เมียสุดช้ำ ‘ผัวทหารทำร้าย’ เบ่งมีนายใหญ่หนุนหลัง ต้นสังกัดเตรียมฟันโทษหากผิดจริง

สาวร้อง “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” ถูกสามีทหารยศ “สิบโท” ทำร้ายร่างกาย หลังเข้ารับราชการพฤติกรรมเปลี่ยน ท้าทายระบบ อ้างมีผู้ใหญ่หนุนหลัง ต้นสังกัดเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบ หากผิดจริงลงโทษตามระเบียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มิ้นท์ ผู้เสียหาย ได้ร้องเรียนกับต้นอ้อ เป็นหนึ่ง หลังทนพฤติกรรมของสามีทหาร ยศสิบโท ไม่ไหว เธอถูกซ้อมจนปางตายเคยไปแจ้งความแล้ว แต่สิบโทกลับบอกว่า ตัวเองมีผู้ใหญ่หนุนหลัง ไม่เกรงกลัวใคร และช่วงเช้าที่ผ่านมา ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ได้พามิ้นท์ เข้าร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กระทรวงกลาโหม

ผู้เสียหายเล่าว่า เธออยู่กินกับสามีมา 2 ปีกว่า โดยสามีเป็นทหารยศนายสิบ สังกัดสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ตำแหน่งพลขับ มีลูกด้วยกัน 1 คน วัย 1 ขวบ ที่ผ่านมาก็มีทะเลาะกันตามประสาลิ้นกับฟัน ไม่ได้รุนแรงอะไร หรือทำร้ายร่างกายกัน แต่พอมีผู้ใหญ่ได้ฝากให้สามีเข้ารับราชการทหาร จากนั้นนิสัยเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป

หลังจากคลอดลูกได้ 10 วัน เธอกับสามีทะเลาะมีปากเสียงกัน จนสามีทำร้ายร่างกาย ทั้งตบ ทั้งบีบคอ ซึ่งตอนที่เธอถูกทำร้ายได้วิดีโอคอลไปหาพี่สาวของเขา เขายังตบตนโชว์พี่สาวเขาด้วย แล้วก็จับหัวของเธอกระแทกกับพื้น เส้นเลือดฝอยในตาแตก ปากแตก เหตุเกิดที่บ้านพักพนักงานของเจ้านายสามี ลาดพร้าว 130

ต่อมาคุณมิ้นท์ เข้าแจ้งความ แต่สามีก็ไม่โดนว่ากล่าวตักเตือนอะไร แล้วจากนั้นสามีได้ย้ายเข้ามาทำงานที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ศรีสมาน ส่วนเธอพักอยู่ที่แฟลตบ้านพักที่เมืองทองธานี จากนั้นเธอกับสามีทะเลาะกันอีกครั้ง เหตุเพราะเธอหึงหวง จนเขาลงมือทำร้ายร่างกายอีกเป็นครั้งที่ 2 เขากระโดดถีบท้อง ต่อยที่ศีรษะและใบหน้าอย่างรุนแรง แบบไม่ยั้งมือ แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้แจ้งความ เพราะครั้งที่แล้วแจ้งไปเรื่องก็เงียบ

ต่อมาคุณมิ้นท์ ได้ทักหาหัวหน้าของสามี เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง บอกว่าจะไปร้องเรียน แต่หัวหน้าสามีบอกว่าให้มาคุยกันก่อน เธอก็ไปพบทาง ผอ. และมีการเรียกสามีมาว่ากล่าวตักเตือนด้วย ผอ. สั่งทำโทษให้วิดพื้นต่อหน้าเธอ จากนั้นก็พูดคุยหัวเราะกัน ทำเหมือนเธอเป็นตัวตลก จนเธอรู้สึกว่า กฎระเบียบและบทลงโทษของทหารที่ทำร้ายครอบครัวตัวเองมีเพียงแค่นี้หรอ

