อาชญากรรม
พ่อใจเหี้ยม! เมาตีเมีย ผลักลูก 6 เดือนตกเตียงดับ อ้างไม่ตั้งใจ ชาวบ้านแฉพฤติกรรมโรคจิต
โดย paweena_c
3 ธ.ค. 2567
86 views
พ่อเด็ก 6 เดือน ทะเลาะเมีย ทำร้ายร่างกายลูกตายคาบ้าน พอเมียกลับมาอ้างว่าทำลูกตกเตียง ล่าสุดสารภาพผลักลูกตกเตียงจริง แต่ไม่ตั้งใจทำให้ถึงตาย
เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงบ่ายวานนี้ภายในชุมชนวัชรพล 3 จตุโชติ ซ.20 มีชาวบ้านแจ้งว่าพบเด็กชายวัย 6 เดือน เสียชีวิต ตามตัวมีรอยฟกช้ำรวมถึงรอยกัด และมีเลือดไหลออกจากทางจมูกและปาก ซึ่งคนที่อยู่กับเด็กเป็นคนสุดท้าย คือ นายเมธี อายุ 30 ปี พ่อของเด็ก แต่เขาอ้างว่าหลับไปพร้อมลูกชาย และได้ยินเสียงลูกชายร้องเมื่อตื่นขึ้นมาก็เห็นลูกชายอยู่ที่พื้นคาดว่าน่าจะตกจากเตียง แต่นางสาว โชติกา ภรรยาและแม่ของเด็กไม่เชื่อ เพราะก่อนหน้าที่ลูกตาย สามีเพิ่งทำร้ายร่างกายเธอ แล้วเธอหนีออกมาก่อนอุ้มลูกออกมาไม่ทัน
เช้าวันนี้ (3 ธ.ค.67) ทีมข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุ พบว่าที่บริเวณหน้า ประตูรั้วหน้าบ้านมีการล็อคกุญแจไว้ภายในบ้านคาดว่าน่าจะไม่มีคนอาศัยอยู่ ได้ยินเพียงแค่เสียงสุนัขเห่าหลายตัวเท่านั้น ทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับยายแตน ป้าขางบ้าน เล่าว่า นายเมธีเพิ่งคบหาดูใจกับนางสาว โชติกา ได้ประมาณหนึ่งปี ช่วงแรกที่ทั้งคู่มาอาศัยอยู่ด้วยกันก็มักจะเห็นนายเมธีทำร้ายร่างกายภรรยาอยู่เป็นประจำ เพราะนาย เมธี ชอบเมาเหล้าอาละวาดและทำร้ายร่างกายภรรยา มีครั้งหนึ่งหลังนายเมธีทำร้ายร่างกายภรรยาเสร็จ ก็นำตัวมาโยนไว้ที่หน้าบ้าน ขนาดภรรยาตั้งครรภ์ยังทุบตีเหมือนเดิม
เมื่อวานนี้ทั้งคู่ก็ทะเลาะกัน จนภรรยานายเมธี ต้องหนีมาซ่อนตัวที่บ้านเธอ กระทั่งเกือบเที่ยง นายเมธีเดินมาตามภรรยากลับบ้านให้ไปดูลูก ซักพักภรรยาของนายเมธีก็กรี๊ด และวิ่งลงมาพร้อมบอกว่า "ยายลูกหนูตาย ลูกหนูตายแล้ว" ก่อนที่เธอจะไปถาม นายเมธีว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นซึ่งเจ้าตัวก็ปฏิเสธบอกว่าไม่รู้ พร้อมบอกว่าตัวเองหลับอยู่ ตอนที่เจอเด็กพบว่า ตัวเย็น หน้าเริ่มเขียว มีรอยกัดตามตัวเด็กด้วย
นาง ทศพร วงศ์ทองชูสกุล ประธานชุมชน วัชรพล 3 เปิดเผยว่าที่ผ่านมานายเมธีไม่เคยออกมาสุงสิงกับคนในชุมชน เป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัว แต่ก็เคยได้ยินมาบ้างว่านายเมธีทะเลาะกับภรรยาบ่อยที่ผ่านมาก็เห็นนายเมธีเปลี่ยนภรรยามาแล้วหลายคน และมีลูกมาแล้วหลายคน และคิดว่านายเมธีน่าจะโรคจิต เพราะทุกครั้งที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ก็มักจะมีสีหน้าเรียบเฉย พร้อมบอกว่าเมื่อวานนี้หลายคนโกรธที่นายเมธีทำร้ายร่างกายลูกจนถึงแก่ชีวิต คิดว่าดีแค่ไหนแล้วที่นายเมธีไม่โดนรุมประชาทัณฑ์ตาย
