อาชญากรรม

ตร.จับผัวโหดฆ่ารัดคอเมีย ก่อนอำพรางว่าผูกคอตาย

โดย taweelap_b

25 ก.ค. 2565

852 views

เมื่อวันที่ 25 ก.ค.65 เวลา 11.30 น. ที่สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม แถลงความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของสาวนักธุรกิจผูกคอตายปริศนา แต่สุดท้ายหลักฐานมัด สามีอำพรางคดีตอนแรกไม่ได้เป็นข่าว เพราะหลายคนคิดว่าเป็นเหตุฆ่าตัวตาย สืบจากศพเนื่องจากรอยเชือกที่คอผิดปกติ อีกทั้งจุดที่สามีให้การว่า ภรรยาผูกคอตายก็ไม่สอดคล้องกัน รวมถึงคนรอบตัวก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย


เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 14 ก.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว ได้รับแจ้งว่า มีชายคนหนึ่งนำร่างของผู้หญิงมาส่งโรงพยาบาล จากการตรวจสอบพบว่า ผู้หญิงได้เสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาลแล้ว โดยชายที่นำร่างผู้หญิงมาส่งบอกว่าเป็นสามี อ้างว่าภรรยาใช้สายไฟฟ้าผูกคอตายที่บ้านพัก อ.สามพราน จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่รพ.จึงแจ้งตำรวจชันสูตรศพเบื้องต้น ทราบชื่อผู้ตาย น.ส.หมวย


จากการตรวจเบื้องต้นพบว่ารอยเชือกที่คอของผู้ตายต่างจากเคสอื่น ๆ ที่ไม่เหมือนกับการผูกคอตายตัวเอง อีกทั้งจุดที่สามีอ้างว่าภรรยาผูกคอตาย ไม่สามารถรับน้ำหนักได้มากพอ เนื่องจากผู้ตายมีรูปร่างสูงใหญ่ โดยญาติและคนสนิทของผู้ตายก็สงสัยนายตี๋ ผู้เป็นสามี เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายครั้งนี้ เพราะขณะเกิดเหตุ ในบ้านมีเพียงผู้ตายกับสามีเท่านั้น


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ สภ.โพธิ์แก้ว พยายามตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบ และพบว่ามีกล้องวงจรปิด บริเวณจุดจอดรถของบ้านเกิดเหตุ ที่บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ พบว่าช่วงกลางดึกของวันที่ 14 ก.ค.65 นายตี๋ สามีของน.ส.หมวย ได้ลากร่างขึ้นรถ โดยไม่ได้มีท่าทีรีบร้อนอะไร ใช้เวลานานกว่า 5 นาที จากนั้นปิดประตูรถ แล้วเดินอย่างใจเย็นเข้าไปในบ้าน หายไปอีก 2 -3 นาที ก่อนจะเดินออกมาขึ้นรถและขับออกไปทางปากซอย


จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหา ได้ทำลายพยานหลักฐานที่สำคัญหลายรายการซึ่งเป็นการอำพรางคดีโดยทุจริต พนักงานสอบสวนจึงยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครปฐมขออนุมัติหมายจับ ซึ่งศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติหมายจับ


อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้สอบปากคำคนใกล้ตัวผู้ตาย เพื่อหามูลเหตุจูงใจในการฆ่าตัวตายแต่ก็ไม่พบ มีข้อมูลว่าน.ส.หมวย วางแผนบินไปเสริมความงามที่เกาหลีในเดือนหน้ากับกลุ่มเพื่อน แต่พบว่าก่อนหน้านี้น.ส.หมวย มีปัญหาชีวิตคู่กับนายตี๋และขอหย่าเพื่อแยกทางกันกับนายตี๋ แต่ตกลงเรื่องทรัพย์สินไม่ได้ ซึ่งน.ส.หมวยได้ปรึกษาทนายความ ทำให้รู้ว่านายตี๋ ใช้บัตรประชาชนปลอมจดทะเบียนสมรส ทำให้การสมรสเป็นโมฆะ ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนหย่าและไม่จำเป็นต้องแบ่งทรัพย์สิน ไม่มีสิทธิเรียกร้องตามกฏหมาย แต่จนถึงตอนนี้นายตี๋ ยังให้การปฎิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเมียตัวเอง พร้อมหาทีมทนายสู้คดี


ขณะที่มีข้อมูลจากเพื่อนของน.ส.หมวย ว่าก่อนหน้านี้ น.ส.หมวย มักมาปรับทุกข์เรื่องถูกสามีทำร้ายเป็นประจำ ซึ่งเคยพูดถึงขั้นว่าหากวันหนึ่งเป็นอะไรไป ก็เพราะถูกสามีทำ และจากข้อมูลคนรอบตัวพบว่านายตี๋ มีพฤติกรรมชอบเสียงดัง โวยวาย และโมโหร้าย ระหว่างที่ตำรวจสืบสวนคดีก็ยังมีการข่มขู่ พยานและคนรอบตัว ไม่ให้ยุ่งกับคดีนี้

คุณอาจสนใจ

Related News