อาชญากรรม

ดีเอสไอ เรียก "ชัยวัฒน์" กับพวก รับทราบข้อหาคดี "บิลลี่" เพิ่มเติม ข้อหาร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นฯ

โดย kanyapak_w

31 ส.ค. 2565

217 views

เมื่อเวลา 10.00 น. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมพวก 4 คน เดินทางมาที่กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในคดีการเสียชีวิตของ บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ ตามที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ได้มีหนังสือลงวันที่ 18 สิงหาคม 2565 ให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งข้อหาแก่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวก เพิ่มเติม ในข้อหาร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 309



นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ตนมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในข้อหาใช้อาวุธข่มขืนใจผู้อื่น ซึ่งเห็นว่าเป็นการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ตามกระบวนการยุติธรรม เพราะหากมีการแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องการฆ่า ก็คงต้องมีเรื่องอาวุธมาเกี่ยวข้องด้วย จึงไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร ส่วนกรณีที่อัยการสูงสุด มีคำสั่งชี้ขาด สั่งฟ้องในข้อหาฆ่าผู่อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ



นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ตนขอเปิดใจว่าต้องขอบคุณ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกปีเมื่อถึงวันเกี่ยวกับผู้สูญหาย ก็จะถูกหยิบยกเรื่องนี้มาพูด ดังนั้น มองว่าถ้าได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก็จะดีกว่า ตนเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจของตนเอง ยืนยันว่าไม่ได้ทำ ส่วนใครจะเป็นคนทำนั้น เชื่อว่ากระบวนการไต่สวนในชั้นศาลจะตอบได้ทั้งหมด และต่อไปคงไม่ต้องมาถามกันแล้วว่าบิลลี่อยู่ไหน



สำหรับหลักฐานที่ตนจะใช้สู้คดีในชั้นศาลนั้น ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะตนยังไม่เคยได้เห็นพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนเลย ได้เห็นเพียงแต่จากข่าวว่ามีเรื่องโครงกระดูก แต่ไม่รู้รายละเอียด ซึ่งคงต้องรอให้ถึงวันนัดตรวจพยานหลักฐาน ตามกระบวนการของชั้นศาล แล้วได้เห็นพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน



เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ผ่านมาต้องตกเป็นจำเลยสังคมในเรื่องนี้มาตลอด นายชัยวัฒน์ ตอบว่า ตนขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้กำลังใจ ส่วนคนที่ยังสงสัยในตัวตน ขอยืนยันว่า ตนทำงานปกป้องป่าและสัตว์ป่ามาตลอดชีวิตเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่เคยทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง



ขณะที่ คณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้พิจารณาให้ นายชัยวัฒน์ กลับเข้าไปรับราชการในตำแหน่งเดิม คือ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี เนื่องจากศาลปกครองเพชรบุรี มีคำสั่งทุเลาบังคับคดีจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา และ นายชัยวัฒน์ ได้กลับเข้าไปรับราชการ เมื่อวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งนายชัยวัฒน์ ยืนยันว่า การกลับเข้ามารับราชการของตนเองนั้น จะไม่มีผลต่อการไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เพราะคดีนี้ผ่านมานานหลายปี ตนก็ไม่เคยไปยุ่งเหยิงหรือคุกคามใคร



ส่วนอายุราชการที่เหลืออีก 2 ปี ก็พร้อมที่จะเข้าไปทำงานด้านการจัดสรรที่ทำกินของประชาชนตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ฉบับใหม่ ปี 2564 แต่ขณะนี้ยังรอการมอบหมายงานจากผู้บังคับบัญชาอยู่ พร้อมยืนยันว่าตนจะเดินหน้าปกป้องอนุรักษ์ป่าไม้ต่อไป



ด้าน นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า วันนี้ได้นัดหมายให้ผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ในข้อหาร่วมกันโดยใช้อาวุธข่มขืนใจผู้อื่น โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ส่วนข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วตั้งแต่แรก พร้อมยืนยันว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และวันนี้ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทำตามที่อัยการมีคำสั่งมา และถือว่าครบถ้วนในชั้นของกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว โดยตนได้มีการพูดคุยกับนายชัยวัฒน์ ผู้ต้องหา ก็น้อมรับที่จะเข้าสู่ขบวนการชั้นศาล



สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ขอศาลออกหมายจับ นายชัยวัฒน์ กับพวก ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ และข้อหาอื่นรวม 8 ข้อหา ต่อมา วันที่ 23 มกราคม 2563 อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาตามข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยสั่งฟ้องเพียงข้อหาเดียว คือ เป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ



และเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2563 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสือแย้งความเห็นของอัยการที่ไม่สั่งฟ้อง โดยระบุว่ามีพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพียงพอในการแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ จึงไม่เห็นด้วยกับความเห็นสั่งไม่ฟ้องของอัยการ จนเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา อัยการสูงสุดได้มีคำสั่งชี้ขาด สั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ กับพวก ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ และข้อหาอื่นรวม 4 ข้อหา โดยใน 4 ข้อหานี้ มี 1 ข้อหาที่ให้แจ้งเพิ่มเติมจากเดิม คือ ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต



โดยหลังจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้นัดหมายผู้ต้องหาทั้งหมด เพื่อจะส่งตัวให้พนักงานอัยการในวันที่ 5 กันยายนนี้ ซึ่งทางทนายความระบุว่า ได้มีการเตรียมหลักทรัพย์และเอกสาร พร้อมที่จะยื่นขอประกันตัวไว้แล้ว



แท็กที่เกี่ยวข้อง  อาชญากรรม ,บิลลี่ ,ชัยวัฒน์

คุณอาจสนใจ

Related News