รวบหนุ่มขับเก๋งแหกด่าน สารภาพเมายา-ซุกไอซ์ ตร.ปัดทำเกินกว่าเหตุ แจงเสียงวิจารณ์ท่าทางไม่ทะมัดทะแมง

จับหนุ่มขับเก๋งมิตซูฯ แหกด่าน ซิ่งจอดรถทิ้งไว้แมนชั่นย่านดินแดงเผ่นหนี ค้นรถพบยาไอซ์-มีดดาบ ตร.หิ้วตัวเค้นสอบ สารภาพขับรถหนีเพราะเมายา-ซุกยาเสพติดในรถกลัวความผิด พยานเล่านาทีระทึก ผกก.รับจะทบทวนยุทธวิธีหลังถูกติงท่าทางตำรวจดูไม่ทะมัดทะแมง ยันไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ

จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจกำลังยิงสกัดรถยนต์คันหนึ่ง บริเวณแยกประชาสงเคราะห์ ย่านดินแดง ทำให้ชาวบ้านต่างพูดถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ ผกก.สน.ทองหล่อ ระบุว่า ตร.ไล่สกัดเพราะรถคันดังกล่าวมีพิรุธ เรียกให้ลงจากรถก็ไม่ยอมลง ก่อนตัดสินใจยิงสกัด คนร้ายจึงขับหลบหนีไปจอดรถไว้ที่แมนชั่นแห่งหนึ่ง ย่านดินแดง ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร โดยในรถพบไอซ์ 2.77 กรัม และมีดดาบยาว 2 เล่ม ส่วนคนขับหลบหนีไปได้

ล่าสุดเมื่อเวลา 19.40 น. (24 ก.ค.) พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ พร้อมชุดสืบสวน สน.ทองหล่อ และชุดสืบสวน บก.น.5 ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวและติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ กระทั่งพบตัวชายต้องสงสัย ที่ห้างแห่งหนึ่งใน กทม. จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ทองหล่อ ถึงสาเหตุที่แท้จริง รวมทั้งกรณีที่พบยาเสพติดและอาวุธมีดภายในรถด้วย

โดยเจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำความผิดจริง เนื่องจากมีอาการเมายาจากการเสพยาเสพติด และเกรงกลัวต่อความผิดเนื่องจากมียาเสพติดอยู่ในรถ จึงหลบหนีการตรวจค้นของตำรวจ ผกก.สน.ทองหล่อ  เผยว่า รายละเอียดเจ้าหน้าที่ขอทำการสอบสวนก่อน ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ ทั้งนี้จะนำเรื่องรายงานกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ส่วนตัวผู้ต้องหาจะนำส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ ในช่วงเช้าวันนี้ (25 ก.ค.) ต่อไป

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตำรวจฝ่ายงานป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อ ทำการตั้งด่านอยู่ ได้มีรถยนต์ต้องสงสัยดังกล่าวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับเข้ามาบริเวณด่านเอกมัย ตำรวจจึงเรียกให้หยุดเพื่อขอทำการตรวจค้น  แต่ผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ตรวจพร้อมกับขับรถหลบหนีออกจากด่าน

จากนั้นสายตรวจหลายคันจึงไล่ติดตาม โดยมีรถตำรวจสายตรวจ 1 คัน ไล่ติดตามคนร้ายได้ทันนำรถเข้าไปขวางด้านหน้าแต่ถูกรถยนต์ดังกล่าวพุ่งเข้าชนจากนั้นระหว่างเข้าระงับเหตุ เห็นคนขับพยายามล้วงที่ใส่ของหน้ารถอาจจะมีการนำเอาอาวุธออกมา จึงได้ใช้อาวุธยิงไปที่ยางรถเพื่อสกัดจับกุม

กรณีดังกล่าวทางชุดสายตรวจฝ่ายงานป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อ ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบริเวณหน้าซี คอนโด ถนนเอกมัย เมื่อเวลา 22.50 น. ของวันที่ 23 ก.ค. ได้มีรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น มิราจ สีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับมาบริเวณจุดตรวจจุดสกัด แต่ได้ทำการกลับรถหลบหนีเข้าไปภายในซอยเอกมัย 28 ลักษณะมีพิรุธต้องสงสัย

ตำรวจสายตรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว จึงได้ทำการขับขี่รถจักรยานยนต์ตาม จากนั้นผู้ขับรถคันดังกล่าวได้วนหลบหนีไปมาระหว่างภายในซอยเอกมัย 28 และและซอยเอกมัย 30 หลบหนีมุ่งหน้าไปทางพระราม 9 สายตรวจชุดเคลื่อนที่เร็วจึงได้ติดตามจนกระทั่งมาถึงบริเวณแยกประชาสงเคราะห์ มุ่งหน้าสี่แยกใต้ทางด่วนดินแดง

ระหว่างติดไฟแดงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไล่ล่า จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาขวางบริเวณหน้ารถ และลงจากรถสั่งให้ผู้ขับรถเก๋งมิตซูฯ หยุดรถ แต่คนขับไม่หยุด พร้อมกับขับรถชนรถจักรยานยนต์ของตำรวจสายตรวจ ที่จอดขวางอยู่ล้มลงจากนั้นสายตรวจชุดไล่ล่าแจ้งว่าผู้ขับรถยนต์ทำท่าทางล้วงสิ่งของจากลิ้นชักภายในรถและยกมือชี้มาทางสายตรวจ ที่อยู่บริเวณข้างรถลักษณะคล้ายจะใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากนั้นสายตรวจชุดเคลื่อนที่เร็วอยู่ในเหตุการณ์ จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนในการระงับเหตุ โดยได้ทำการยิงยางรถยนต์รอบคัน แต่ผู้ขับขี่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดรถและได้ขับรถหลบหนีไป จากนั้นตำรวจสายตรวจชุดเคลื่อนที่เร็วทำการไล่ติดตาม แต่รถจักรยานยนต์ถูกชนล้มไม่สามารถขับขี่ได้ จึงได้เรียกขอกำลังเสริมจากชุดเคลื่อนที่เร็วที่ขับขี่ตามมาขึ้นรถจักรยานยนต์ไล่ติดตาม จนมาพบรถยนต์คันดังกล่าวที่ขับหลบหนีจอดอยู่ที่ลานจอดรถ พีวี แมนชั่น บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตร

ต่อมาตำรวจได้ทำการตรวจสอบและตรวจค้นรถคันดังกล่าว พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) 2 ถุง บรรจุรวมอยู่ในถุงชนิดรูดเปิดปิด บริเวณที่วางเท้าฝั่งที่นั่งข้างคนขับ, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) 1 ถุง บรรจุอยู่ในถุงชนิดรูดเปิดปิด บริเวณที่วางเท้าฝั่งที่นั่งด้านหลังฝั่งที่นั่งข้างคนขับ อุปกรณ์การเสพยาเสพติด อยู่บริเวณคอนโซลเกียร์รถยนต์, อาวุธมีดดาบยาวประมาณ 2 ฟุตครึ่ง 2 เล่มอยู่บริเวณฝาท้ายรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ทองหล่อ จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางพร้อมรถยนต์คันดังกล่าวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ตำรวจได้นำรถของกลางมาไว้ที่ สน.ทองหล่อ พบว่ารถคันดังกล่าวมีสภาพความเสียหายที่ยางล้อรถแตกทั้ง 4 ล้อ จากการถูกยิงสกัดจับ และมีร่องรอยถูกยิงที่กันชนหน้ารถ และประตูรถด้านหลัง อย่างละ 1 รอย รวมถึงยังพบร่องรอยการเฉี่ยวชนบริเวณด้านหน้าและด้านข้างของรถอีกด้วย  

ขณะที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน โดยได้มีการตรวจสอบเก็บภาพรอบรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น มิราจ สีแดง พร้อมเก็บดีเอ็นเอโดยรอบ ทั้งบริเวณประตูรถฝั่งผู้ขับขี่และพวงมาลัย รวมทั้งเก็บดีเอ็นเอที่ถุงยาเสพติดด้วย

