อาชญากรรม

'ทนายตั้ม' โผล่กองปราบ อ้างถูก ตร.เฝ้าหน้าบ้าน แจงเงิน 39 ล้าน 'เจ๊อ้อย' ถูกมิจฉาชีพจีนหลอก

โดย paweena_c

5 พ.ย. 2567

104 views

หลังเงียบหายไปหลายวันจนหลายคนสงสัยว่า "ทนายตั้ม" ยังอยู่ในไทยหรือไม่ เพราะไม่มีใครติดต่อได้ ล่าสุดเจ้าตัวมากองปราบปราม บอกเข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจ หลังโดนตำรวจไปตามเฝ้าถึงบ้านตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

ประมาณ 09.50 น. นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางเข้ามาที่กองบังคับการปราบปราม โดยสาเหตุที่ต้องมาวันนี้ เพราะเมื่อเช้ามีตำรวจ 6 นาย ใช้รถ 3 คันตามไปเฝ้าถึงหน้าบ้านตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา พอเดินเข้าไปถามว่ามาทำอะไร ตำรวจก็บอกว่าไม่ได้มาเฝ้า ตอนเช้า 7 โมง ตำรวจก็มาเฝ้าอีก ทนายตั้มก็เดินเข้าไปคุยอีก ว่าจะเข้ากี่โมงครับ เพราะต้องไปส่งลูกที่โรงเรียน เลยบอกไปว่าถ้าจะมาค้นก็เข้าเลย ไม่ต้องรอ และตำรวจไม่ต้องมาเฝ้าไม่ได้ไปไหนอยู่ที่บ้านตลอด ก่อนที่ทนายตั้มจะเดินกลับเข้าบ้าน พอกลับออกมาก็พบว่าตำรวจที่มาเฝ้าหายไปหมดแล้ว

วันนี้เลยตัดสินใจเข้าพบตำรวจ เพราะตามไปเฝ้าถึงหน้าบ้านขนาดนี้ และหากมีหมายถูกต้อง ไม่ต้องตามไปเฝ้าหรอก แค่บอกดีๆ มีหมายมาก็ยินดีจะไป

ส่วนเรื่องเงิน 71 ล้าน และ 39 ล้าน เรื่องรถหรู สามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น อย่างเรื่องรถเบ็นซ์ จี 400 AMG พรีเมี่ยม เป็นชื่อของเจ๊อ้อย แล้วทนายตั้มจะเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ได้อย่างไร และเขาได้ครอบครองรถคันนี้แค่ไม่กี่เดือน เจ๊อ้อยก็เอารถคืนไป ไม่เคยเอาไปให้กลุ่มจีนเทาเช่าด้วย

เรื่องเงิน 39 ล้านบาท เจ๊อ้อยโดนสแกรมเมอร์หลอกอ้างตัวเป็นดาราจีนชื่อดัง แล้วมาหลอกให้เจ๊อ้อยโอนเงิน เพื่อแลกกับการเดินทางมาไทย แต่ต้องโอนเงินแบบบิทคอยน์ก่อน แต่ทนายตั้มบอกว่าทำไม่เป็นเลยให้น้องที่รู้จัก ชื่อ "นุ" เป็นคนโอน พอโอนก้อนแรกคนที่อ้างว่าเป็นดาราก็บอกว่ายังมาไม่ได้ ต้องโอนเงินเพิ่ม ทำให้เขาสงสัยว่าน่าจะเป็นพวกสแกรมเมอร์ ยังปรึกษากับเลขาเจ๊อ้อยเลย เคยห้ามเจ๊อ้อยแล้ว แต่เจ๊อ้อยกลับบอกว่า "มันเป็นเงินของพี่ พี่จะโอนให้ใครมันก็คือเงินของพี่" สุดท้ายก็โอนไปรวมแล้ว 39 ล้านบาท

ส่วนเรื่องเงิน 71 ล้าน ทนายตั้มถามว่า ที่เรียกเจ๊อ้อยมาสอบปากคำตั้งหลายครั้ง เพราะการให้ปากคำไม่ตรงกับพยานหลักฐานที่มีหรือเปล่า วอนตำรวจอย่าให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือ เนื่องจากข้อมูลที่เจ๊อ้อยบอกมา ไม่ตรงกับความจริงเลย ตอนนี้พร้อมที่อยากจะเปิดหลักฐานต่างๆ ทั้งการโอนเงิน แชทไลน์ และพยานบุคคล ให้กับพนักงานสอบสวนพิจารณา และจนถึงวันนี้ยืนยันว่า เงิน 71 ล้าน เป็นการให้โดยสเน่หา ไม่ได้ฉ้อโกงแน่นอน 

กรณีที่ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ออกมาบอกว่า มีเขางอกบนหัว ทนายตั้มบอกว่า คนที่มีพฤติกรรมเขางอกที่หัว เป็นเพราะเมียมีชู้ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย และก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ทนายคนอื่นฟังด้วย

นอกจากนี้ทนายตั้มยังพาดพิงถึงสื่อช่องหนึ่งที่ไปคุกคามเขาถึงบ้าน ไปคุยกับเพื่อนบ้าน ตามไปถึงหน้าบ้าน สุดท้ายต้องปิดเบอร์มือถือที่เคยใช้ไป เพราะโดนตามคุกคามอย่างหนัก และในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ยังปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อบางสำนักด้วย ก่อนจะเดินเข้าไปให้ข้อมูลกับตำรวจ แต่เป็นคนละตึกกับที่เจ๊อ้อยอยู่ โดยทนายตั้มบอกว่า ยังไม่อยากเจอหน้าเจ๊อ้อย เพราะไม่รู้จะคุยอะไรกัน

หลังจากนั้นทนายตั้มใช้เวลาเพียง 15 นาที เพื่อเข้าไปลงบันทึกประจำวันที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนจะเดินกลับออกมา และปฏิเสธให้สัมภาษณ์รอบ 2 แล้วบอกว่าจะไม่ให้สัมภาษณ์อะไรแล้ว ขอให้รักษากฎระเบียบด้วย เบื้องต้นตำรวจได้นัดวันให้เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมแล้ว เดี๋ยวจะแจ้งสื่อให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง

https://youtu.be/_e_OxwKuKyQ

คุณอาจสนใจ

Related News