ผบ.ตร.เผยเตรียมขยายผล จับล็อต 2 คดี ‘ดิไอคอน’ ชี้คนในคลิปเสียงแจ้งความได้ แต่ถ้าพบว่าผิดโดนด้วย

ผบ.ตร.ยันอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานขยายผลจับผู้กระทำผิด คดี ‘ดิไอคอน’ ชุดที่ 2 คาดจะดำเนินการได้เร็ววันนี้ ฝากถึงบุคคลในคลิปเสียง มาแจ้งความได้แต่หากสืบสวนพบว่าทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อเรียกประชุมชุดทำงานคดีบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป โดยการประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมชุดทำงานชุดใหญ่

เพราะนอกจากจะมีพลตำรวจเอกอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ดูเรื่องคดีดิไอคอนกรุ๊ป ในประเด็นการขยายผลออกหมายจับผู้กระทำผิดล็อตที่ 2 แล้ว

ยังมีพลตำรวจตรีจรูญเกรียติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่รับผิดชอบในคดีคลิปเสียงเทวดา ของบอสพอล มาร่วมประชุมด้วยเช่นกัน

พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลตรวจสองเส้นทางการเงินและ วิเคราะห์บัญชีการเงิน รวมถึงการสอบสวนประเด็นอื่นๆ เพื่อดูว่าจะมีการแจ้งข้อหาอะไรเพิ่มเติมหรือเข้าข่ายว่าผิดอะไรอีกบ้าง

พร้อมกับตรวจค้น 11 จุด ซึ่งเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ตั้งแต่ระดับพนักงานและคนใกล้ชิดกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คน แต่ไม่ใช่กลุ่มญาติหรือภรรยาผู้ต้องหา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจค้น

ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้กระทำผิดเพิ่ม อยู่ระหว่างดำเนินการซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานจะดำเนินการได้

ส่วนกรณีคลิปเสียงที่มีการเผยแพร่ลักษณะมีการเรียกรับผลประโยชน์ อยู่ระหว่างการตรวจสอบขยายผล หาหลักฐานทั้งหมด ซึ่งรู้ตัวแล้วว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้างแต่ไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ แต่หากมีหลักฐานปรากฏว่าชัดเจนในการกระทำความผิดไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือประชาชน จะดำเนินคดีไม่ละเว้น แม้แต่เพียงรายเดียว ต่อให้เป็นตำรวจยศนายพันก็ตาม

ทั้งนี้หากบุคลคนที่อยู่ในคลิปเสียงจะออกมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้เผยแพร่คลิปเสียงได้ แต่หากพบว่าบุคคลดังกล่าวนั้นมีการกระทำความผิด ก็ต้องยอมรับในการที่จะต้องถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน

ส่วนกรณีที่มีบุคคลที่ปรากฏในคลิปเสียงหรือตัวย่อ ส. ออกมาแสดงตัวและยกกฎหมายดักฟังมาข่มขู่ แจ้งความดำเนินคดีกับผู้เผยแพร่คลิปเสียง ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ทาง ปปป. จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทุกคน และอยู่ระหว่างเร่งรัดในการเรียกเข้ามาสอบปากคำ ส่วนจะมีบุคคลที่ใหญ่กว่าบุคคลที่ปรากฏในคลิปเสียงหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ส่วนประเด็นที่ก่อนหน้านี้ ที่มีผู้มาให้ข้อมูลว่าทางบริษัทได้แปลงสกุลเงินคริปโตเป็นอิเธอร์เรียม อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และขอฝากถึงผู้หวังดีอยากให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความไขว้เขว และผู้ที่นำข้อมูลมาเผยแพร่ต้องรับผิดชอบด้วย หากข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จ

ส่วนภรรยาของกันต์ คือ คุณพลอย อัยดา กันตถาวร อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่แต่ยืนยันว่าขณะนี้อยู่ในประเทศไทยยังไม่เดินทางออกนอกประเทศแต่อย่างใด


https://youtu.be/kIGSpXj2TW0