สอบเส้นเงิน 'พระอุดร' หลัง 'บอสพอล' โอนหลักแสนเข้าบช.ส่วนตัว ลั่นไม่รู้ที่มาเงินไม่ได้ถามไม่ใช่กิจของสงฆ์

โซเชียลขุดบอสพอล พบโอนเงินทำบุญเข้าบัญชีส่วนตัวพระวัดดังฉ่ำ ครั้งละ 2-6 แสนบาท ขณะที่พระเจ้าของบัญชียอมรับ 'บอสพอล' โอนเงินทำบุญ ไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัว สำนักพุทธฯ เตรียมตรวจสอบเส้นเงิน นำไปใช้ทำบุญจริงหรือไม่

เพจอีซ้อขยี้ข่าว โพสต์ภาพสลิปการโอนเงิน ของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ที่โอนให้กับพระรูปหนึ่ง ระบุชื่อ "พระอุดร บุญชูหล้า" พร้อมระบุข้อความ "บอสพอลโอนเงินทำบุญเข้าบัญชีส่วนตัวให้พระแบบฉ่ำมาก ส่วนใหญ่จะโอนที 200,000 - 600,000 บาท บางเดือนโอนไป 2 - 3 รอบ ระยะเวลาไม่กี่ปี บิ๊กบอสพอลโอนเงินบริจาค รวมกว่า 12 ล้านบาท โดยอ้างว่าทำบุญวัดสว่างน้ำใส แต่ไม่รู้ทำไม ทั้ง ๆ ที่วัดก็มีบัญชีวัดอยู่แล้ว แต่มักโอนเข้าผ่านพระรูปนี้ตลอดเลย แว่ว ๆ มาว่า พอลค่อนข้างสนิทมากซะด้วย มักจะทำแต่ที่นี่ประจำ ลองตรวจสอบดูอาจเจออะไรดี ๆ ...บอสปัน ก็เอากะเขาด้วยนะ"

ต่อมาทีมข่าวตรวจสอบพบ พระมหาอุดร บุญชูหล้า เป็นพระวัดปากน้ำภาษีเจริญ กทม. แต่ขณะนี้เป็นช่วงออกพรรษา ได้เดินทางไปที่วัดสว่างน้ำใส อำเภอโนนศิลา จังหวัดขอนแก่น เพื่อมาดูแลแม่ที่อายุมาก

พระมหาอุดร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รู้จักกับบอสพอล เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดใน กทม. บอสพอลได้มาทำบุญที่วัดเรื่อย ๆ เป็นเหมือนญาติโยม ลูกศิษย์ทั่วไป ประเด็นที่บอสพอลโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวไม่โอนเข้าบัญชีวัดเพราะว่า จะได้นำไปทำบุญต่อได้สะดวกกว่าการใช้บัญชีวัด รวมถึงญาติโยมคนอื่น ๆ ก็โอนเงินทำบุญเข้าบัญชีส่วนตัวเช่นกัน

โดยเงินที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัวได้นำไปใช้ในกิจสงฆ์ทั้งสิ้น ไม่ได้นำไปใช้ส่วนตัว ก่อนหน้านี้ได้นำไปติดตั้งเสาไฟฟ้ารอบวัด ขุดเจาะบ่อบาดาล และก่อสร้างโบสถ์ ซึ่งการโอนเงินเข้าบัญชีนั้นไม่สามารถระบุได้ว่า รวมยอดแล้วบอสพอลโอนเงินเข้าบัญชีเท่าไหร่ เนื่องจากไม่ได้มีเฉพาะบอสพอล แต่มีเงินทำบุญของญาติโยมคนอื่น ๆ ด้วย

แต่ที่บอกว่าโอนเงินมาให้ปีละเป็นล้านนั้น ยืนยันว่าไม่ถึง มีเพียงช่วงหลังโควิดเมื่อปี 64 ที่ทำบุญเข้ามาประมาณครั้งละ 200,000 บ้าง 400,000 บ้าง 600,000 บ้าง ก็จะนำไปใช้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม และทุก ๆ อย่างในวัด ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นที่มีความพยายามโยงมาอาตมามีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ส่วนตัวจะไม่ทราบว่า บอสพอลทำธุรกิจอะไร เพราะพระจะไม่ยุ่งกับธุรกิจของชาวบ้าน ไม่ใช่กิจของสงฆ์ และพระจะไม่ถามเด็ดขาดว่าปัจจัยที่นำมาถวายนั้นบริสุทธิ์หรือไม่ เพราะเป็นเรื่องมารยาทและคุณธรรม

พระมหาอุดร บอกด้วยว่า ช่วงที่รู้จักบอสพอล ใหม่ ๆ เมื่อ 10 ปีก่อน ถือว่าไม่ได้รวย ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือยังจนอยู่ เป็นลูกศิษย์ที่นาน ๆ จะมาเจอกัน ไม่ได้เจอกันบ่อย ครั้งล่าสุดเจอกันเมื่อปีที่แล้ว ที่มาทอดกฐินที่วัดสว่างน้ำใส ซึ่งบอสพอล มาพร้อมกับคณะหลายคน ปีนี้ตอนแรกบอกว่าจะมา แต่เมื่อ 2-3 เดือนก่อนบอกว่าไม่สามารถมาได้แล้ว

ทีมข่าวสอบถามไปยัง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักพุทธฯ รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ให้เจ้าคณะปกครองจังหวัดขอนแก่น เพื่อเรียกตัวพระมหาอุดร เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นเงิน ว่านำเงินที่ได้ไปใช้ทำอะไรบ้าง นำไปทำบุญจริงหรือไม่

เพราะปกติแล้วโดยทั่วไป ผู้บริจาคจำนวนมาก ก็มีการโอนเงินทำบุญเข้าบัญชีส่วนตัวพระอยู่แล้ว แต่ถ้าเงินที่ได้มาไม่ชอบมาพากล หรือเป็นเงินไม่บริสุทธิ์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากเงินที่ทำบุญมา นำไปใช้ตามเจตนาของผู้บริจาคมาก็ไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนจะผิดกฎหมาย ในคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาดิไอคอนหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของ ปปง.ที่ต้องเข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ สิ่งที่เจ้าคณะปกครองสงฆ์สามารถทำได้ คือการเรียกมาสอบถามการนำเงินไปใช้เท่านั้น

https://youtu.be/l5tfOmEUx3M