อาชญากรรม
แจ้งจับ ‘หลานชาย รมต.’ วางยาข่มขืนดาราสาว อ้างเมาอีกฝ่ายยินยอม เสนอเงิน-งานในวงการ แลกยุติคดี
โดย petchpawee_k
25 ส.ค. 2565
1.5K views
ตร.ออกหมายเรียก ‘หลานชายอดีตรัฐมนตรี’ รับทราบข้อกล่าวหา แอบวางยาล่วงละเมิดดาราสาววัย 21 ปี ในรีสอร์ท ญาติผู้ก่อเหตุยื่นข้อเสนอเรื่องเงิน-งานในวงการบันเทิง แลกกับการไม่ดำเนินคดี อ้างหลานชายเมาอีกฝ่ายยินยอม
วานนี้ (24 ส.ค.) เวลา 15.30 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พาดาราสาวนักแสดงวัย 21 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผู้กำกการ สน.โชคชัย เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ถูกนักธุรกิจเจ้าของบริษัทใหญ่ หลานชายอดีตรัฐมนตรี วางยาล่วงละเมิดทางพศในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ย่านนาคนิวาส 2 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งแจ้งที่ สน. โชคชัย เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม แต่คดีไม่คืบ
ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนักแสดง ก่อนเกิดเหตุคู่กรณี ซึ่งมีธุรกิจบันเทิงปั้นนักแสดงศิลปินและไอดอล รวมถึงนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศ ได้ติดต่อมาจ้างงานผ่านทางไอจี และได้มีการขอให้ส่งโปรไฟล์งานผ่านทางไลน์ นอกจากนี้ตนเองกำลังจะทำเพลงจึงได้ขอสปอนเซอร์จากผู้ก่อเหตุ
จึงได้มีการนัดพบพูดคุยเรื่องงานกันที่ล็อบบี้ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา แต่เมื่อไปถึง คู่กรณีกลับพาไปคุยงานที่รีสอร์ท ซึ่งเป็นพูลวิลล่า อยู่ในซอยนาคนิวาส 2 โดยผู้เสียหายไปพบคู่กรณีเพียงลำพัง และดื่มโซจูไป 2 ขวด จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
ในขณะเดียวกันพี่สาวผู้เสียหายเริ่มผิดสังเกตว่าน้องขาดการติดต่อไป จึงออกตามหาโดยดูจากจีพีเอสในมือถือ จนพบว่าน้องสาวถูกพาไปที่รีสอร์ท และรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย จึงตามไป เมื่อไปถึง พบคนขับรถของคู่กรณี แต่อีกฝ่ายกลับบ่ายเบี่ยงอ้างว่าเป็นเพียง รปภ.และไม่ให้เข้าไปภายใน พี่สาวผู้เสียหายจึงได้แจ้งตำรวจให้ช่วยเข้าไปเคาะห้องพาตัวน้องสาวออกมา แต่ตำรวจไม่ทำให้ เนื่องจากรีสอร์ทดังกล่าว เป็นรีสอร์ทของนายตำรวจใหญ่ เกรงจะเป็นการบุกรุก
จนกระทั่งเวลาประมาณตี 2 ผู้เสียหายเริ่มได้สติ พี่สาวจึงรีบบอกให้ออกมาจากรีสอร์ท และกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านผู้เสียหายก็สลบหมดสติจนเช้า และเมื่อตื่นไปอาบน้ำ ก็พบว่ามีสารคัดหลั่งลักษณะคล้ายอสุจิติดอยู่ เมื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล
แพทย์ก็ระบุว่าพบสารอสุจิในช่องคลอดจริง และยังพบตัวยานอนหลับชนิดหนึ่ง แต่ปริมาณน้อยมาก คาดว่าอาจเพราะมาตรวจร่างกายหลังผ่านเหตุการณ์ไปเกิน 24 ชั่วโมงแล้ว แต่ในรายงานผลของแพทย์นิติเวช กลับไม่มีระบุว่าพบยานอนหลับดังกล่าว ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่
หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้โทรศัพท์ไปสอบถามคู่กรณี ก็ยอมรับว่าชอบผู้เสียหาย และมีการแอบเอายาบางอย่างใส่ให้ผู้เสียหายกินจริง แต่จำไม่ได้ว่ายาอะไรบ้าง และห้ามไม่ให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย โดยยังบอกอีกว่าชอบผู้เสียหาย และก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ
ผู้เสียหายจึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.โชคชัย ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และพนักงานสอบสวน ได้ออกหมายเรียกคู่กรณีไปแล้ว ทำให้คู่กรณีพยายามติดต่อมา แต่ผู้เสียหายปฏิเสธที่จะพูดคุย และเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ได้มาติดต่อขอให้ทนายษิทรา เป็นทนายเพื่อติดตามคดีให้ต่อไป
พี่สาว อายุ 25 ปี กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนพยายามจะนำน้องออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ มาทราบภายหลังว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นของนายตำรวจคนหนึ่ง หากตนเองเข้าไปได้ทันทีเหตุการณ์ดังกล่าวคงไม่เกิดขึ้นกับน้องสาว นอกจากนี้ยังพบว่าขณะที่มาแจ้งความ ตำรวจได้มีการพูดจาเหยียดน้องสาวตน
ระหว่างที่ผู้เสียหายมาพบทนายตั้ม ทางญาติผู้ก่อเหตุได้โทรมาหา บอกว่าเป็นอาของผู้ก่อเหตุ รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ กำลังจะให้หลานชายเล่นการเมือง เพื่อดันให้ช่วยเหลือประเทศไทย ถ้ามีเรื่องอะไรไม่ดีจะทำให้หลานชายเสียหาย ถ้ามีปัญหาเรื่องการเงินก็จะช่วย ถ้ามีเรื่องอะไรไม่ดีก็จะเสียหายทั้งคู่ พอจะคุยกันได้มั้ย พร้อมยื่นข้อเสนอเรื่องงานในวงการบันเทิง แลกกับการที่จะไม่ดำเนินคดี ผู้หายบอกไปว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงินและไม่รู้จะคุยอะไรด้วย
ทนายตั้ม ระบุว่า หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหาย ได้พยายามติดต่อสอบถามคู่กรณีว่าในวันเกิดเหตุฝ่ายชายได้ล่วงละเมิดตนเองหรือไม่ ซึ่งฝ่ายชายก็ยอมรับล่วงละเมิดจริงแต่ฝ่ายหญิงยินยอม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะขณะเกิดเหตุ ผู้เสียหายไม่รู้สึกตัวแม้แต่หลังเกิดเหตุยังไม่มั่นใจว่าตนเองถูกกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถาม จึงไปตรวจร่างกายพบ ยานอนหลับชนิดหนึ่ง ยังเชื่อว่า ผู้เสียหายถูกมอมยา
ฝั่งคู่กรณียังพยายามติดต่อข่มขู่ อีกทั้งเมื่อมาแจ้งความ กลับถูกตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงรองผู้กำกับ พูดจาไม่ดีและสั่งห้ามเป็นข่าวหรือปรึกษาทนาย อ้างจะทำให้เรื่องยุ่งยาก ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ว่าคดีนี้มีพิรุธ ผู้เสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงตัดสินใจพาผู้เสียหายมาติดตามความคืบคดี ผู้เสียหายยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้คู่กรณีไปกระทำการในลักษณะเช่นนี้กับผู้หญิงรายอื่น ๆ อีก
ด้านผู้กำกับการ สน. โชคชัย ระบุว่า ตั้งแต่ได้รับการแจ้งความจากผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนได้ ปฏิบัติตามขั้นตอนมีการสอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้วแต่ทางผู้เสียหายต้องการให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำเพิ่มเติมใน 2-3 ประเด็น จึงสั่งการให้ดำเนินการทันที ยืนยันตำรวจจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ทั้งสองฝ่าย ส่วนขั้นตอนการออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาหรือคู่กรณีนักธุรกิจคนดังกล่าวมาสอบปากคำนั้น ยังไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากถือว่าขณะนี้ยังสอบผู้เสียหายให้เสร็จสิ้น
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/OCVyEFk5vks