‘หนุ่มหมอลำซิ่ง’ สารภาพฆ่าชิงเงิน ‘2 นายฮ้อย’ อ้างเป็นหนี้แก๊งค้ายาไม่อยากปล้นธนาคาร

เตรียมทำแผน “นายยอด” นักร้องหมอลำ ลวงนายฮ้อย 2 พ่อลูก ไปฆ่าชิงเงินทิ้งศพหมกท้ายรถกระบะ สุดเนียนทำทีไปดูที่เกิดเหตุ ตำรวจเห็นพิรุธพาเค้นสอบทั้งคืน ก่อนสารภาพหวังนำเงินไปใช้หนี้แก๊งค้ายา ฆ่าเพราะไม่อยากปล้นธนาคาร

เมื่อช่วงเช้าวานนี้มีชาวบ้านไปพบศพ นายเหรียญ อายุ 62 ปี และนายปิยพงษ์ อายุ 32 ปี ทั้งคู่เป็นพ่อลูกกัน และเป็นพ่อค้าขายวัว ถูกทิ้งอยู่ท้ายรถกระบะ จอดทิ้งอยู่ที่ทุ่งนาบริเวณบ้านโนนสวรรค์ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงแจ้งตำรวจ สภ.ยางตลาด ไปตรวจสอบ

พบศพของพ่อ มีบาดแผลถูกปืนไม่ทราบขนาด ยิงเข้าที่บริเวณชายโครงด้านซ้าย 1 นัด นอนคว่ำหน้าทับศพลูกชาย ส่วนศพของลูกชาย พบว่า ที่ศีรษะถูกของแข็งตีอย่างแรงจนบวม มีเลือดออกตา ที่ลำคอพบรอยเชือกรัด และมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ใต้รักแร้ซ้าย 1 นัด ตรวจสอบทรัพย์สิน พบเงินสดอยู่ในกระเป๋าลูกชาย 11,714 บาท และกระเป๋าของพ่อ 1,913 บาท ส่วนเงินสดประมาณ 1 แสนบาท ที่ได้จากการขายวัว และสร้อยคอทองคำ 1 บาทหายไป และท้ายกระบะยังวัวยืนอยู่ 1 ตัว

โดยที่ป่าละเมาะห่างจากจุดพบศพ 500 เมตร ซึ่งเป็นเขตพื้นที่อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 2 ปลอก และมีเชือก กระดุมเสื้อ และคราบเลือดอยู่ตามพื้นดินหลายจุด คาดว่า น่าจะเป็นจุดที่คนร้ายฆ่าทั้ง 2 คน แล้วนำศพข้ามจังหวัด ไปยัดไว้ท้ายรถกระบะ

ด้านนางสาวลลิตตา ภรรยาผู้เสียชีวิต บอกว่า คนตายเป็นสามี และพ่อสามี ทั้งสองมีอาชีพเป็นนายฮ้อย ตระเวนรับซื้อวัวในตลาดนัดโคกระบือหลายจังหวัดในภาคอีสาน ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าประมาณตี 3 ของวันที่ 18 กันยายน ได้ออกไปซื้อขายวัว ที่ตลาดนัดบ้านหัน จ.มหาสารคาม ตามปกติ ตอนเช้ายังคุยกันอยู่ กระทั่ง 9 โมง โทรไปไม่รับสาย ก่อนจะปิดเครื่องไป เสียใจมากที่ต้องมาสูญเสียทั้ง 2 คนไปพร้อมกัน

ทั้งนี้ระหว่างตำรวจกำลังเก็บหลักฐาน มีชายคนหนึ่ง ชื่อ นายชลที หรือ ยอด อายุ 21 ปี เป็นนายฮ้อยด้วยกัน เป็นอดีตนักร้องหมอลำ และอยู่บ้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ทำตัวมีพิรุธเดินไปเดินมา พยายามพูดคุยกับชาวบ้าน กับตำรวจ และญาติผู้เสียชีวิต พูดจาในลักษณะแก้ตัวว่า รู้จักกับคนตายมากว่า 3 ปี ชื่นชมเพราะอัธยาศัยดี วันเกิดเหตุอยู่ด้วยกันที่ตลาดนัดโคกระบือ จากนั้นนัดกันมาดูวัวที่เลี้ยงไว้ ก่อนจะแยกย้ายกันไป ไม่รู้ว่าไปไหน ก็ช่วยญาติ ๆ ตามหา กระทั่งมาพบว่า ถูกฆ่าตาย ไปดูบรรยากาศที่นายยอดคุยกับตำรวจ

ตำรวจจึงสงสัยนายยอด เพราะอยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย ก่อนคนหายตัวไป จึงคุมตัวมาเค้นสอบนานกว่า 5 ชั่วโมง ก่อนยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ล่อลวง 2 พ่อลูก มาให้เพื่อน 5-6 คน ฆ่า ก่อนชิงเอาเงินไป 1 แสนบาท และสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท แล้วยังอ้างว่า ตนเองเป็นหนี้กลุ่มแก๊งยาเสพติด 3 หมื่นบาท แล้วขู่ฆ่า บังคับให้ไปปล้นธนาคารมาใช้หนี้ แต่ตนเองทำไม่ได้ จึงเลือกวิธีนี้ วันเกิดเหตุเจอ 2 พ่อลูกที่ตลาดนัดโค-กระบือจริง เห็นทั้ง 2 คน มีเงินติดตัว ประมาณ 100,000 บาท จึงวางแผนหลอกมาฆ่า แล้วนำทรัพย์สินแบ่งกัน ตนได้เงิน 7,000 บาท ก่อนจะพากันแยกกันไป ซึ่งตนกลับไปบ้านแฟนสาวที่มหาสารคาม จากนั้นญาติผู้เสียชีวิตโทรหา จึงออกมาช่วยตามหาทั้ง 2 คน กระทั่งถูกจับ

แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด จึงเค้นสอบนายยอดตลอดทั้งคืน เช้านี้นายยอดสารภาพหมดเปลือกว่า ลงมือฆ่า 2 พ่อลูกเพียงคนเดียว ไม่มีเพื่อนร่วมขบวนการ เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ 3 หมื่นบาท แล้วนำปืนไปโยนทิ้งสระน้ำหมู่บ้าน จากนั้นเอาเงินสด 30,000 บาท ไปใช้หนี้ และนำสร้อยคอทองคำไปฝากไว้กับภรรยาที่ร้อยเอ็ด ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอตัวนายยอด ตอนที่ตำรวจคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่ม ได้พยายามสอบถามว่า อยากขอโทษอะไรไหม ทำไปเพื่ออะไร แต่นายยอดไม่ตอบ ไปดูบรรยากาศช่วงนี้

ด้านพลตำรวจตรี ตรีวิทย์ ศรีประภา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เผยว่า ผู้ต้องหายอมรับแล้วว่า ลงมือคนเดียว หลังล่อลวงทั้งคู่มา เมื่อได้จังหวะทีเผลอ จึงยิงลูกก่อน พอพ่อจะวิ่งหนีก็ยิงพ่ออีกคน เบื้องต้นตำรวจ แจ้ง 5 ข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนเป็นเหตุผู้ถึงแก่ความตาย มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และเคลื่อนย้ายเพื่อปิดบังซ่อนเร้นศพ หลังสอบปากคำเสร็จ ตำรวจจะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนส่งฝากขังพรุ่งนี้

https://youtu.be/9vrnxdt5V3g