แม่-ยายไม่ให้อภัย 'พ่อเลี้ยงโหด' อ้างพลั้งมือฆ่า ด.ช.วัย 1 ขวบ เผยประวัติติดยา เข้าออกคุกประจำ

คืบหน้าคดีพ่อเลี้ยงทำร้ายเด็กชายวัยขวบเศษเสียชีวิต วานนี้ (15 มี.ค.65) พนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ คุมตัวนายตะวัน นันทวงศ์ หรือ โคจิ ผู้ต้องหาออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา มารับทราบข้อกล่าวหาทั้ง 4 ข้อกล่าวหา

โดยนายตะวันยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และได้ให้การว่าช่วงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่แม่ของเด็กไปทำงานที่ร้านคาราโอเกะ ตนอยู่กับเด็กเพียงลำพังที่บ้านพัก เด็กได้อุจจาระเรี่ยราดและส่งเสียงดัง พูดอะไรไม่เชื่อฟัง

ประกอบกับตนเพิ่งเสพไอซ์ จึงหงุดหงิดและทำให้มีอารมณ์รุนแรง จนลงมือตีเด็กไปหลายครั้งจนเสียชีวิต แล้วนำร่างไปวางบนที่นอน ใช้ผ้าขนหนูคลุมเอาไว้ กระทั่งแม่ของเด็กกลับจากทำงาน มานอนหลับพักผ่อน และตื่นขึ้นมาพบว่าลูกเสียชีวิต

จากนั้นเวลา 13.50 น. ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ คุมตัวนายตะวัน มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านพักในซอยประชาอุทิศ 14 โดยใช้เวลาทำแผนฯ ประมาณ 10 นาทีเท่านั้น ซึ่งมีการให้นายตะวัน อธิบายว่าลงมือทำร้ายเด็กอย่างไรบ้าง

แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพด้านใน ได้ยินเพียงเสียงว่า นายตะวันทำร้ายเด็กที่ห้องหนึ่งด้านในบ้าน เนื่องจากเด็กอุจจาระใส่แพมเพิร์ส แล้วนายตะวันถอดแพมเพิร์สออก กำลังจะไปหยิบอันใหม่มาเปลี่ยน แต่เด็กเดินตามออกไปจนอุจจาระเลอะเรี่ยราด นายตะวันจึงไม่พอใจ ลงมือทุบตีเด็ก ก่อนจะอุ้มเด็กมานอนห่มผ้าที่ห้องนอนอีกห้อง

หลังเสร็จสิ้นการทำแผนฯ ตำรวจได้ควบคุมตัวนายตะวันออกจากบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่แม่และยาย พร้อมด้วยญาติๆ ของน้องนาวา นำร่างของเด็กมาที่บ้านเพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ญาติคนหนึ่งได้ต่อยเข้าที่หัวอย่างแรง และตะโกนไล่หลังว่า “มึงทำหลานกูทำไม”

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ทำไมถึงก่อเหตุ นายตะวันตอบว่า เพราะน้องดื้อ ตนไม่ได้ตั้งใจแต่พลั้งมือ เมื่อถามว่าอยากขอโทษแม่เด็กมั้ย นายตะวันพยักหน้า แต่พอถามว่า เคยตีเด็กมาก่อนหน้านี้หรือไม่ นายตะวันไม่ตอบ

ด้านนางสาวปนัดดา อายุ 21 ปี แม่ของเด็ก เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ปกติตนจะฝากลูกไว้กับแฟนตอนกลางคืนที่ออกไปทำงานร้านคาราโอเกะ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าตอนตนไม่อยู่ แฟนได้ทำร้ายลูกบ้างหรือไม่ แต่ตอนที่อยู่ด้วยกัน อีกฝ่ายก็ดูแลและเลี้ยงลูกตนดี ตนก็ฝากไว้ตลอดตั้งแต่มาอยู่ด้วยกันแรก ๆ แล้ว

แต่เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ตอนตนกลับบ้านมาตอนเช้ามืด ก็เห็นลูกนอนหลับอยู่ แต่ตนไม่ได้เปิดผ้าห่มดู พอตื่นขึ้นมาอีกวัน เห็นลูกยังนิ่ง ก็เรียกลูก พอเอามือไปจับก็รู้ทันทีว่าลูกไม่อยู่แล้ว ตอนนั้นตนตกใจ คิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าลูกเป็นอะไร ไม่ทันได้คิดว่าใครทำ ทั้งนี้ ยอมรับว่าตนรู้ว่าแฟนเสพยาเสพติด แต่ไม่เคยเห็นเขามีพฤติกรรมรุนแรงต่อหน้าตน

อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่ให้อภัยอีกฝ่าย และไม่มีอะไรจะพูดกับเขา ตนหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว และอยากชี้แจงว่า ตนไม่ได้มีเจตนาช่วยเหลือ หรือปกปิด เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่บอกตำรวจว่าแฟนไม่อยู่บ้าน เพราะตอนตนถาม อีกฝ่ายบอกว่าไม่อยู่จริงๆ จะออกไปเอารถ ตนเป็นคนที่บอกให้กลับไปรอที่บ้านเพราะตำรวจจะเข้าไป

