อาชญากรรม
วินจยย.ฆ่ารัดคอยายวัย 89 ขอไม่ทำแผน หวั่นถูกประชาทัณฑ์ สารภาพเป็นหนี้ เห็นยายใส่ทองเส้นใหญ่ล่อตา
โดย panwilai_c
14 พ.ค. 2568
73 views
กรณีพบศพยายหนูนิล อายุ 89 ปี ถูกฆ่ารัดคอ นำร่างยัดกระสอบทิ้งในป่าต้นกก ถนนเทิดพระเกียรติ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรม โดยคนร้ายคือ นายเจริญ หรือ เตี้ย อายุ 55 ปี คนขับวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่ยายหนูนิล เป็นลูกค้าประจำ โดยวันที่ 9 พฤษภาคม ยายหนูนิลโทรศัพท์เรียกนายเตี้ย มารับที่หมู่บ้านให้พากดเงินที่ห้าง ก่อนที่ยายหนูนิลจะหายตัวไป จนลูก ๆ ออกตามหา แล้วไปเจอภาพจากกล้องวงปิด เห็นยายหนูนิลไปกับนายเตี้ยก่อนหายตัว
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค8 และชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้นำกำลังพร้อมหมายจับ ไปจับกุมนายเจริญ หรือ ไอ้เตี้ย ได้แล้ว ขณะหนีกบดานบ้านญาติในอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อนายเตี้ยเห็นตำรวจ ได้วิ่งหลบหนีไปประมาณ 1 กิโลเมตร แต่สุดท้ายหนีไม่รอด จึงยอมตำรวจจับกุมไว้ได้ พร้อมเงินสด 101,600 บาท
ต่อมานายเตี้ย ให้การรับสารภาพว่า ลงมือฆ่ายายนิล เพราะไม่มีเงิน และวันเกิดเหตุเห็นยายใส่สร้อยทองเส้นใหญ่ จึงต้องการจะชิงทรัพย์ หลังก่อเหตุก็ได้หลบหนีเลย ตั้งใจจะหนีไปภูเก็ต แต่เปลี่ยนใจมาที่เกาะสมุย และมาหลบซ่อนตัวในขนำกลางทุ่ง ส่วนเสื้อวินและโทรศัพท์มือถือ ได้โยนทิ้งลงคลองระหว่างหลบหนี สำหรับสร้อยทองคำ 5 บาท ที่ได้มานั้น ได้นำไปขายกับร้านทองแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย ได้เงิน 140,000 บาท แล้วนำเงินไปซื้อทอง 2 เส้น ส่วนที่เหลือตั้งใจจะนำไปแบ่งให้ลูกชายลูกสาวไว้ใช้ แต่มาถูกจับเสียก่อน
พลตำรวจตรี พรชัย ขจรกลิ่น รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อม พลงตำรวจตรี จารุต ศรุตยาพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งโต๊ะแถลงข่าวปิดคดีนายเตี้ย ฆ่าโหดชิงทรัพย์ยายหนูนิล โดยได้ชี้แจงประเด็นที่ลูกผู้เสียชีวิตติดใจ ว่าทำไมตำรวจไม่ช่วยรีบตามหาแม่ และปล่อยให้นายเตี้ยหนีออกนอกพื้นที่ไป ซึ่งยืนยันว่าตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังได้รับแจ้งความก็รีบหาพยานหลักฐาน แต่ในช่วงแรกที่ยังจับกุมนายเตี้ยไม่ได้ เพราะยังไม่เจอศพ แต่เมื่อเจอแล้วก็สามารถจับกุมได้อย่างรวดเร็ว
0000000000000
หนุ่ม 27 ถูกยิงแสกหน้าดับคาเถียงนา พบถูกยัดแบงก์ 500 ใส่กระเป๋า ตำรวจพุ่งเป้าพัวพันยาเสพติด ขณะที่แม่ไม่ติดใจลูกถูกฆาตกรรม ไม่ยอมให้ตำรวจนำร่างลูกไปชันสูตร
