'ส.ต.ต.นรวิชญ์' สึกแล้ว ขอให้ 'หมอกระต่าย' เป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ยอมรับผิดตาม กม. เผยยังอยากเป็น ตร.ต่อ

ภายหลัง พระนรวิชญ์ หรือ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก เข้าอุปสมบทที่วัดปริวาสราชสงคราม หลังเกิดอุบัติเหตุขับขี่รถบิ๊กไบค์ไปชนแพทย์หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย จนเสียชีวิต และต่อมา พระนรวิชญ์ ระบุว่า จะทำการลาสิกขาในวานนี้ (26 ม.ค.)

บรรยากาศที่วัดปริวาสราชสงคราม วานนี้ (26 ม.ค.) มีสื่อมวลชนไปรอติดตามทำข่าว ต่อมาเวลา 10.30 น. มีตำรวจเพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นคนใกล้ชิด เดินทางมาที่วัดปริวาสฯ โดยนำอาหารมาถวาย และบอกว่าจะรอรับพระไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพหมอกระต่าย ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหารก่อน แล้วจะพากลับมาทำพิธีลาสิกขาที่วัดปริวาสฯ ซึ่งพระยืนยันว่าจะไปร่วมงานทั้งผ้าเหลืองก่อน

ส่วนสภาพจิตใจของพระนรวิชญ์ ตอนนี้ก็ค่อนข้างย่ำแย่ ยังฉันอาหารไม่ค่อยได้ ซึ่งพระพ่อก็พยายามบอกให้ฉันอาหารบ้าง ทั้งนี้โดยปกติพระนรวิชญ์ เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว พ่อเลี้ยงเดี่ยวมาตั้งแต่เด็ก เพิ่งจะสอบติดนายสิบตำรวจได้ไม่กี่เดือน พ่อเองก็ภาคภูมิใจในตัวลูกชายมาก เมื่อเกิดเหตุทั้งคู่จึงรู้สึกเสียใจมาก โดยเฉพาะพระนรวิชญ์

กระทั่งเวลา 12.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 2 นาย เดินเข้าไปบริเวณกุฏิ และสังเกตเห็นว่านายตำรวจหนึ่งนาย ถือถุงพลาสติกที่ภายในบรรจุเหมือนชุดสีขาว จากนั้นเวลา 12.45 น. พระนรวิชญ์และพระพ่อ ออกมาจากกุฏิพร้อมนายตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 2 นาย เดินประกบพาออกมา เพื่อเดินทางไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพหมอกระต่ายตามที่รายงานข่าวมาก่อนหน้านี้ โดยพระทั้ง 2 รูป เดินทางด้วยรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 7กอ 7483 กรุงเทพมหานคร คันเดิม

ซึ่งระหว่างเดินมาขึ้นรถคันดังกล่าว พระนรวิชญ์ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ส่วนที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา ก็พร้อมรับผิดทุกข้อกล่าว และหลังเสร็จจากงานพระราชทานเพลิงศพแล้ว จะกลับมาสึกที่วัดแห่งนี้อีกครั้ง และจะยังคงนุ่งขาวห่มขาวต่อไป แต่ยังไม่ทราบว่าจะกี่วัน และจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้เป็นไปตามกฎหมาย

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามเพิ่มเติมว่า ได้ไปตรวจตาที่ โรงพยาบาลตำรวจ จริงหรือไม่ พระนรวิชญ์ ตอบว่า "ไปครับ แต่ไปพร้อมกับรถกู้ภัยที่พาไปตรวจร่างกายหลังเกิดเหตุ แต่ไม่ได้ตรวจ ส่วนตอนนี้อาการตาดีขึ้นแล้ว" จากนั้นพระนรวิชญ์ ก็ได้เดินขึ้นรถกระบะคันดังกล่าวพร้อมพระพ่อ เดินทางไปร่วมงานที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร (บางเขน)

เวลา 14.07 น. พระนรวิชญ์พร้อมพระพ่อ เดินทางมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพของ พญ.วราลัคน์ หรือหมอกระต่ายโดยพระนรวิชญ์และพระพ่อได้นั่งอยู่ภายนอกศาลา โดยพระนรวิชญ์ นั่งก้มหน้าสงบนิ่ง ก่อนที่ทั้งสองจะเดินขึ้นเมรุ มีท่าทีสำรวม ร่วมวางดอกไม้จันทน์เพื่อแสดงความอาลัยต่อการจากไปของหมอกระต่าย

เมื่อแล้วเสร็จ พระนรวิชญ์และพระพ่อเดินทางออกจากวัดพระศรีฯ ด้วยรถกระบะทันที เพื่อไปประกอบพิธีลาสิกขาบท ที่วัดปริวาสราชสงคราม ซึ่งเป็นวัดที่ได้อุปสมบท ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และไม่ได้มีการพูดคุยกับครอบครัวของหมอกระต่าย แต่อย่างใด  สีหน้าของพระนรวิชญ์ ยังคงเศร้ามีความเคร่งเครียด