ขณะที่นางจิตร ผิวงาม อายุ 48 ปี ยายของเด็ก ยืนยันว่า ยายไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาพลั้งมือ และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ควรทำ เด็กตัวนิดเดียว เป็นธรรมดาที่จะซน ซึ่งยายจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ต่อให้พลั้งมือจริงก็ไม่ให้อภัย “ลองคนอื่นพลั้งมือฆ่ามันบ้างจะเป็นยังไง”

ยายยังเล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ยายเป็นคนเลี้ยงหลานมาตั้งแต่เกิด แต่ 2 เดือนก่อนทะเลาะกับลูกสาว ลูกสาวเลยพาหลานหนีออกมา ตอนแรกก็บอกว่าไปอยู่กับเพื่อน พอยายโทรตามบ่อย ๆ ลูกสาวก็บล็อกเบอร์โทรศัพท์ เลยไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน

ถ้ายายรู้ ยายจะตามมาเอาหลานคืน เพราะช่วงหลังลูกสาวยอมบอกว่ามาอยู่กับแฟนคนนี้ พอยายรู้ประวัติก็ไม่ชอบ พอเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ลูกสาวโทรมาบอกว่าหลานเสียชีวิต ยายก็ตกใจ ขาสั่นทำอะไรไม่ถูก โดยหลังจากนี้จะนำร่างของหลาน ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดเลา ย่านพระราม 2 ต่อไป

ส่วนตัวของผู้ต้องหานั้น หลังเสร็จสิ้นการทำแผน ตำรวจได้ควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรีทันที

ด้านเพื่อนบ้านของนายตะวันเล่าว่า ปกติบ้านนี้จะมีพ่อแม่ของนายตะวันอยู่ด้วย แต่ออกไปทำงานเดินเรือ เดือนหนึ่งจะกลับมาสักครั้ง ปกติตนก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกับนายตะวัน แค่เห็นว่าขับมอเตอร์ไซค์ส่งของเท่านั้น เลยไม่รู้ว่าเป็นคนยังไง

ส่วนผู้หญิงที่เป็นแม่เด็ก เพิ่งจะเห็นย้ายมาอยู่ช่วงหลังปีใหม่ โดยมีลูกเล็กมาด้วย แต่ปกติตนก็ไม่เคยได้ยินเสียงเด็กร้องตอนกลางคืน จะมีร้องตอนกลางวันบ้างตามประสาเด็ก ไม่ได้ดูผิดสังเกตว่าจะโดนทำร้ายอะไร แต่พอมาทราบเรื่องก็ตกใจและใจหายมาก ไม่รู้ว่าเด็กทั้งคนทำไปได้ยังไง

ส่วนเพื่อนบ้านอีกคนบอกว่า เดิมผู้หญิงก็อยู่ในละแวกไม่ไกลจากนี้ แต่สามีเก่าป่วยเป็นมะเร็งเสียชีวิต มาเห็นอีกทีก็ย้ายมาอยู่กับนายตะวันแล้ว ซึ่งผู้หญิงจะทำงานกลางคืน ที่บ้านจึงจะมีแค่นายตะวัน อยู่กับลูกสองคน

ด้าน ลุงดำ อายุ 59 ปี ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย อยู่ใกล้กับบ้านของนายตะวัน เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับพ่อแม่ของนายตะวัน และเห็นนายตะวันตั้งแต่ยังเล็ก ๆ พ่อแม่ทำงานเป็นเชฟบนเรือ จึงไปคลอดนายตะวันที่ญี่ปุ่น เลยมีชื่อเล่นว่า โคจิ ก่อนจะอุ้มกลับมาอยู่ที่บ้าน ซึ่งพ่อแม่ก็ไปทำงานทีครั้งละเป็นเดือน

พอนายตะวันโตขึ้นเลยกลายเป็นเด็กเกเร ติดยาเสพติด เคยติดคุกไปแล้วหลายครั้ง จากคดียาเสพติดทั้งหมด ตนก็พยายามเตือนตลอด แต่ก็ไม่ฟัง ครั้งล่าสุดเพิ่งออกมาจากคุกได้ประมาณปีกว่า แต่นายตะวันก็ไม่เคยทะเลาะ หรือมีเรื่องทำร้ายร่างกายใครมาก่อน จะอยู่เงียบ ๆ ขี่รถเข้า ๆ ออก ๆ ไปมา

ส่วนผู้หญิงที่เป็นแม่เด็ก เพิ่งเห็นย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันได้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งตนก็เห็นว่านายตะวันดูรักเด็กดี ขี่รถไปไหนก็จะอุ้มไปด้วยตลอด ตนยังทักเลยว่าอุ้มไม่กลัวตกหรอ ซึ่งคิดว่าสาเหตุที่นายตะวันลงมือตีเด็กอาจจะเกิดจากฤทธิ์ของยาเสพติด

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/hS1oL-sFVB4