เผยปมพ่อตาบอดวัย 70 ผูกคอดับ ขายนาขายควายให้ลูกสาว ใช้หนี้แล้วเป็นล้าน ยังไม่พอ คาดติดพนัน

บุรีรัมย์-กรณีนายปรีดี ไชยสงค์ อายุ 70 ปี ผู้พิการตาบอดทั้งสองข้าง ใช้ผ้าขาวม้า ผูกคอตัวเองกับต้นขนุนหลังบ้านของตัวเองเสียชีวิต เพราะเครียดที่ถูกแก๊งเก็บเงินรายวัน มาขู่บังคับให้ไปหาเงินมาจ่ายแทน น.ส.พยูง ไชยสงค์ อายุ 35 ปี ลูกสาวที่ไปกู้เงินมาแล้วหลบหน้า หลายครั้ง จนเครียดฆ่าตัวตาย

กระทั่งผู้นำชุมชนร้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะแก๊งทวงหนี้ ที่เดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ของการแพร่ระบาดของโควิด-19 แล้วตระเวนเก็บเงินกู้ดอกเบี้ยโหดข้ามจังหวัด เกรงว่าจะเป็นการนำเชื้อโควิด-19 มาแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์

ต่อมา พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผกก.สภ.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบหาข้อมูลเชิงลึก หากพบว่ากลุ่มปล่อยเงินกู้ทำผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอน จนมาทราบว่าสาเหตุที่นายปรีดี ผูกคอตัวเองตาย อาจจะไม่ใช่เป็นเพราะโดนทวงหนี้อย่างเดียว

จากข้อมูลพบว่าเมื่อเดือนมีนาคม ผู้ตายซึ่งเป็นพ่อ ได้ขายที่นาจำนวน 4 ไร่ ได้เงินมากว่า 400,000 บาท เพื่อให้ลูกสาวเอาไปชำระหนี้ให้หมด แต่ไม่พอ เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา พ่อตัดสินใจขายที่นาอีก 4 ไร่ ได้เงินมาอีก 400,000 บาท รวมเป็น 800,000 บาท

ยังไม่รวมวัวควายที่ขายให้ลูกสาวไปใช้หนี้อีกร่วม 200,000 บาท รวมแล้วทรัพย์สินที่ขายไปให้ลูกไปใช้หนี้นับล้านบาท แต่ยังมีคนมาทวงหนี้อีก และทวงหนักกว่าเดิม ซึ่งอาจจะเป็นแรงจูงใจหลัก ที่นายปรีดี ก่อเหตุฆ่าตัวเองตาย

ด้าน น.ส.บี (นามสมมุติ) เพื่อนลูกสาวนายปรีดี และเป็นคนค้ำประกันร่วมกับ น.ส.พยูง ได้ออกมาระบุว่า พวกตนได้รวมกลุ่มกัน 5 คน ต่างคนต่างค้ำประกันเงินกู้ให้กัน ก่อนหน้านี้มีอาชีพขายผักสดในตลาด ต่อมาหันมาเล่นพนันออนไลน์ เพราะอยากจะหาเงินมาใช้หนี้ให้กับแก๊งเก็บเงินรายวัน แต่ยิ่งเล่นกลับยิ่งเสีย จนไม่มีจ่าย ส่วนนางพยูง ตนไม่รู้ว่ากู้เงินเอามาทำอะไร เพราะไม่อยากถาม

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/6Xrp5rU4bzs