14.30 น. พระนรวิชญ์ และพระพ่อ เดินทางมาถึงวัดปริวาสราชสงคราม โดยพระนรวิชญ์ กล่าวก่อนลาสึก ว่า หลังจากนี้จะขอตั้งใจนุ่งขาวห่มขาวถือศีล เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต โดยยังไม่สามารถกำหนดได้ว่า จะถือศีลนานเท่าไหร่ เพราะอยู่ระหว่างการหารือกับพระอาจารย์ อีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่พระนิคม พ่อของพระนรวิชญ์ เปิดเผยว่า หลังจากวางดอกไม้จันทน์ รู้สึกดีขึ้น แต่ยังคงหนักใจอยู่หลายเรื่อง ซึ่งวันนี้ตนจะทำการสึกพร้อมกันกับลูกชาย ซึ่งหลังจากสึกเสร็จแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะไปปฏิบัติธรรมที่ไหนต่อ ตอนนี้สภาพจิตใจของพระนรวิชญ์ ยังไม่ค่อยดี ซึ่งตนในฐานะพ่อก็มีความเป็นห่วง และรู้สึกทุกข์ใจ

จากนั้นพระทั้งสองได้เดินเข้าไปในกุฎิ ก่อนที่พระนรวิชญ์และพระพ่อ จะเดินออกมาขึ้นไปบนศาลาประกอบพิธีลาสิกขาบท เปล่งวาจาสึกกับพระครูรูปหนึ่ง โดยมีพระสงฆ์จำนวน 9 รูป ร่วมสวดสวดชยันโต โดยทิดนิคม มีอาการตัวสั่น และน้ำตาคลอ ตลอดระยะเวลาการทำพิธี

จากนั้นจึงถอดจีวรออก โดยพระผู้ใหญ่สวดชัยมงคลคาถา แล้วหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และทั้งสองได้ไปเปลี่ยนเป็นชุดขาว มารับศีลรับพรจากพระผู้ใหญ่ ที่ได้กล่าวให้โอวาท ใจความสำคัญระบุว่า หลังจากนี้ขอให้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี

หลังจากทำพิธีลาสิกขาบทเสร็จ ส.ต.ต.นรวิชญ์ และ ร.ต.ต.นิคม ได้เดินกลับเข้าไปพักผ่อนภายในกุฎิที่เคยจำวัด โดย ร.ต.ต นิคม เปิดเผยว่า ขณะที่ไปร่วมวางดอกไม้จันทน์ไว้อาลัยหมอกระต่าย ตนเองได้ระลึกถึงดวงวิญญาณหมอกระต่ายขอให้อโหสิกรรมให้ลูกชายด้วย

หลังจากลาสิกขา และนุ่งขาวห่มขาวแล้ว ในเวลา 16.00 น. ส.ต.ต.นรวิชญ์ พร้อมด้วย ร.ต.ต.นิคม ได้เดินทางออกจากกุฏิ ภายในวัดปริวาส เพื่อเดินทางกลับไปยังที่พัก โดยมีเพื่อนตำรวจมารอรับ ทีมข่าวพยามสอบถาม ร.ต.ต.นิคม อีกครั้ง ก็กล่าวว่า หลังจากนี้จะกลับบ้านไปถือศีล 5 ที่บ้าน อีก 3 วัน ส่วนกระบวนการของคดี ก็ขอเป็นไปตามกฎหมาย และในฐานะคนเป็นพ่อ ก็ให้กำลังใจลูก ให้สู้ ๆ บอกเขาตลอด ส่วนเขาจะสู้ขนาดไหนก็อยู่ที่เขา แต่ช่วงนี้เขาก็จะหนักอยู่

ต่อมา ส.ต.ต.นรวิชญ์ เปิดใจกับทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ หลังลาสิกขาบทว่า “ขอโทษ ผมรู้สึกผิดทุกอย่าง สึกเสร็จแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกอย่าง ตอนไปวางดอกไม้จันทน์หน้าโลงศพหมอกระต่าย ขอให้พี่เขาไปสู่สุคติ ให้เป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ ผมขอให้พี่เขาอโหสิกรรมให้  ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้คุยกับพ่อแม่ของหมอกระต่าย”

ส.ต.ต.นรวิชญ์  ยังเผยถึงเรื่องรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ คันเกิดเหตุยืนยันว่ามีเอกสารรับรองทุกอย่างซื้อถูกต้อง ไม่ได้ผิดกฎหมาย ยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหาแม้สังคมจะมองว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทำผิดกฎหมายเสียเองก็ตาม

ประเด็นหลังเกิดอุบัติเหตุไปตรวจตาที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยพาไปทำแผลเพราะตาข้างขวาบวมและมีแผล ตนไม่รู้ว่าหมอกระต่าย เป็นหมอที่จะต้องตรวจตาให้กับตนเองตามใบนัด

ทั้งนี้ขอโทษครอบครัวของหมอกระต่ายทุกสิ่งทุกอย่าง ที่บวชเพราะต้องการอุทิศส่วนกุศลให้หมอกระต่าย และที่สึกไม่ได้มีแรงกดใดจากใคร แต่ครบ 3 วัน ตามที่หนดไว้ ตอนนี้ยังเครียด ยังมีอาการเจ็บที่บาดเจ็บแผลบริเวณแขนและซี่โครงขวา

ขอโทษสังคมกับเหตุที่เกิดขึ้น ตลอดเวลาที่ตนเองบวชพ่อก็เครียด “สึกออกไปแล้วยังไม่ทราบว่าจะไปใช้ชีวิตยังไงต่อ เรื่องกฎหมายยอมรับผิดทุกอย่าง” เมื่อถามว่ายังอยากจะเป็นตำรวจอยู่มั้ย  ส.ต.ต.นรวิชญ์  ตอบว่า “ก็ยังอยากเป็นอยู่”

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/9fmBd3UAuSk