อาชญากรรม

พ่อเด็ก 10 ขวบคาใจ! ตร.ไซเบอร์โยนบาปให้ลูก ซื้อไอเท็มเกม 1.2 ล้าน แฉขั้นตอนลวง ก่อนดูดเงิน

โดย petchpawee_k

3 ส.ค. 2565

139 views

กรณี นายณรงค์ฤทธิ์ อายุ 49 ปี ชาวอำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช นักธุรกิจค้าปุ๋ย เคมีภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการเกษตร ได้นำหลักฐานมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่ามี มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ติดต่อล่อลวงหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวจากลูกชายวัย 10 ขวบ ก่อนที่จะเข้ามาโอนเงินในบัญชีออกไปถึงถึง 65 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 7-25 ก.ค. 65 วงเงินรวมสูงถึง 1,206,000 บาท


ต่อมาตำรวจไซเบอร์ จากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 ได้เปิดเผยข้อมูลอีกด้านว่าการทำธุรกรรมดังกล่าว เป็นการทำธุรกรรมโดยเจ้าของบัญชีเอง ซึ่งบุตรชายอาจเป็นผู้ดำเนินการเองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และนายฤรงค์ฤทธิ์ ไม่ทราบถึงรายละเอียดขั้นตอนดังกล่าวแต่อย่างใด  โดยขั้นตอนจะต้องมีการยืนยันตัวตนโดยการถ่ายภาพใบหน้าของนายฤรงค์ฤทธิ์ เพื่อยืนยันข้อมูลในการสมัครเข้าใช้งาน บุตรชายของผู้เสียหายได้นำโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวไปใช้ในการสมัครเล่นเกมส์ออนไลน์และซื้อ Item เกมส์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อแต่ละครั้ง โดยการซื้อ Item เกมส์ดังกล่าวเป็นการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet)


ความคืบหน้าวานนี้ (2 ส.ค.) นายณรงฤทธิ์ ผู้เสียหาย ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า ยอมรับว่าตกใจและยังมึนงงกับการแจ้งข้อมูลของตำรวจไซเบอร์ กลายเป็นว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และในการพูดคุยกับตนเองเสมือนว่าตนเองเข้าไปมีส่วนรู้เห็นด้วย โดยที่ไม่ได้บอกเลยว่าพฤติการณ์ที่เด็กให้ข้อมูลนั้น การล่อลวงเอาบัตรประชาชนของพ่อ การชักชวนล่อลวงไม่ให้เด็กบอกพ่อถึงการส่งข้อมูลส่วนตัวของพ่อให้ เด็กมีอายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น


รวมทั้งข้อสงสัยในเรื่องการแจ้งเตือนข่าวตำรวจที่ออกมานั้น ฟังเหมือนว่าความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นของตนเองเป็นเรื่องไม่จริง ถูกสังคมว่ากล่าวเสียๆหายๆ  ขอยืนยันว่าตนเองไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลย และขอยืนยันว่าการทำธุรกรรมของตนเองทุกครั้งโดยเฉพาะการโอนเงินจะไปทำด้วยตัวเองที่ธนาคารผ่านสลิปหลักฐานที่เป็นกระดาษทุกครั้ง  ส่วนแอปธนาคารในโทรศัพท์ที่เกี่ยวข้องนั้น เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งไว้ให้ แต่ไม่เคยได้ใช้เพราะกลัวเหตุการณ์แบบนี้ และจะเข้าขอความช่วยเหลือกับสภาทนายบความจังหวัดนครศรีธรรมราช


ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับลูกชายอายุ 10 ขวบของผู้เสียหายรายนี้ ได้เล่าให้ฟังอย่างละเอียดถึงขั้นตอนของการพูดคุยกับปลายทาง พร้อมทั้งพฤติการณ์ที่ถูกชักจูงล่อลวงว่า มีการคุยกันทางอนอนไลน์และโทรมา  จากนั้นตนเองจะเอาโทรศัพท์ไปให้พ่อ เขาบอกว่าไม่ต้องเอาให้แต่ขอเบอร์ หลังจากนั้นได้มีการเสนอให้รหัสเกม ให้ตัวละคร และให้สมัครทรูมันนี่  ให้สมัครตามเขา แล้วให้ใส่รหัสโอทีพีที่มีมาให้ เราก็ใส่ไป ตอนนั้นก็แชตไลน์กันแล้ว สมัครเสร็จเขาก็ให้รหัสเกมมา


ตอนนั้นก็เล่นเกมกันหลังจากนั้นก็มีลิ้งมาให้เข้าใจว่าเป็นลิ้งเล่นเกมกัน แต่เมื่อเข้าไปมันโหลดช้าเลยออกมา เด็กชาย 10 ขวบเหยื่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ รายนี้ยังยืนยันด้วยว่า เขาขอบัตรประชาชนพ่อและวีดีโอหน้าพ่อ ได้เอาของตัวเองให้ไปแต่เขาบอกว่าไม่ได้ ส่วนเงินที่ออกไปนั้นไม่รู้เลย มารู้เมื่อตอนที่พ่อเอาสมุดบัญชีไปธนาคารแล้วรู้ว่าเงินหายไป


ขณะที่ นายลือชา เปี่ยมสุวรรณ ประธานสภาทนายความภาค 8 ได้ทราบข้อมูลเบื้องต้น โดยได้มีการประสานงานเพื่อขอความช่วยเหลือในคดีจากสภาทนายความภาค 8 และสภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราช  นายลือชาได้ให้ความเห็นเบื้องต้นว่า พฤติการณ์ที่มีการติดต่อกับเด็กที่มีอายุเพียง 10 ขวบ นั้นเห็นถึงวุฒิภาวะของเด็กอยู่แล้วว่ายังไม่เพียงพอ การล่อลวงขอเอกสารของพ่อเด็กโดยมีการสำทับไว้ว่าอย่าบอกพ่อนั้น แสดงถึงเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์อยู่แล้ว และวงเงินกว่า 1.2 ล้านบาท เป็นเรื่องที่เกินวิสัยของเด็ก 10 ขวบที่จะทำธุรกรรมได้โดยชอบ


ดังนั้นเหตุการณ์ทำนองนี้จึงอาจเข้าข่ายพฤติกรรมความผิดลักษณะฉ้อโกง ล่อลวงเด็ก ซึ่งขอให้ทางฝั่งผู้เสียหายมาทำเรื่องที่สภาทนายความจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องนี้ได้



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/rYeaCjip8gY

คุณอาจสนใจ

Related News