คุมตัวฝากขัง "แบงค์" หัวโจกแก๊งชิงบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าตัวกลับลำบอกไม่มีคนชี้เป้า เผยเข้าเกียร์ผิดถอยชนรปภ.ดับ

ตำรวจคุมตัว นายแบงค์ หัวโจกแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลกากร และถอยรถชน รปภ. เสียชีวิต ไปฝากขัง เจ้าตัวกลับคำ บอกไม่มีใครชี้เป้า พร้อมบอกหากได้ประกันตัว จะไปขอขมาผู้เสียชีวิต



9 โมง 50 นาที ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ท่าเรือ ควบคุมตัว นายสิทธิศักดิ์ หรือ แบงค์ อายุ 38 ปี ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขังผัดแรก ในข้อหาฆ่าผู้อื่น ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ร่วมกันบุกรุกเคหสถาน ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ทางพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้องฝากขัง ทีมข่าวสอบถามสิบเวรหน้าห้องขัง ทราบว่า นายแบงค์ ไม่ได้มีอาการเครียด กินข้าวได้ตามปกติ



ระหว่างที่ควบคุมตัวไปขึ้นรถ นายแบงค์ บอกกับสื่อมวลชนว่า "ได้ให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว" และกลับคำที่เคยบอกในวันแรกว่ามีคนดูต้นทาง กลายเป็นว่า เพิ่งเคยก่อเหตุครั้งเดียว ไม่มีคนชี้เป้า ส่วนเรื่องถอยรถยังยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจแต่เข้าเกียร์ผิด หากได้ประกันตัวอยากไปขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต



ซึ่งในส่วนของการกลับคำให้การ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ (4มิ.ย.68) ตอนที่ตำรวจคุมตัวแบงค์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยคุมตัวไปเงียบๆ ไม่ได้แจ้งนักข่าวเพราะเกรงว่ากลุ่มของครอบครัวและเพื่อนผู้เสียชีวิตจะไปดักรอ โดยมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรสอบถามเรื่องคนชี้เป้า นาย แบงค์ ได้กลับคำให้การ บอกว่า ไม่มีคนชี้เป้า อ้างว่าเจ้าหน้าที่มักจะใช้คนงานแถวนี้มาช่วยเก็บของกลาง ดังนั้นมีหลายคนที่รู้เรื่องจุดเก็บของกลาง



และแม้นายแบงค์จะพูดกับสื่อยืนยันว่าไม่มีคนชี้เป้า แต่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี สน.ท่าเรือ ยืนยันว่า นายแบงค์ให้การอ้างว่ามี อดีต รปภ. ที่เคยทำงานบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นคนชี้เป้า ซึ่งตอนนี้ทราบเพียงชื่อเล่น อยู่ระหว่างพิสูจน์ตัวบุคคล และเรียกเข้ามาสอบปากคำว่าสอดคล้องกับที่นายแบงค์กล่าวอ้างหรือไม่ โดยนายแบงค์ให้การด้วยว่า เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรมีไม่เพียงพอ จึงไปว่าจ้างคนในพื้นที่มาช่วยยกของ นี่จึงเป็นช่องโหว่ที่ทำให้มีบุคคลภายนอกทราบว่า จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่เก็บของกลาง



ส่วน นายสน ที่ถูกพาดพิงตอนแรกว่าเป็นคนชี้เป้า ก็เรียกมาสอบปากคำแล้วเมื่อวานนี้ ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนว่าเกี่ยวข้อง จึงยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันลักทรัพย์



ขณะที่ พลตำรวจตรี วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 บอกว่า ตอนนี้ทางกรมศุลกากรยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ เพราะมีของกลางกว่า 1,000 รายการ ที่ต้องตรวจสอบก่อนว่าหายไปเท่าไหร่ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบสักระยะ นอจกากนี้ตำรวจ สน.ท่าข้าม มาอายัดตัวนายแบงค์ ตามหมายจับคดีปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2565 เพิ่มอีก 1 คดีแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/PagN9IEK-nQ