ล่าตัว "นายเฉิน" คนกลางชาวจีนโกงเพื่อนร่วมชาติ หลอกแลกคริปโต 2 เคส วันเดียวสูญ 13 ล้าน

คืบหน้า "จีนปล้นจีน" 2 เคส ผู้กำกับ สน.ห้วยขวาง เผยทั้ง 2 คดีมีจุดร่วมเดียวกัน คือ คนกลางที่ชื่อ "นายเฉิน" น่าจะเป็นคนวางแผนและฉ้อโกงทั้ง 2 ฝ่าย

เมื่อคืนนี้ตำรวจแกะรอยจากจีพีเอสของโทรศัพท์มือถือที่ผู้เสียหายเคส 5 ล้านบาทใส่ไว้ในกระเป๋า จนตามไปรถคันนี้เจอแล้ว ถูกจอดอยู่ที่สุสานสมาคมแต้จิ๋ว เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ก่อนรถคันนี้จะเข้าไปจอด ได้ส่งผู้ชายในรถ 2 คน ลงที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา สูง 4 ชั้น ในซอยเย็นจิต แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร ซึ่งเป็นบ้านของผู้ก่อเหตุ ก่อนจะหายตัวไป ซึ่งภายในบ้านตำรวจเจอกระเป๋าเงินสด 5 ล้านบาทอยู่ที่นี่

เมื่อคืนนี้ตำรวจจึงเชิญตัวคนที่อยู่ในบ้าน 2 คนมาสอบปากคำ และยึดรถตู้กลับมาตรวจสอบเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่ม ที่สน.ห้วยขวาง แต่เมื่อคืนนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจได้แค่ภายนอกรถ ยังไม่สามารถเปิดดูภายในรถได้ ดังนั้นช่วงสายวันนี้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะเข้าตรวจสอบรถอย่างละเอียดอีกครั้ง

พันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยผลการสอบปากคำ ผู้เสียหายทั้ง 2 คดี พบว่า ผู้เสียหายคดีแรกให้การว่า ติดต่อผ่านนายเฉิน เป็นคนกลางว่าต้องการแลกเงินสด 5 ล้านบาท เป็นเหรียญคริปโต นายเฉินจึงนัดแนะให้เจอกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ผ่านแอพฯ เทเลแกรม

พอถึงเวลานัดก็นำกระเป๋าใส่เงินสด 5 ล้านบาท มาวางไว้บนโต๊ะภายในบ้านหลังเกิดเหตุ และพูดคุยกัน โดยฝั่งผู้ต้องหาอ้างว่าโอนเหรียญคริปโตแล้ว แต่ฝั่งผู้เสียหายบอกยังไม่ได้เหรียญคริปโต ก่อนโต้เถียงกันและฝั่งผู้ต้องหาหยิบกระเป๋าเงิน 5 ล้านหลบหนีไป โดยเหตุการณ์นี้จะกระทำผิดฐาน "วิ่งราวทรัพย์"

เช่นเดียวกับเคส 8 ล้านบาท ก็ติดต่อผ่านนายเฉินเหมือนกัน ว่าต้องการแลกเงิน 8 ล้านบาทเป็นเหรียญ และที่สูญเงินเพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุอ้างว่า โอนเหรียญไปแล้ว แต่เป็นการโอนเข้าบัญชีนายเฉิน แล้วนายเฉินไม่ได้โอนต่อให้ผู้เสียหาย

ดังนั้นเมื่อสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 2 เคส พบว่า มีจุดร่วมเดียวกัน คือ ผู้เสียหายทั้ง 2 เคส ติดต่อแลกเงินผ่านชายชาวจีนที่ชื่อ "นายเฉิน" ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนกลางเหมือนนายหน้า นัดให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาเจอกัน โดยสื่อสารผ่านแอพฯ เทเลแกรม

วิธีฉ้อโกงของนายเฉิน คือ เมื่อนัด 2 ฝ่ายที่มีเงินสด กับมีเหรียญคริปโตได้แล้ว จะส่งบัญชีคริปโตของตัวเองให้ฝ่ายที่โอนเหรียญคริปโต แล้วแจ้งยอดตามที่คนที่หิ้วเงินสดต้องการ พอฝ่ายที่โอนคริปโต โอนเหรียญเข้าบัญชีนายเฉินแล้ว ก็จะดีดตัวเองออกจากลุ่มทันที ทำให้คนที่โอนเหรียญต้องเอาเงินสดจากคนที่มาแลก แต่คนที่มาแลกจะไม่ได้เหรียญ และเข้าใจว่าตัวเองโดนโกง

ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัยว่า ผู้เสียหายในคดี 5 ล้านบาท โดนมัดมือหรือพันธนาการหรือไม่ ทีมข่าวสอบถามไปยังพลตำรวจตรี อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ระบุว่า ไม่มีการกักขัง หรือพันธนาการ ทั้งคู่นัดเจอกัน และเพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรก โดยมีคนกลางที่ชื่อ "นายเฉิน" เป็นคนประสานงาน ส่วนความคืบหน้าคดีนี้ ยังต้องสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด และติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนให้ได้ก่อน เพราะตอนนี้ที่สอบไปมีเพียงพยานที่เป็นเจ้าของบ้านย่านสาทร ที่เจอเงินสด 5 ล้านบาทเท่านั้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/zR-ngOgJLds