จากการตรวจสอบป้ายชำระภาษีรถยนต์ประจำปี พบว่า เป็นหมายเลขทะเบียน 7 กส 1552 กรุงเทพฯขาดอายุตั้งแต่ วันที่ 13 ก.ย. 64 และพบใบเสร็จการเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ย่านเอกมัย ในเวลา 22.54 น. ซึ่งเป็นช่วงก่อนเกิดเหตุ มีการรายงานว่าจากการตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถคันที่ก่อเหตุนั้นเป็นผู้หญิง ซึ่งตอนนี้ตำรวจกำลังติดตามตัวมาสอบปากคำว่ามีสวนเกี่ยวข้องกับผู้ที่ก่อเหตุหรือไม่

ส่วนกระแสดรามาในสังคมออนไลน์ ว่าตำรวจทำเกิดกว่าเหตุหรือไม่นั้น และท่าทางตำรวจที่ดูไม่ทะมัดทะแมงนั้น ทางผู้กำกับได้ชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้นเป็นการตัดสินใจที่กะทันหันของตำรวจที่ปฏิบัติงาน เพราะเกรงว่าชาวบ้านอาจจะได้รับอันตราย ประกอบกับผู้ก่อเหตุกำลังจะหลบหนีจึงได้ยิงสกัด “ยืนยันว่ากระสุนทุกนัดที่ถูกยิงออกไปนั้น โดนล้อรถของผู้ก่อเหตุทั้งหมด และไม่มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บอะไรและกระสุนทุกนัดที่ยิงไปนั้นโดนล้อรถของผู้ก่อเหตุทั้งหมด และหลังจากนี้จะไปทบทวนยุทธวิธีการระงับเหตุของตำรวจ”

ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามพยานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พีวี แมนชั่น เปิดเผยว่า ตนกำลังนั่งเฝ้ายามอยู่ใต้อาคารแมนชั่น ได้ยินเสียงล้อรถบดกับถนนเสียงดัง จึงหันไปมองเห็นรถยนต์คันดังกล่าวขับเข้ามาจอดที่ลาดจอดรถของแมนชั่น ตนได้เข้าไปสอบถามว่าเข้ามาจอดเพื่อติดต่ออะไร

จากนั้นคนขับเป็นชายเปิดประตูรถรีบวิ่งหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็วโดยทิ้งรถไว้ตนวิ่งตามออกไปแต่ไม่ทันเห็นว่าคนขับวิ่งไปทางใดหรือมีใครมารับหรือไม่เพราะมืด โดย รปภ. ระบุว่ากล้องวงจรปิดเสีย

ส่วนผู้ที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ วานนี้ (24 ก.ค.) ได้เข้าให้ปากคำตำรวจ สน.ดินแดง  เล่าว่า ตนเองขายของอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุบริเวณแยกประชาสงเคราะห์ เห็นตำรวจขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดขวางรถยนต์คันดังกล่าวก่อนจะเคาะกระจกเรียกคนขับให้เปิดรถ แต่คนขับไม่ยอมลงมา กลับขับรถพุ่งชนรถ จยย.ตำรวจ ตนเองจึงตัดสินใจถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้เพราะกลัวเขาจะถอยรถชนร้าน ส่วนที่นำคลิปมาโพสต์เพราะอยากช่วยเหลือตำรวจในการติดตัวคนร้าย

"ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคิดตำรวจไม่ได้กระทำการเกินกว่าเหตุ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ทำเต็มที่แล้ว อีกทั้งก่อนจะมีการยิงยาง อีกฝ่ายก็พยายามหลบหนีโดยขับรถพุ่งชนตำรวจก่อน โดยช่วงเกิดเหตุประมาณ 23.00 น. เป็นช่วงที่คนไม่พลุกพล่านแล้ว จึงไม่ค่อยมีชาวบ้านอยู่ในระแวกนั้นที่จะโดนลูกหลง แต่จะกังวลเรื่องกระสุนปืนไปถูกรถที่อยู่ใกล้เคียงมากกว่า”

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/sA9XJmpD2pw