'ทนายตั้ม' เตรียมเปิดโปง 'นักการเมือง ส.' รับเงินบอสพอล ลั่นมีหลักฐานเด็ดกว่ากล้องวงจรปิด

ทนายตั้มร้อง DSI เอาผิดนักการเมืองที่ปรากฎในคลิปเสียงรับเงินจาก "บอสพอล" พร้อมพาเหยื่อแชร์ลูกโซ่น้ำมันหอมระเหย แฉพฤติกรรมนักการเมืองคนนี้ บอกถ้าเลือกพรรคเขาจนได้เป็นรัฐบาลจะช่วยแก้ปัญหาให้

ราว 10 โมงเช้าที่ผ่านมา (21ต.ค.67) ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เดินทางมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI เพื่อยื่นหนังสือถึงพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ดำเนินคดีฟอกเงินกับนาย ส. นักการเมืองคนหนึ่ง จากกรณีที่ปรากฎคลิปเสียงเรียกรับเงินจากบอสพอล The Icon Group โดยมี พันตำรวจรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ

ทนายตั้ม บอกว่า ขอให้ DSI ตรวจสอบคลิปเสียงและดำเนินคดีฟอกเงินกับนักการเมืองคนนี้ พร้อมนำพยานหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นคลิปเสียง ภาพถ่าย คลิปที่ออกรายการ เอกสารการโอนเงิน รวมทั้งมีพยานบุคคล 1 รายที่เป็นบุคคลใกล้ชิดกับนักการเมืองคนนี้มามอบให้ DSI พร้อมขอให้ DSI คุ้มครองพยานคนนี้ เพราะเกรงในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากพยานบุคคลรายนี้เคยถูกทำร้ายร่างกายมาก่อน

ในวันนี้ทนายตั้มบอกว่า ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของพยานหลักฐานได้ เพราะเป็นเรื่องในสำนวนคดี แต่ยืนยันว่า มีหลักฐานที่เป็นเส้นทางการเงินที่สามารถมัดตัวนักการเมืองคนนี้ได้แน่นอน และยังมีข้อมูลด้วยว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ประมาณ 2 ทุ่ม นักการเมืองคนนี้ได้นัดพบกับบอสปีเตอร์ที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ช่วยเหลือ หลังจากที่บริษัท The Icon Group กำลังถูกเปิดโปง ซึ่งมีพยานหลักฐานจากร้านดังกล่าวชัดเจน แต่ยังอุบเงียบไว้ก่อน และหลักฐานที่มียืนยันได้ว่า "เด็ดกว่ากล้องวงจรปิด" ในร้านแน่นอน

นอกจากนี้ ทนายตั้มยังได้พากลุ่มผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่ที่เคยถูกนักการเมืองคนนี้ อ้างว่า จะช่วยเหลือทางคดีแชร์ลูกโซ่ให้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีการช่วยเหลือ มาร้องเรียนและให้ข้อมูลกับ DSI ด้วย โดยกลุ่มผู้เสียหาย เปิดเผยว่า พวกเขาได้รับความเสียหายจากบริษัทใช้ลูกโซ่เกี่ยวกับน้ำมันหอมระเหย ตั้งแต่ปี 2555 รวมผู้เสียหาย 400 กว่าคน ความเสียหายมูลค่ารวมกว่าพันล้านกว่าบาท ซึ่งก่อนหน้านี้เคยร้องเรียนกับนักการเมืองคนนี้ เพราะขณะนั้นเขาเป็นประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย และอ้างว่า จะช่วยเหลือทางคดีให้ และพาไปร้องเรียนกับศูนย์รับร้องทุกข์สำนักนายกรัฐมนตรีอยู่หลายครั้ง แต่คดีไม่มีความคืบหน้า

และในการเลือกตั้งปี 2566 นักการเมืองคนนี้ยังมาบอกกับพวกเขาด้วยว่า ให้เลือกพรรคการเมืองที่เขาสังกัด โดยรับปากว่า หากหัวหน้าพรรคได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้ แต่สุดท้ายพรรคดังกล่าวก็ไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แล้วคดีนี้ก็เงียบหายไปเข้ากลีบเมฆ

พันตำรวจตรี วรณัน กล่าวว่า หลังจากนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับไปดำเนินการโดยเร็วที่สุด ส่วนจะเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ต้องดูข้อเท็จจริงต่อไป สำหรับในส่วนของคดี The Icon Group ยังอยู่ในระหว่างการประสานข้อมูลกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากเข้าเงื่อนไขก็จะรับเป็นคดีพิเศษต่อไป

นอกจากนี้ทนายตั้มยังเปิดใจเคลียร์ปมกรณีที่ถูกสำนักข่าวแห่งหนึ่งพาดพิงว่า "ทนายแบรนด์เนมเคยร่วมงาน กับ The Icon รวมทั้งพาดพิงถึงทนายคนอื่น ๆ ว่าช่วยเหลือบอสพอล" ยืนยันว่า ไม่จริง ทีมทนายความทุกคนพร้อมเสียสละออกมาช่วยคดีนี้ และเขาเป็นคนแรกๆ ที่ออกมาแจ้งความบอสพอล ซึ่งในเรื่องนี้ ทนายตั้มจะฟ้องเอาผิดกับนักข่าวผู้ผลิตสกู๊ปนี้และผู้บริหารของสำนักข่าวนี้ ถึงแม้ภายหลังจะมีการแก้ไขข่าว แต่ก็ทำให้สังคมเข้าใจผิดไปแล้ว ว่าเขาเป็นพวกเดียวกับ The Icon Group

ส่วนเพจโซเชียลกล่าวหาว่า เขาเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาให้เพจเหล่านั้นนำพยานหลักฐานมาเปิดเผยได้เลย หากไม่มีหลักฐานจะฟ้องให้ถึงที่สุด

https://youtu.be/6Iq9GiKawUc