ตำรวจ สภ.เพ็ญ จังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณเถียงนา บ้านหนองบัวบาน ตำบลสุมเส้า อำเภอเพ็ญ ในที่เกิดเหตุพบศพ นายพรชัย แสงดี หรือบิ๊ก อายุ 27 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด 3 นัด บริเวณหน้าผากทะลุท้ายทอย 1 นัด ขมับขวา 1 นัด และหน้าอกซ้าย 1 นัด เสียชีวิตใกล้กับกระชังปลา สวมเสื้อกั๊กสีน้ำเงิน ปักตัวอักษรด้านหลัง คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. สวมกางเกงยีนส์สามสวน รองเท้าแตะสีดำ
ตรวจค้นพบไฟแช็กดัดแปลง 1อัน ธนบัตร 500 บาท แว่นตากันแดด ตลับเมตร ซองยาเส้น ไม่พบร่องรอยการต่อสู้
เจ้าหน้าที่ทำการชันสูตรพลิกศพพบว่า ในพื้นที่มีร่องรอยล้อรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาที่เกิดเหตุ จำนวน 2 รอย ซึ่งผู้ตายไม่ได้ขี่รถมาที่เกิดเหตุ เพราะบ้านกับจุดเกิดเหตุไม่ไกลกัน ผู้ตายเดินมาที่นาของครอบครัวตัวเอง
โดยนางเพ็ญศรี อายุ 57 ปี แม่ของผู้ตายนั่งร้องไห้ดูศพลูกด้วยความเสียใจ และไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่นำศพลูกไปโรงพยาบาล และจะนำศพลูกมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน ทำให้ตำรวจอธิบายว่า กรณีถูกฆาตกรรมต้องนำศพไปผ่าชันสูตร หาหัวกระสุนปืนที่ฝังอยู่ในร่าง เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมคนร้าย นางเพ็ญศรีจึงยินยอม
ส่วนนายคำตา พ่อเลี้ยงของผู้เสียชีวิต บอกว่า ผู้ตายไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ กกต. แต่เสื้อกั๊กเป็นของน้องชายพ่อเอามาให้พ่อใส่ แต่ผู้ตายมาขอยืมพ่อไปใส่ เพื่อความเท่ห์ และดูเป็นเหมือนเจ้าหน้าที่น่าเกรงขาม
ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมากินข้าวเย็นที่บ้าน แล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป แต่ไม่รู้ออกไปไหน จากนั้นจึงมาพบเป็นศพในช่วงเช้า ซึ่งปกติผู้ตายไม่ค่อยสุงสิง หรือเคยมีเรื่องกับใคร และมักออกจากบ้านไปหาเพื่อนอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็ไปตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงค่ำแล้วค่อยกลับบ้าน ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ส่วนสาเหตุการถูกยิงครั้งนี้ พ่อยอมรับว่าไม่รู้สาเหตุ และไม่รู้ว่าลูกเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่
ต่อมา นางเพ็ญศรี แม่ของนายบิ๊ก ได้นำร่างของนายบิ๊ก มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าในหมู่บ้าน โดยระหว่างที่กำลังจัดเตรียมงานศพอยู่นั้น ตำรวจ สภ.เพ็ญ เดินทางมาพร้อมกับร้อยเวร เพื่อมาขอเจรจานำศพนายบิ๊กไปตรวจชันสูตรตามขั้นตอนกฎหมาย เนื่องจากเป็นคดีฆาตกรรม
แต่ปรากฎว่าระหว่างนั้น แม่เสียงดังโวยวายใส่ตำรวจว่า ตอนแรกให้ข้อมูลว่าการนำศพไปตรวจชันสูตรไม่เสียเงิน พอแม่นำร่างลูกไปส่งตรวจชันสูตร กลับมีการเรียกเก็บเงินทั้งจากโรงพยาบาลและมูลนิธิแห่งหนึ่ง รวมเป็นเงิน 4,700 บาท แม่ไม่มีเงินจึงนำศพลูกกลับมาทำพิธีสวดบำเพ็ญกุศล และจะเผาในวันพรุ่งนี้
