อาชญากรรม

แม่รมควันตัวเอง พร้อมลูกสาวพิการ เครียดโดนทวงหนี้-ลูกชายทาสยา ขอเงินทุกวัน

โดย thichaphat_d

9 ก.พ. 2565

382 views

เมื่อเวลา 19.55 น. วานนี้ (8 ก.พ. 65) พ.ต.ต.จตุพงษ์ แป้นเขียว พงส.สภ.ท่ายาง รับแจ้งเหตุ มีบุคคลทำร้ายตัวเองเสียชีวิตจำนวน 2 ราย ด้วยการรมควัน ภายในห้องเช่า ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พบนายฐานสุพงษ์ จำปี อายุ 66 สามีผู้เสียชีวิต รอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนสภ.ท่ายาง


นายฐานสุพงษ์เปิดเผยว่า ตนมีอาขีพขายลอตเตอรี่ และพระเครื่องตามตลาดนัดทั่วไป ส่วนภรรยาอยู่บ้านดูแลลูกสาวที่เสียชีวิต เนื่องจากลูกมีความพิการเป็นลมชัก และเดินไม่ได้ วันนี้ตนเดินทางไปขายของที่ตลาดนัดท่ายาง โดยออกจากบ้านไปตอนช่วงเช้าไปขายลอตเตอรี่ และช่วงกลางวันนำข้าวมาให้ทั้งสองคนและกินข้าวด้วยกัน


ก่อนออกไปตนเองก็ผิดสังเกตตรงที่ภรรยาเดินมาก็กอด บอกรัก และน้ำตาคลอ แต่ตนเองก็ต้องออกไปขายของตามปรกติ จนกระทั่งช่วงเวลา 6 โมงเย็น ตนได้ส่งไลน์หาภรรยาหลายสิบครั้ง แต่ภรรยาไม่ตอบ ตนจึงให้เพื่อนบ้านข้างห้องไปเคาะประตูห้องเพื่อดูให้ โดยคิดว่าภรรยาและลูกอาจนอนหลับ


ด้านเพื่อนบ้านบอกว่าไม่มีเสียงตอบออกมา ตนจึงไม่สบายใจ และรีบเก็บของกลับมาบ้าน เห็นเพื่อนบ้านยืนมุงดูอยู่หน้าบ้าน ตนจึงเข้าไปเปิดประตูบ้าน เมื่อเข้าไปดูในห้องนอนพบว่า ภรรยาและบุตรสาวนอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนทั้งคู่แล้ว


จากการตรวจสอบในห้องที่เกิดเหตุพบเตาอั้งโล่ กระถางใส่ต้นไม้มีเถ้าถ่านอยู่ในกระถาง ตะกร้าใส่ถ่าน วางอยู่ภายในห้อง ประตูทางเข้าห้องด้านในเปิดแอร์ และเอาผ้าอุดช่องใต้ประตูไว้ บนที่นอนพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงจำนวน 2 ราย เป็นแม่ลูกกัน


ทราบชื่อต่อมาคือ นางนกเล็ก จำปี อายุ 57 ปี (แม่) นอนเสียชีวิตบนที่นอน และ น.ส.นุชรัตน์ จันทร์ศรี อายุ 25 (ลูก) นอนคว่ำหน้า อยู่บนที่นอนเช่นกัน


สำหรับสาเหตุ คาดว่าเกิดจากความเครียดเรื่องการเงินและครอบครัว เนื่องจากบุตรชายของผู้ตาย เพิ่งออกมาจากศูนย์บำบัดยาเสพติด และมาขอเงินทุกวัน โดยที่บ้านก็มีภาระหนี้สินจำนวนมาก อีกทั้งลูกสาวคนเล็กที่เสียชีวิตก็พิการพูดไม่ได้ แขนขาเป็นง่อย ประกอบกับภรรยาเป็นเท้าแชร์กับเพื่อนๆ ซึ่งเป็นงวดสุดท้ายประกอบกับมีคนส่งไลน์มาทวงเงินที่ติดค้าง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ภรรยาตนเองก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น


ขณะที่แพทย์เวรยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้ จึงให้ส่งศพให้แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลพระจอมเกล้าผ่าพิสูจน์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ให้ชัดเจน

คุณอาจสนใจ

Related News