ฝากขัง 7 ผู้ต้องหารัวสังหาร ‘สจ.โต้ง’ ตร.พุ่งเป้าปมการเมือง ‘อัจฉริยะ’ จี้โอนคดีไปกองปราบฯ

ตำรวจฝากขัง 7 ผู้ต้องหา รัว 22 นัด สังหาร “สจ.โต้ง” ฝากขัง พุ่งเป้าปมขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น ขณะที่ “อัจฉริยะ” เตรียมพาภรรยา สจ.โต้ง ขอให้โอนย้ายคดีมากองปราบ หวั่นเรื่องอิทธิพลในพื้นที่

บรรยากาศ ช่วงเช้าที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี มีบรรดาญาติกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 7 คนมาเยี่ยมตั้งแต่เช้า แต่ที่น่าสังเกต คือ 4 ผู้ต้องหาที่เป็นลูกน้องรวมถึง 2 มือปืนที่ยิงถูกคุมตัวอยู่ในห้องขังของโรงพัก ส่วนโกทรถูกคุมตัวอยู่ที่ห้องสอบสวนชั้น 2 ของโรงพักเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ ซึ่งเช้าวันนี้ (13 ธ.ค.67) น้องสาวของโกทรหิ้วน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋มาเยี่ยมตั้งแต่เช้า เพราะมีกำหนดจะส่งตัวทั้ง 7 คน ไปขออำนาจศาลจังหวัดปราจีนบุรีฝากขังก่อนเที่ยง

ทีมข่าวมีโอกาสได้คุยกับหลายเขยของโกทร ที่เข้ามาเยี่ยมที่โรงพัก บอกว่า โกทร ไม่ได้เครียดหรือกังวล แต่ด้วยอายุที่มากถึง 85 ปี และมีปัญหาสุขภาพที่เพิ่งผ่าตัดเข่ามาทั้ง 2 ข้าง เดินไม่สะดวกทำให้ต้องมีคนคอยดูแล และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือว่าเป็นวิกฤตของชีวิตที่เลวร้ายที่สุดของโกทร พร้อมย้ำว่า "โกทร ไม่ได้สั่งฆ่าแน่นอน" เพราะ สจ.โต้งมีนิสัยชอบใช้ความรุนแรง และในอดีตเคยทำร้ายคนใกล้ชิดของโกทรภายในออฟฟิศ ดังนั้นชนวนเหตุครั้งนี้น่าจะเป็นความแค้นส่วนตัวของนายกอล์ฟ หรือนาย ธนศรัณย์กรณ์ ซึ่งเป็นคนขับรถของโกทรแน่นอน เพราะนาย กอล์ฟ รับว่าใช้ปืนสั้นขนาด 9 มม. ยิง สจ.โต้ง ชนวนเหตุมาจากเคยโดนสจ.โต้งทำร้ายจนแขนหักมาก่อน  แล้วที่บอกว่า สจ.โต้งเป็นลูกบุญธรรมโกทร อันนี้ไม่กล้ายืนยัน เพราะโกทรรักทุกคน

ขณะที่ พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าทางคดีร่วมกันฆ่า สจ.โต้ง ที่สภ.เมืองปราจีนบุรี และลงพื้นที่มาตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ ภายในบ้านของนาย สุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร ด้วย พร้อมเปิดเผยว่า ต้องลงพื้นที่ดูสถานที่เกิดเหตุก่อน เพื่อทำไทม์ไลน์การเกิดเหตุ และดูว่าผู้ต้องหา 7 คน ใครอยู่ตรงไหนอย่างไร ส่วนที่สันนิษฐานกันว่าน่าจะวางแผนสังหาร ต้องดูพยานหลักฐาน และมาตรวจสอบว่าการก่อเหตุครั้งนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งประเด็นการสังหารเบื้องต้นเชื่อว่า เป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น เพราะผู้ตายและกลุ่มผู้ก่อเหตุเคยเป็นกลุ่มเดียวกันมาก่อน แต่ช่วงหลังเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามากวาดล้าง และสลายกลุ่มไป ทำให้กลุ่มแตก ประกอบกับมีเรื่องคาใจกันหลายเรื่อง จนมาถึงการแข่งขันการเมืองท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้

ส่วนประเด็นกล้องวงจรปิดภายในบ้านที่เสีย ทำให้ไม่มีภาพในตอนเกิดเหตุ ตอนนี้ได้ส่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้ว แต่ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด ก็ไม่น่าหนักใจ เพราะตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานอย่างอื่น เพื่อสรุปสำนวนส่งฟ้องได้อยู่แล้ว ส่วนที่ภรรยา สจ.โต้ง ขอให้โอนสำนวนคดีไปให้กองปราบปราม เพราะเกรงกลัวเรื่องอิทธิพลในพื้นที่ ต้องประชุมหารือก่อน

นักข่าวสอบถามถึงมี 4 ตำรวจอยู่ในกลุ่มคนติดตาม สจ.โต้ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. บอกว่า ได้เรียกมาสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็ววันนี้แน่นอน

ด้าน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยกับทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ว่าหลังจากที่ตนได้ไปร่วมงานศพ สจ.โต้งเมื่อวานนี้ และได้มีการพูดคุยกับ จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง

นายอัจฉริยะ บอกว่า ตนมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับครอบครัวนี้มานานและ รัก สจ.โต้งเหมือนน้อง ซึ่งคดีนี้ ตนดูแล้วตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี ทำคดีนี้ไม่ค่อยเรียบร้อย ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหาถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลระดับประเทศ ทำให้ตนเกรงว่า สจ.โต้งและครอบครัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

วันนี้ 13.00 น. ตนจะพาภรรยา สจ.โต้งไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมถึงพลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางให้มีการโอนย้ายคดีมาที่กองปราบฯ ส่วนประเด็นที่ตนมองว่า สภ.เมืองปราจีนบุรี ทำคดีนี้ไม่เรียบร้อย เนื่องจากยังมีผู้ต้องหาอีก 2 คนที่ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ไม่ใช่แค่ 7 คน นอกจากนี้จะมีการยื่นขอคุ้มครองพยาน ด้วยเนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลอันดับ 1 ของประเทศ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/-BDIkIieTt0