ขณะที่นาย เมธี ถูกตำรวจจับได้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.67) ตำรวจสอบปากคำตลอดทั้งคืน แต่ยังอ้างว่า พลั้งมือทำลูกตกเตียงไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งพ่อของนายเมธี มาเยี่ยมลูกชายที่ สน.คันนายาว เปิดเผยว่า ลูกชายค่อนข้างเครียด พร้อมบอกว่ามีบางประเด็นไม่ใช่เรื่องจริงที่ข่าวนำเสนอออกไปโดยที่ การนำเสนอข่าวเป็นการฟังความข้างเดียวฟัง
ส่วนหลานชายวัยหกเดือนเคยเจอเพียงแค่ครั้งเดียว เจอครั้งนั้นยังไม่ถึง 5 นาที ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายหรืองอแงหรือไม่ และเขากับลูกชายไม่สนิทกันเพราะนายเมธี ย้ายออกมาจากบ้านตั้งแต่อายุ 17 ปี ส่วนใหญ่จะติดต่อมาขอเงินเท่านั้น และวันนี้คงไม่ประกันตัวอยากให้ลูกชายได้รับผลกรรมที่กระทำไว้
ขณะที่พันตำรวจเอก นเรนทร์ เครื่องสนุก ผู้กำกับการ สน.คันนายาว เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ผลักลูกชายตกลงมาจากเตียง แต่ไม่ได้เจตนาที่จะทำให้ถึงแก่ชีวิต ตำรวจแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย และทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และมีความผิดตามพระราชบัญญัติความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งจากการตรวจร่างกายของผู้ต้องหาไม่พบสารเสพติดในร่างกายแต่อย่างใด และในวันพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลฯ
ล่าสุด นางสาว โชติกา เดินทางไปรับศพลูกชายวัย 6 เดือน ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เธอเล่าทั้งน้ำตาว่า วันเกิดเหตุการณ์คืนวันที่ 1 ธ.ค. เป็นวันเกิดของเธอ ต่อเนื่องวันที่ 2 ธ.ค. ตัวสามีนั่งดื่มกินอยู่ข้างล่างที่บ้านพัก กระทั่งช่วงตี 4 สามีเมาและบันดาลโทสะ ทำร้ายในขณะที่อยู่กับลูก เพราะไม่พอใจที่เธอไม่ไปร่วมวงด้วย
เธอกลัวว่าถ้าอยู่ตรงนั้นต่อไป ก็อาจจะถูกสามีทำร้ายจนสลบจึงวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน เพื่อให้แจ้งตำรวจเข้ามาช่วยระงับเหตุ แต่เมื่อเธอกลับมาถึง พบว่าสามีปิดห้องไม่ยอมให้เข้าไปในบ้าน เธอพยายามเกลี้ยกล่อมเพราะเกรงว่าลูกจะได้รับอันตราย
แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปได้ ประมาณ 6 โมง พบว่าลูกชายตัวเย็น และมีเลือดออกที่จมูก โดยสามีอ้างกับตำรวจว่า ลูกหล่นจากเตียง ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวสามีไป ต่อมาสามีแชทผ่านมือถือมาหาเธอในลักษณะตัดพ้อและขอโทษ พร้อมกับสัญญาว่าจะเลิกดื่มสุราตลอดชีวิต และจะไม่ทำร้ายเธออีก แต่เธอไม่เชื่อขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
สำหรับศพของลูกชายวัย 6 เดือน จะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดพรพระร่วง เขตสายไหม เป็นเวลา 1 คืน และจะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 4 ธ.ค. นี้
https://youtu.be/a4E-FV05AWY