สองพี่น้องเคาะโลงเรียกแม่ ผู้รับเหมาซ่อมถนนไร้ป้ายเตือนพรากชีวิตแม่

วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หลังได้รับเรื่องร้องเรียนเพื่อขอความเป็นธรรมจากนาย สมศรี อายุ 57 ปี (พ่อ) และนางบุญเพ็ง อายุ 57 ปี(แม่) หลังจากนางสาวรัชนีกร อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสจากอุบัติเหตุ ขณะขับรถจักรยานยนต์กำลังจะกลับบ้านพัก

เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุภายในซอยวัดแหลม หมู่6 ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ที่กำลังก่อสร้างถนนภายในซอยดังกล่าวเหตุเกิดวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 เวลา 23.12 น. จากนั้นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูได้ให้ความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 3 และมาเสียชีวิตในวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 13.30 น จากนั้นได้รับศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดใหม่(บางปลากด) เป็นเวลา 3 คืน และจะทำการฌาปนกิจศพในวันที่ 25 กรกฎาคม2565 เวลาประมาณ 16.00 น ณ.เมรุวัดใหม่(บางปลากด)

ทั้งนี้ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นไปด้วยความเศร้าโศก เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักยังมีลูกอีก 2 คนที่กำลังเรียน น้องข้าวหอม(นามสมมติ) อายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้นป.5 (ลูกคนโต) และน้องข้าวหมาก(นามสมมติ) อายุ 7 ปี เรียนอยู่ชั้นป.3 น้องทั้งคู่ต้องมาเสียพ่อ เมื่อ 5 ปีก่อนน้องทั้งสองคนได้เสียพ่อไปด้วยโรคประจำตัว แล้วมาปีนี้ต้องมาเสียแม่ไปด้วยอุบัติเหตุ

ส่วนทางครอบครัวคาดว่าสาเหตุในการเกิดเหตุในครั้งนี้ น่าจะมีส่วนจากผู้รับเหมาทำถนนที่ไม่มีป้ายสัญญาณไฟบ่งบอกให้ชัดเจนก่อนถึงจุดก่อสร้าง จึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น แต่ทางครอบครัวก็ทำใจเพราะมันเป็นอุบัติเหตุแต่ก็อยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงบริษัทที่รับเหมาให้หันมาเยียวยาช่วยเหลือทางครอบครัว เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัวที่ตอนมีชีวิตอยู่ต้องเลี้ยงดูคนในบ้านอีก 4 ชีวิต แล้วมาจากไปโดยกระทันหันทำให้คนในบ้านทำใจไม่ได้เพราะลูกของผู้ตายก็ยังเล็กอยู่ และเมื่อวานนี้ช่วงบ่ายทางครอบครัวได้นิมนต์พระสงฆ์เพื่อไปทำพิธีอัญเชิญวิญญาณของผู้ตายที่จุดเกิดเหตุ

ส่วนทางด้านคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยท่าน พันตำรวจเอก ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผู้กำกับ สภ.พระสมุทรเจดีย์ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งการให้เจ้าพนักงานสอบสวนเร่งรัดคดีเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน นางสาว กับยาภรณ์ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเล่าว่าตนเป็นเพื่อนกับผู้ตายตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนมาถึงทำงานร่วมกันในปัจจุบันเป็นเวลา 17 ปี ผู้ตายเป็นคนร่าเริงสร้างรอยยิ้มให้กับเพื่อนเสมอ พอมารู้เรื่องถึงกับตกใจมากตั้งแต่เกิดเหตุตนกับเพื่อนร่วมงานได้เข้าไปช่วยเหลือจนมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบางปะกอก3 ส่วนตอนแรกเพื่อนร่วมงานก็ขอให้ผู้ตายไปสู่สุคติ ไม่ต้องห่วงลูกหรือทั้งบ้านตอนกับเพื่อนร่วมงานจะคอยดูแลลูกทั้งสองคนและพ่อกับแม่ของผู้ตายต่อไป



ด้านนาย ขุน อายุ 49 ปี เป็นหัวหน้าและดูแลการก่อสร้างถนนดัง ได้บอกว่า ตนได้อะไรงานไปบริษัทให้ทราบแล้ว ทางบริษัทจะให้การช่วยเหลือเบื้องต้นกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และส่วนบริเวณที่ก่อสร้างถนนหรือต้นจุดเกิดเหตุได้เพิ่มมาตรการในการเพิ่มป้ายสัญญาณบอกและสัญญาณไฟในช่วงกลางคืน เพื่อจะไม่ได้เกิดเหตุซ้ำซ้อน เพราะก่อนหน้านี้ตั้งแต่เริ่มทำถนนเส้นนี้ก็มีอุบัติเหตุขึ้นหลายครั้ง



แล้ววันนี้ได้มีเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางไปที่งานศพภายในวัดใหม่ เพื่อไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากครอบครัวผู้เสียชีวิตและข้อมูลเด็กทั้งสองคน เพื่อจะทำการตรวจสอบและดำเนินการหาทางช่วยเหลือเยียวยาเด็กทั้งสองต่อไป