แต่ทางพนักงานสอบสวนเข้ามาห้ามเนื่องจากต้องนำศพไปผ่าชันสูตร ทำยังไงแม่ก็ไม่ยอม เพราะเชื่อว่าการนำไปผ่าชันสูตรแล้วไปรับศพต้องเสียเงินอีกแน่นอน ทางครอบครัวมีฐานะยากจนไม่มีเงินที่จะไปจ่ายจึงไม่ยอม และเกิดการโต้เถียงกันเกิดขึ้น
แต่ปรากฏว่าระหว่างนั้นแม่เสียงดังโวยใส่ตำรวจ ว่าตอนแรกให้ข้อมูลว่าการนำศพไปตรวจชันสูตรไม่เสียเงินแม่นำร่างลูกไปส่งตรวจชันสูตรปรากฏว่ามีการเรียกเก็บเงินทั้งจากโรงพยาบาลและมูลนิธิแห่งหนึ่งรวมเป็นเงิน 4700 บาทแม่ไม่มีเงินจึงนำศพลูกกลับมาทำพิธีสวดบำเพ็ญกุศลและจะเผาในวันพรุ่งนี้
แต่ทางพนักงานสอบสวนเข้ามาห้ามเนื่องจากต้องนำศพไปผ่าชันสูตรแต่ทางแม่ไม่ยอมเพราะเชื่อว่าการนำไปผ่าชันสูตรแล้วไปรับศพต้องเสียเงินอีกแน่นอนทางครอบครัวมีฐานะยากจนไม่มีเงินที่จะไปจ่ายจึงไม่ยอมและเกิดการโต้เถียงกันเกิดขึ้น
ต่อมาเวลา16.00น. พนักงานสอบสวน สภ. เพ็ญนำนักเรียนตำรวจฝึกหัดเข้ามาจำนวนประมาณ 10 นายเดินทางมาที่งานศพเพื่อช่วยยกโลงศพโดยยืนยันว่าจะต้องนำศพไปตรวจชันสูตรตามขั้นตอนกฎหมายเพราะเป็นคดีฆาตกรรม
ช่วงจังหวะนี้ นางสาวเพ็ญศรีแม่ของผู้เสียชีวิตก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงดังใส่ตำรวจว่ามาเอาอีกแล้วใครจะรับประกันว่าไม่ต้องเสียเงินถ้าไปรับศพ ทางร้อยเวรเจ้าของคดียืนยันว่าจะไม่ให้มีการเสียค่าใช้จ่ายใดใดเกิดขึ้นตำรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบโดยมีผู้ใหญ่บ้าน ช่วยค้ำประกันและตำรวจจะประสานกับผู้ใหญ่บ้าน วันที่ชันสูตรศพเสร็จสิ้นและไปรับศพ
โดยระหว่างนี้นางเพ็ญศรีเริ่มมีอาการเย็นลงแต่ยังพูดอยู่คำเดิมว่าแน่ใจใช่ไหมว่าไปแล้วไม่เสียเงินขอให้ตำรวจเป็นตัวประกัน ร้อยเวรเจ้าของคดีก็ตกลงและเรียกนักเรียนตำรวจมาช่วยกันยกโลงศพขึ้นรถไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
เถียงนาที่เกิดเหตุพบกระดาษฟอยล์คล้ายใช้เสพยาบ้าจำนวนหนึ่งตกอยู่ใต้เถียงนา
ทีมข่าวเดินเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนายบิ๊กพบว่าทางครอบครัวได้ จุดไฟเผาเสื้อที่ใส่เลอะเลือดและเผาเลือดที่ เจิงนองในที่เกิดเหตุ
โดยทางเข้าที่เถียงนาพบรอย ล้อรถจักรยานยนต์จำนวน 2รอยซึ่งคาดว่ารอย เหล่านี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายบิ๊กได้
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังเดินสำรวจโดยรอบเถียงนาที่เกิดเหตุพบว่าใต้เถียงนามีกระดาษฟอยล์จำนวนหนึ่งกระจาย ตามพื้นซึ่งคาดว่าน่าจะมีการเสพยาบ้า เพราะฟอยล์ที่พบบางอันก็เป็นแผ่นบางอันก็ถูกม้วนพันเป็นลำ ใช้สูบมาแล้ว จึงคาดเดาได้ว่าบริเวณเถียงนาแห่งนี้มีการเสพยาบ้า และข้อมูลก็ตรงกับแหล่งข่าวคนสนิทที่ให้ข้อมูลพบว่าผู้เสียชีวิตพัวพันกับยาเสพติดเป็นถึงระดับ สายแลนด์
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/c9qabu-hMzc
แท็กที่เกี่ยวข้อง