รวบหนุ่มแสบปลอมเป็นตำรวจระดับผู้การ หลอกขายพระเครื่อง

ตำรวจสืบสวนนครบาล นำโดย  พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย ตำรวจกองวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเดโช (สงวนนามสกุล) ในข้อหา “ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ”  สามารถจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสระบุรี

.



สืบเนื่องจากผู้ต้งหาคนดังกล่าวเคยถูกตำรวจกุมไปแล้วเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในข้อหา  “ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกง ” ก่อนที่ผู้ต้องหาจะได้รับการประกันตัว แต่ยังไม่หยุดการกระทำผิดและยังคงกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว โดยการปลอมเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี “ Wisa Audtho (โจ๊ก พระประแดง) ” , ชื่อบัญชี “ ไพรัช เซ็งปากน้ำ ” , ชื่อบัญชี “ ผมจะลาก มึงเข้าคุก ”

.



เพื่อเข้าไปโพสต์หลอกปล่อยเช่าบูชาพระเครื่องตลอดจนวัตถุมงคลต่างๆ ในกลุ่มเฟสบุ๊คเช่าบูชาพระเครื่องและวัตถุมงคลกลุ่มต่างๆ อาทิเช่น (1) กลุ่ม “ เพื่อน รักและศรัทา พ่อท่านเขียว วัดหรงบน ” (2) กลุ่ม “ เปิดกรุพระแท้ ” (3) กลุ่ม “ ชมรมคนรักพระกริ่งสากล ” (4) กลุ่ม “ คนรักพระปิดตา วัดหนัง วัดทองและพระเนื้อสัมฤทธิ์ ” (5) กลุ่ม “ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิจิตร ” (6) กลุ่ม “ หลวงพ่อทวด วัดคอกหมู มาตรฐานสากล ” (7) กลุ่ม “ หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย ศึกษาแลกเปลี่ยน ” (8) กลุ่ม “ สุดยอดพระเครื่องวัดหนัง ”  

.



โดยจะเข้าไปโพสต์หลอกเช่าบูชาพระเครื่องและวัตถุมงคลในราคาที่ถูกกว่าราคามาตรฐานที่ลงขายในกลุ่มพระเครื่อง วัตถุมงคลต่างๆ  เมื่อมีผู้สนใจก็จะให้ลูกค้าโอนเงินค่าวางมัดจำมาก่อน จากนั้นผู้ต้องหาจะทำนิ่งเฉยไม่ส่งวัตถุมงคลให้ เมื่อมีลูกค้าทวงถามก็จะด่าว่าลูกค้า หรือพิมพ์ข้อความหยาบคาย และการบล็อกเฟซบุ๊กของลูกค้า หรือบางกรณีเมื่อเห็นว่าลูกค้ารู้ทันกลโกง หรือมีผู้ที่เคยถูกหลอกมาโพสต์ประจานพฤติกรรม ผู้ต้องหาก็จะข่มขู่จะดำเนินคดีกับผู้ที่รู้ทันกลโกงตนทันที  

.



พฤติกรรมล่าสุด มีการนำภาพของข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ (รองผบก.) ไปทำเป็นภาพโปรไฟล์เฟสบุ๊คใช้ชื่อบัญชีว่า “ ผมจะลาก มึงเข้าคุก ” เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ รวมทั้งปรับลดราคาค่ามัดจำวัตถุมงคลให้มีราคาถูกลงเพื่อให้ลูกค้าสนใจรีบโอนเงินค่ามัดจำเร็วขึ้น

.



ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกดำเนินคดีในความผิดเดียวกันนี้มาแล้ว จำนวน 6 ครั้งประกอบด้วย

ปี 2562 ถูกจับกุมข้อหา “ฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา / ปี 2562 ถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” ท้องที่ สภ.ธัญบุรี / ปี 2563 ถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ท้องที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ / ปี 2563 ถูกจับกุมข้อหา “ตัวการในการกระทำความผิดฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” / ปี 2563 ถูกจับกุมข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ / ล่าสุด วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ถูกจับกุมตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.249/2562 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกง ” นำส่ง พงส.สภ.สภ.กมลาไสย