ชายวัย 70 ปีบุกชิงทองกลางวันแสก ๆ หนีเข้าตึกร้างไม่รอดถูกตำรวจใกล้เกษียณบุกจับ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม ขณะที่ ด.ต.สาโรจน์ จงเจริญ ผบ.หมู่งานจราจร สน.หลักสอง กำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจรอยู่ใกล้กับตลาดบางแค ถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าเดอะมอลล์ บางแค แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ นั้น ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชเอ็มโกลด์ และกำลังหลบหนีอยู่นั้น จึงรีบแจ้งขอกำลังเสริมเพื่อเข้าคลี่คลายสถานการณ์


ด.ต.สาโรจน์ กล่าวว่า ขณะที่กำลังยืนปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากร้านทอง ก่อนจะมีชาวบ้านตะโกนแจ้งว่ามีคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ภายในร้าน และยิงประตูกระจกนิรภัย เพื่อหลบหนี เมื่อตรวจสอบเห็นคนร้ายกำลังวิ่งข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม จึงรีบขอกำลังเสริม เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย


ก่อนที่คนร้ายจะวิ่งเข้าไปยังลานจอดรถของห้างไอทีแกรนด์ ซึ่งเป็นตึกร้าง และปิดบริการไปแล้ว เจ้าหน้าที่จจึงติดตามเข้าไปและจับกุมตัวได้ในที่สุด


ด้าน ร.ต.อ.สถิตย์ อิ่มที่สุด รอง สว.จราจร สน หลักสอง เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ก็ได้รับแจ้งขอกำลังเสริม เนื่องจากมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ร้านทอง และอยู่ระหว่างเดินเท้าหลบหนี เมื่อมาถึงก็เห็นคนร้ายเป็นชายหนึ่งราย สวมเสื้อยืดสีดำ และนุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ใส่หมวกแก๊ป สะพายกระเป๋าเป้สีดำ วิ่งหลบหนีข้ามถนนไปยังลานจอดรถห้างไอที แกรนด์บางแค ซึ่งปิดบริการไปแล้ว จึงได้ติดตามไปพร้อมกับ ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงดารา ผบ.หมู่งานจราจร สน.หลักสอง พร้อมชักปืนเตรียมความพร้อม


ขณะที่กำลังติดตามไปยังลานจอดรถ เห็นคนร้ายนอนซ่อนตัวอยู่ข้างต้นกล้วย จึงทำการเข้าจับกุม ซึ่งคนร้ายยอมให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวแต่โดยดี ก่อนจะตรวจค้น พบอาวุธปืนขนาด .38 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก ภายในลูกโม่มีกระสุนบรรจุ อยู่ 4 นัด ถูกใช้ไปแล้ว 1 นัด นอกจากนี้ยังพบสิ่งเทียมอาวุธปืน เป็นบีบีกัน ลักษณะปืนกล็อก อีก 1 กระบอก และยังพบสร้อยคอทองคำ 17 เส้น ยังไม่ทราบน้ำหนัก ถูกใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย จึงยึดไว้เป็นของกลาง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สน.หลักสอง นำตัว นายบวร อายุ 70 ปี เข้าไปดำเนินคดีที่ สน.เพชรเกษม โดยเจ้าหน้าที่พาไปทำแผลที่ขาซ้าย เนื่องจากถูกกระจกบาด โดยสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายมีความเครียดเนื่องจากถูกตัดน้ำ-ไฟ และไม่มีกิน ก่อนจะนั่งรถเมล์ตระเวนหาร้านก่อเหตุมาเกือบสิบวัน และสบโอกาสที่ร้านนี้เพราะมีพนักงานเป็นผู้หญิง จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว


มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ร.ต.อ.สถิตย์ อิ่มที่สุด รอง สว.จร.สน.หลักสอง ที่จับกุมคนร้ายได้นั้น อีกสองเดือนจะเกษียณอายุราชการ


ด้าน นายโซ่ อายุ 35 ปี พ่อค้าขายปลาทูที่ตั้งแผงอยู่หน้าร้านทอง เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังขายของอยู่ตามปกติก็ได้ยินเสียงปืนดังมาจากร้านทอง 1 นัด จนประตูกระจกแตกละเอียด กระเด็นมาใกล้กับร้าน เมื่อมองดูก็เห็นคนร้ายพยายามหนีออกจากร้านก่อนจะรีบเดินหนีข้ามถนนไป ฝั่งตรงข้าม


ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายบวร อายุ 70 ปี โดยกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายแต่งตัวสวมเสื้อยืดสีดำ , นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ , สวมถุงเท้าดำ , ใส่รองเท้าแตะ สวมหมวกแก๊ป ใส่แว่นตา สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า และสวมถุงมือสีดำ เดินเปิดประตูเข้ามาในร้าน ก่อนจะชักอาวุธปืนลูกโม่ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง ขู่พนักงานสาวของร้านที่ยืนเฝ้าหน้าเคาน์เตอร์อยู่ 2 คน ให้เปิดตู้กระจก โดยบังคับให้รีบส่งทองใส่ถุงดำที่เตรียมไว้โดยเร็ว


ก่อนพนักงานจะหยิบถาดสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึงให้คนร้าย และรีบหลบเข้าไปหลังร้าน ขณะที่คนร้ายกำลังจะหนีออกมา พนักงานได้ปิดประตูกระจกนิรภัยไว้ ทำให้คนร้ายไม่สามารถหนีออกมาได้ จึงได้ถีบประตูอยู่หลายครั้ง ก่อนจะใช้ปืนลูกโม่ ยิงที่ประตู 1 นัด จนแตกละเอียด และถีบกระจกออกมา เดินหลบหนีไป และถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด


เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ , พกปืนไปในที่สาธารณะ เมือง หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร , ยิงปืนในที่สาธารณะ เมือง หรือหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป