ตร.รับเก็บบัตร ปชช. 'หมอกระต่าย' เพื่อตรวจสอบ ยันบิ๊กไบค์ ไม่ใช่รถของกลาง แต่ ส.ต.ต.ขาดต่อทะเบียน

จากกรณี ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้ทวีตข้อความเกี่ยวกับเหตุการณ์หลังเกิดเหตุรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสียชีวิตขณะเดินข้ามทางม้าลายว่า

“หมอกระต่าย กลายเป็นศพนิรนามที่โรงพยาบาลอยู่ 2 ชม. เพราะตำรวจเก็บหลักฐาน ID ทุกอย่างไว้ที่สน. รู้เรื่องเพราะรพ.อีกที่โทรตามให้ไปอยู่เวร ตำรวจมันเลยบอกว่าเกิดอุบัติเหตุ แล้วรพ. อาจารย์ก็โทรไปถามฉุกเฉินที่รพ.ต่างๆจนมาเจอที่ราชวิถี #หมอกระต่าย”

และยังระบุข้อความต่อด้วยว่า “ถ้าไม่โดนโทรตามไปอยู่เวร คือคงตายไปเฉย ๆ กลายเป็นศพไร้ญาติไม่ทราบชื่อ คนผิดลอยนวล #หมอกระต่าย”

พ.ต.ท.วิทยากร สุวรรณเรืองศรี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.พญาไท ดูแลงานสอบสวนคดีนี้ ระบุว่า หลังเกิดเหตุ ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้เก็บบัตรประชาชน และเอกสารสำคัญ ของหมอกระต่ายไว้ เพื่อไปตรวจสอบประวัติ ตามหาญาติ ซึ่งช่วงนั้นหมอกระต่าย ถูกนำตัวส่งรพ.ราชวิถี ตำรวจก็พยายามประสานหาญาติ และหาข้อมูลของหมอกระต่าย ซึ่งยังไม่พบข้อมูล ระหว่างนั้นก็พบว่ามีพยาบาลหรือเจ้าหน้าที่รพ. โทรเข้ามาที่มือถือจึงแจ้งกับปลายสายว่า คุณหมอประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิต

ซึ่งอยากขอให้สังคมเข้าใจว่าตำรวจทำตามหน้าที่ขั้นตอน ไม่ได้เก็บบัตรของคุณหมอไว้เพื่อปกปิดข้อมูล ขณะที่เกิดเหตุทุกคนช่วยกันตามหาญาติ และหากมองตามความจริง มีคนเสียชีวิตใครจะปกปิดข้อมูลไว้ ทุกคนต่างช่วยกัน และไม่มีใครจะปล่อยให้คุณหมอเป็นศพนรินามตามที่โซเชียลวิจารณ์

แม้ว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นตำรวจ แต่ทำผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายไม่มีการช่วยเหลือ หรือเอื้อประโยชน์ให้กัน

ส่วนกรณีที่โซเชียลระบุว่า รถจยย. ยี่ห้อดูคาติ รุ่นมอนสเตอร์ ทะเบียน 1 กผ 9942 เชียงราย ของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ ซึ่งโลกโซเชียลมีการแชร์ข้อมูลว่ารถคันนี้ เป็นรถของกลางคดีอื่นแต่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ นำมาใช้

พ.ต.ท.วิทยากร ระบุว่า จากการตรวจสอบ จยย.คันนี้เป็นของสตต.นรวิชญ์ แต่ขาดการต่อทะเบียน ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นการซื้อมือสองต่อมา หรืออย่างไรต้องรอการตรวจสอบจากขนส่งอีกครั้ง แต่ขอยืนยันว่า ไม่ใช่รถของกลางคดีอื่นแล้วนำมาใช้แน่นอน

ภายหลังการเสียชีวิตของ หมอกระต่าย เหล่าบุคลากรทางการแพทย์ต่างโพสต์ไว้อาลัยการจากไป ซึ่งส่วนใหญ่ต่างระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ข้ามถนนทางม้าลายแท้ ๆ ยังต้องมาเสียชีวิตจากผู้ที่ถือกฎหมายกฎจราจร รวมถึงเสียดายความรู้และความสามารถของหมอกระต่าย ที่จะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้อีกมากมาย อาทิ

นพ.พงษ์กานต์ พจน์ฐศักดิ์ โพสต์ผ่านทวิตเตอร์@PPottasak เกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า กว่าจะผลิตหมอตาได้สักคนรู้ไหมว่ายากเย็นแสนเข็ญ ต้องเรียนหมอ 6 ปี ต่อเฉพาะทางจักษุอีก 3 ปี กลับต้องมาจบชีวิตลงด้วยพวกน้ำมือพวกสวะสังคมที่ไม่เคารพกฎหมาย ทั้งที่มันคือผู้รักษากฎหมาย ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

นอกจากนี้ยังมีแม่ของคนไข้ที่รักากับหมอกระต่าย ได้คอมเม้นต์ถึงข่าวการจาไปของหมอกระต่าย ระบุว่า “เศร้ามากค่ะ ลูกเรารักษาตาต่อเนื่องกับคุณหมอ กำลังจะวางแผนผ่าตัดตาในเร็วๆนี้ รู้ข่าวแล้วเศร้า แถมความรู้สึกของคนเป็นแม่แทบใจสลายกับความหวังของตาลูกชาย ที่จะหายดี”

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/qLaJb7gVPys