อาชญากรรม

ผลชันสูตร เด็ก ป.2 ถูกลืมในรถเสียชีวิต ชี้อาจเกิดจากฮีทสโตรก เผยสีตับเปลี่ยน ย้ำไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย

โดย kanyapak_w

6 ก.ย. 2565

335 views

ผลชันสูตร เด็ก ป.2 ถูกลืมในรถเสียชีวิต ชี้อาจเกิดจากฮีทสโตรก เผยสีตับเปลี่ยน ย้ำไม่พบร่องรอยการทำร้ายร่างกาย



เวลา 11.30 น. ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมนพ.ศราวุฒิ สุจริตธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนิติเวช สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งมาในฐานะผู้สังเกตการณ์ ได้เปิดเผยผลการหารือกับสื่อมวลชน ภายหลังเข้ารับฟังคำชี้แจงขั้นตอนและกระบวนการผ่าพิสูจน์ศพเด็ก ป.2 ถูกลืมในรถเสียชีวิตใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง



ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า แม่ผู้เสียชีวิตต้องการให้กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบกระบวนการผ่าพิสูจน์ของสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ โดยมีผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มาร่วมสังเกตการณ์ ทั้งนี้ไม่พบว่ามีความผิดปกติ โดยการทำงานมีทั้งหมด 5 ขั้นตอน คือ 1.การบันทึกเสื้อผ้า 2.ตรวจสภาพร่างกายภายนอก 3.ตรวจบาดแผลนอกร่างกาย 4.เก็บวัตถุพยาน เช่น เลือด ช่องคลอด ทวารหนัก เล็บ ชิ้นเนื้อ อาหารในกระเพาะอาหาร เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุการเสียชีวิต และ 5.การผ่าพิสูจน์ร่างกาย



เบื้องต้นพบร่องรอยการฟกช้ำตามแขนและใบหน้า รวมทั้งหมด 9 จุด ไม่พบกระดูกหัก ไม่มีการข่มขืน ไม่มีร่องรอยการบีบคอ ที่สำคัญ พบว่าตับเปลี่ยนออกเป็นสีเหลือง ซึ่งปกติตับจะเป็นสีแดงหรือชมพู จึงคาดว่าสาเหตุการเสียชีวิตอาจเกิดจากภาวะฮีทสโตรก



ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวว่า สำหรับรอยเปื้อนบนชุดนักเรียนเกิดจากการที่น้องจีฮุนลงไปนอนบนพื้นรถที่เปื้อนฝุ่น โดยแพทย์ระบุว่า ศพอยู่ในลักษณะคว่ำหน้า ทำให้เลือดตก จนอาจทำให้เกิดแผลถลอกที่แก้มซ้าย ขณะที่เยื่อบุตาไม่พบเลือดออกเช่นเดียวกับสมอง เพราะหากพบก็จะคาดว่าอาจเกิดจากการกระแทกได้ พร้อมกันนี้ ได้เร่งรัดขอผลการผ่าพิสูจน์ศพ ซึ่งคาดว่าจะได้รับในวันที่ 15 ก.ย.นี้ โดยศพจะอยู่ในความดูแลของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ รังสิต หากครอบครัวไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตก็จะนำไปฌาปนกิจต่อไป



นพ.ศราวุฒิ กล่าวว่า อาการฮีทสโตรกในเด็กนั้น เกิดจากการควบคุมอุณหภูมิในสมองของเด็กที่ยังไม่ดีเท่าผู้ใหญ่ จึงทำให้เด็กทนต่อความร้อนได้น้อยกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งเด็กอาจใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ขณะที่ผู้ใหญ่อาจใช้เวลา 15 นาทีขึ้นไป ซึ่งภาวะฮีทสโตรก จะทำให้รู้สึกสับสน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ชัก และหมดสติ กระทั่งร่างกายล้มเหลว ซึ่งภาวะฮีทสโตรกสามารถตรวจพบเลือดออกตามจุดต่างๆ ของร่างกายได้เช่นกัน



ดังนั้นการแก้ปัญหา จึงควรตรวจเช็กเด็กก่อนลงจากรถทุกครั้ง สำหรับบาดแผลฟกช้ำตามร่างกายเด็กตามแขนและขานั้น สันนิษฐานว่า อาการฮีทสโตรกอาจทำให้เด็กฟาดแขนและขาไปในรถ เพราะตำแหน่งของร่างกายเข้ากันได้กับส่วนต่างๆ ภายในรถ ทั้งนี้ยังต้องนำข้อมูลการพิสูจน์หลักฐานของตำรวจมาประกอบกันอีกครั้ง


คุณอาจสนใจ

Related News