตุฆ่าตัวตาย)


โดยเป็นเจ้าของแพกุ้ง และ แพปลา ที่ตลาดทะเลไทย และตลาดกลางกุ้ง มีธุรกิจห้องเช่า รวมถึงโรงงานแปรรูปอาหารทะเล ในตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร รวมมูลค่านับ 1,000 ล้านบาท


พบปลูกสร้างบ้านเป็นคฤหาสน์หรู ราคาประมาณ 10 ล้านบาท ที่หมู่บ้านชื่อดัง ในพื้นที่ ตำบลโคกขาม จังหวัดสมุทรสาคร แต่นายรุ่งโรจน์ไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้


ส่วนเส้นทางความรักของนายรุ่งโรจน์ เคยมีภรรยาแต่เลิกร้างไป และมีรายงานว่า เคยก่อเหตุยิงสามีใหม่ของอดีตภรรยา เมื่อ 8 ปีก่อน ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ต่อมาได้ประกันตัว และอยู่ระหว่างสู้คดี


ต่อมาก็อยู่กับภรรยาคนปัจจุบัน จดทะเบียนสมรส แต่เริ่มมีปัญหากัน เพราะเสี่ยอั๋นสงสัยว่าภรรยาจะมีชายอื่น จนกระทั่งมาก่อเหตุในที่สุด