แต่หลังจากเหตุการณ์วันนั้น เธอก็ยังให้โอกาส เพราะยังรักสามี อีกทั้งเคยผ่านการมีครอบครัวมีลูกมาแล้ว ไม่อยากให้ลูกต้องขาดพ่อ อยากอยู่พร้อมหน้าพ่อแม่ลูก แต่ก็ยังมีปัญหาบั่นทอนกันมาเรื่อยๆ ซึ่งมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในครอบครัวพอใช้ เธอต้องไปกู้หนี้นอกระบบมา 2 หมื่นบาท โดยมีพี่สาวสามีเป็นคนแนะนำ แต่ขาดส่งทั้งต้นและดอก ทำให้พี่สาวสามีพาเจ้าหนี้มาทำร้ายร่างกายเธอ ต่อหน้าต่อตาสามีที่โต๊ะสนุ๊ก ที่เธอไปเฝ้าสามีอยู่ โดยที่สามีไม่ช่วยเหลืออะไรเธอเลย

ระหว่างทางที่ขับรถมา เธอไม่รู้เส้นทาง จึงปลุกสามีมาขับรถแทน แต่สามีบอกพูดว่า "มึงขับมาทางไหนแล้วกูจะรู้เหรออี..." พร้อมกับเอาศอกมาแทงหน้าตน แล้วก็ตบตีทำร้าย ทั้งที่ลูกหนึ่งขวบนอนอยู่ในรถด้วย เธอพยายามจะเปิดประตูลงจากรถ เขาก็กระชากไว้ไม่ให้ลง พร้อมกับตบไม่ยั้ง

พอลูกร้องขึ้นมา เธอก็อุ้มลูกมากอดไว้ แล้วลงจากรถไปนั่งอยู่ข้างประตู เขาลงจากรถแล้วก็มาเตะ และกระชากให้ขึ้นรถ พอเธอไม่ขึ้น ก็โดนทั้งเตะและตบอีก เขาทำเหมือนคนที่ไม่เคยรักกัน พอเธอบอกให้เขาหยุด แล้วอุ้มลูก จากนั้นเธอก็วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากรถพ่วง และพาไปส่งที่ป้อมสายตรวจ จากนั้นรถพ่วงขอเบอร์สามี แต่พอโทรไป ก็ถูกพูดจาไม่ดีใส่แล้วก็ตัดสายไป

ที่ผ่านมาร้องเรียนไปหาหลายที่ แต่เรื่องเงียบ และสามีชอบพูดว่า "กรูเห็นมึงไปแจ้งความเป็น 10 ใบแล้ว ไม่เห็นใครจะทำอะไรกูได้ ไหนจะไปร้องเพจ กันจอมพลัง อีซ้อ อะไรของมึง ไม่เห็นเขาจะทำอะไรกรูได้เลย กูรออยู่" ซึ่งเขาพูดท้าทายทุกอย่าง ยอมรับว่าคิดผิด ที่อยากรักษาครอบครัวไว้ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า ควรรักตัวเองและลูกก่อน อยากให้เขาได้รับสิ่งที่ทำ

ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เผยว่า มองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เป็นการทำร้ายคนในครอบครัว อยากให้ต้นสังกัดของฝ่ายชายพิจารณาบทลงโทษให้เข้มงวดกว่านี้ ไม่ใช่แค่การวิดพื้น อีกทั้งเขาไม่เกรงกลัวกฎหมาย คิดว่ามีนายที่สามารถช่วยเขาได้ จึงอยากให้ตรวจสอบว่ามีการกล่าวอ้างจริงหรือไม่

ด้านพลโทณัฐพล เกิดชูชื่น เจ้ากรงการเงินกลาโหม ต้นสังกัดฝ่ายชาย ได้รับเรื่อง และบอกว่า หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาสอบสวนพฤติกรรม หากพบว่ามีความผิดจริง ต้องมีการลงโทษตามระเบียบของทหาร ส่วนกรณีที่ผู้ร้องไปแจ้งความคดีทำร้ายร่างกาย หากสำนวนตำรวจบ่งบอกว่าเป็นคดีอาญา ก็จะมีการสั่งปลดทันที และจะหาที่พักให้กับฝ่ายหญิง หลังจากถูกฝ่ายชายไล่ออกจากบ้าน ยืนยันจะทำอย่างตรงไปตรงมา

https://youtu.be/PTXrUeqXAWU