ปู่ทวดอนาจารเด็ก 3 ขวบ พ่อเด็กจับได้ โดนย่าทวดไล่ที่ อ้างถ้าปู่ทวดกลับมา จะมองหน้ากันไม่ติด

พ่อร้องลูกสาววัย 3 ขวบ ถูกปู่ทวดแท้ๆ ล่วงละเมิดทางเพศ ลุยแจ้งความแต่กลับถูกย่าทวดกดดันไล่ออกจากพื้นที่ ทั้งที่มีหลักฐานวงจรปิดที่แอบติดไว้ หลังลูกสาวบ่นว่าเจ็บอวัยวะเพศ

วานนี้ (21 ก.ค. 65) พ่อของเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ร้องเรียนว่า ลูกสาวถูกปู่ทวดแท้ๆ ละเมิดร่างกาย ล่าสุดแจ้งความดำเนินคดีแล้ว แต่ย่าทวดกลับกดดันไล่ออกจากพื้นที่

โดย เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น part 3 โพสต์ ข้อความระบุว่า ...

"ปัญหาที่เด็กถูกล่วงละเมิดโดยคนในครอบครัวอีกแล้ว กล้องจับภาพได้ชัดเจน (ขอไม่ลงคลิป) ฝากสื่อสังคมช่วยตรวจสอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกๆ หน่วยบูรณาการ ดูแลช่วยเหลือเยียวยาด้วย ทวดกระทำชำเราหลานวัย 3 ขวบ แจ้งความแล้วแต่เรื่องยังเงียบอยู่ พ่อเด็กเป็นกังวลใจ หลังแจ้งความพ่อเด็กโดนเมียผู้ก่อเหตุไล่ที่ พื้นที่ลานสัก จังหวัดอุทัยธานี"

ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ พ่อของเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ เล่าให้ฟังว่า ตนกับภรรยาทำงานอยู่ต่างจังหวัด และฝากลูกสาวให้แม่ยาย (แม่ของเมีย) เลี้ยงดูแล และจะกลับมาหาลูกสาวสัปดาห์ละครั้ง

เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ลูกสาวบ่นว่า เจ็บอวัยวะเพศ เมื่อตนลองถามลูก ก็บอกว่า ตาทวดมาจับ ทำให้ตนเริ่มสงสัย แต่ลูกสาวก็ยังพูดไม่ได้ใจความ เนื่องจากยังเล็กมาก จากนั้นจึงตัดสินใจนำกล้องวงจรปิดไปติดไว้ที่บ้านตาทวด (เด็กที่เลี้ยงอยู่บ้านตาทวด)

ต่อมา ตนได้กลับมาตรวจสอบ และเห็นภาพที่ปู่ทวดกระทำต่อลูกสาวตน จึงตัดสินใจหารือกับภรรยา และนำคลิปดังกล่าวเข้าแจ้งความดำเนินคดีปู่ทวดแท้ๆ ของลูกสาว เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้เลยว่า ปู่ทวดเริ่มละเมิดลูกสาวเป็นระยะเวลานานเท่าไรแล้ว

จากนัันตำรวจได้สอบสวนและดำเนินคดีในข้อหา กระทำชำเราเด็กหญิงอายุ ไม่เกิน 13 ปี และนำปู่ทวดส่งฝากขังทำให้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างทำสำนวนคดีเพื่อสั่งฟ้อง แต่ตอนนี้ กลับพบปัญหา ย่าทวดกลับไล่ตนและภรรยาออกจากที่ดินดังกล่าว เพราะโกรธที่ดำเนินคดีกับปู่ทวด ซึ่งตนอยู่ระหว่างการก่อสร้างบ้าน ทำให้กังวลว่า จะไม่มีที่อาศัย จึงมาร้องเรียน

ขณะที่ ได้เดินทางไปที่ศูนย์ดำรงธรรม ชั้น 2 ของที่ว่าการอำเภอลานสัก เพื่อร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้การช่วยเหลือ เนื่องจากกรณีที่เป็นคดีดังกล่าว สร้างความไม่พอใจกับย่าของตัวเอง ที่ไปแจ้งความจนตา หรือตาทวดต้องติดคุก กดดัน ตัดน้ำตัดไฟที่บ้านของตัวเอง ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างบ้านใหม่ได้เพียง 60-70 เปอร์เซ็นต์ และต้องหยุดการสร้างไปชั่วคราว

โดยของความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวให้สามารถปลูกบ้านต่อ และสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ หากต้องออกจากที่นี่ไปต้องสูญเงินไปเกือบ 1 ล้าน ที่ก่อสร้างไปแล้ว และที่ที่ปลูกบ้าน และเป็นที่อยู่อาศัยอยู่เป็นที่ สปก.

ด้าน ย่าทวด ได้บอกว่า สำหรับการไล่ที่และตัดน้ำตัดไฟ ตนไม่ได้ไล่พ่อของเด็ก เพียงแต่ตนแนะนำให้ย้ายออก เพราะตนมองว่าหากสามีของตนกลับออกมาอยู่บ้าน แล้วพ่อเด็กกับสามีของตนจะมองหน้ากันติดได้อย่างไร

การขอให้พ่อเด็กออกจากพื้นที่ สืบเนื่องจากมาในคืนวันที่ 14 มิ.ย. หลังจากเกิดเหตุ พ่อเด็กยังได้ปรี่เข้ามาคิดจะทำร้ายสามีของตน อีกทั้งยังมีสิ่งของในมือลักษณะคล้ายปืน นำมาข่มขู่ตนและครอบครัว

ส่วนการตัดน้ำตัดไฟเป็นคำสั่งของสามีของตน เพราะสามีของตนโกรธพ่อเด็กมาก ตนจึงจำเป็นต้องทำตามคำสั่งของสามี แต่ถึงอย่างนั้น ขณะนี้พ่อเด็กก็ได้ไปขอหม้อแปลงชั่วคราวมาต่อไฟฟ้ามาใช้ ซึ่งตนก็ไม่ได้ห้าม

ตนไม่ได้โกรธหรือเกลียดพ่อเด็ก แต่ตนน้อยใจนอนร้องไห้ทุกคืน เนื่องจากตนอายุมากแล้ว พ่อเด็กซึ่งเป็นหลานแท้ๆของตน ควรที่จะเข้ามาคุยกับตน เพื่อหาทางออก ไม่ใช่รอให้ตนเดินไปพูดคุยก่อน อีกทั้งตนกับสามียังเลี้ยงพ่อเด็กมาตั้งแต่เกิด จึงไม่ควรจะพูดกับตนว่า "บุญคุณก็ส่วนบุญคุณ"

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Ipm5GTSZOgs