รปภ.เลือดขึ้นหน้าแทงลูกบ้านตายปมตั้งกรวยหน้าบ้าน ค้นประวัติเพิ่งพ้นโทษฆ่าคน

สุดสลด รปภ.แทงลูกบ้านเสียชีวิต ถกเถียงปมตั้งกรวยหน้าบ้าน ค้นประวัติเพิ่งพ้นโทษฆ่าคนตายเมื่อปี 2562 เจ้าตัวสารภาพดื่มสุราก่อนก่อเหตุ ตำรวจเตรียมนำตัวฝากขัง

ภาพจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านที่จับภาพวินาทีที่ นายสมเดช อายุ 56 ปี ซึ่งเป็น รปภ.ของหมู่บ้าน ใช้มีดแทงไปที่ร่างของ นางผกากรอง อายุ 55 ปี ซึ่ง นางผกากรอง พยายามป้องกันตัวด้วยการใช้ไม้ตีและหนีออกมา แต่ถูก นายสมเดช ดึงกระเป๋าเอาไว้ พอ นางผกากรอง เสียหลักล้ม นายสมเดช ก็กระหน่ำแทงโดยไม่ยั้ง ในกล้องจะได้ยินเสียงร้องของ นางผกากรอง ร้องด้วยความเจ็บปวด จนมีชาวบ้านเดินมาแยก นายสมเดช ออกไป

ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม จะเห็นตั้งแต่ นางผกากรอง สวมเสื้อแขนกุด กางเกงสีเขียว มือขวาถือร่ม เดินมาพร้อมกับหญิงสูงอายุคนหนึ่งที่นั่งรถเข็น โดยมีผู้หญิงอีกคนเป็นคนเข็นวีลแชร์ เดินไปยังบ้านหลังหนึ่ง ที่อยู่ภายในซอยพุทธมณฑลสายสอง 21/1 ย่านบางแคเหนือ จังหวะที่เดินมาถึงหน้าบ้าน นายสมเดช ก็เดินปรี่เข้ามาหา นางผกากรอง แล้วใช้มีดกระหน่ำแทงเธอทันที ทั้งที่ยังมีคนอยู่ตรงนั้น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเย็นวานนี้ (29ส.ค.67) ซึ่งพอ นายสมเดช ได้สติ ก็ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ สน.ธรรมศาลา

ช่วงเช้าวันนี้ ทีมข่าวอาชญากรรมลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ยังพบร่องรอยคราบเลือดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ และมีสิ่งของของผู้ตาย ได้แก่ ร่มและกิ๊บติดผมที่เปื้อนเลือดตกอยู่ตรง

ทีมข่าวได้คุยกับนายจ้างของผู้ตาย บอกว่า ชนวนเหตุได้มาจากเรื่องการตั้งกรวยหน้าบ้าน เพราะสำนักงานเขตทวีวัฒนาได้มาราดยางมะตอยซ่อมผิวถนนบริเวณหน้าบ้านตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา แล้วเอากรวยมาตั้งหน้าบ้านไว้ เพื่อไม่ให้รถสัญจรผ่านไปมา แต่เมื่อวานนี้กรวยหายไป นาง ผกากรอง เลยเอากรวยมาวางใหม่ เพราะกลัวว่ายางมะตอยอาจจะยังไม่แห้ง โดยนาง ผกากรอง ได้ไปคุยกับรปภ.ที่ป้อม ถามหากรวยที่หายไป จึงทราบว่า รปภ.เป็นคนเอากรวยออก เพราะมีลูกบ้านร้องเรียนว่า เป็นการตั้งกรวยกีดขวางการจราจร ทำให้มีปากเสียงกันเล็กน้อย แต่ก็เคลียร์กันจบไปแล้ว

แต่ก่อนหน้านี้เมื่อหลายเดือนก่อน นางผกากรอง เคยมีเรื่องทะเลาะกับ รปภ.ที่ก่อเหตุมาก่อน แต่ก็รู้ว่าเคลียร์ปัญหาจบไปแล้วเช่นกัน และเมื่อวานนี้ก็ไม่ใช่เวรของ รปภ. ที่ก่อเหตุด้วย เลยไม่รู้ว่าชนวนเหตุครั้งนี้มาจากเรื่องอะไร เพราะตอนเกิดเหตุไม่ได้อยู่ด้วย และตอนที่ผู้ก่อเหตุแทงผู้ตาย คนแม่ได้เข็นรถวีลแชร์คุณยายห่างออกมาไกลพอสมควรแล้ว ทำให้ไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

หนึ่งในลูกบ้านที่อยู่ในจุดเกิดเหตุและช่วยห้าม คือ นาย กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เล่าว่า ได้ยินเสียงกรีดร้องของผู้หญิง และชาวบ้านที่ตะโกนด่า เลยวิ่งออกมาดู เห็นว่าตัวผู้ก่อเหตุกำลังใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียชีวิต และมีชาวบ้านมาห้ามเอาไว้แล้ว ตอนนั้นผู้ก่อเหตุยังอยู่ในอารมณ์โกรธ มีลักษณะคล้ายคนเมา ถืออาวุธมีดเอาไว้ จึงเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธมีดลง หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็โยนมีดลง แล้วเรียกให้มาพูดคุยกันระหว่างรอตำรวจมาจับกุม ซึ่งผู้ก่อเหตุยังคงมีอารมณ์โกรธและพูดบ่นประมาณว่า ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ต้องมาแบกรับความเครียดและปัญหาของหมู่บ้าน ไม่มีใครพูดจาดีกับเขา ซึ่งตอนนั้นไม่กล้าที่จะสอบถามว่าเหตุใดถึงได้ลงมือฆาตกรรม เพราะกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะมีอารมณ์ขึ้นและก่อเหตุซ้ำ

ส่วนที่ สน.ธรรมศาลา ตำรวจได้ควบคุมตัวนาย สมเดช ออกมาจากห้องควบคุมตัว เพื่อพิมพ์ลายนิ้วมือ จากการสังเกตสีหน้าของผู้ต้องหา พบว่ามีอาการสลดและกังวลพอสมควร เมื่อสอบถามถึงปมชนวนสาเหตุและอยากขอโทษกับครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือไม่ ปรากฏว่า ผู้ต้องหามีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ตอบคำถามใด ๆ เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า อาวุธมีดนั้นเป็นการพกพาตามหน้าที่ รปภ.หรือไม่ ผู้ต้องหาตอบเพียงแค่ว่า "ครับ" แล้วหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็ควบคุมตัวเข้าห้องผู้ต้องขังไป

สำหรับประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหานั้น พบว่าเคยต้องโทษคดีพยายามฆ่าเมื่อปี 2555 และได้รับการพ้นโทษเมื่อปี 2562 ซึ่งผู้ก่อเหตุนี้ยอมรับสารภาพและรับว่าได้ดื่มสุรากว่าก่อนก่อเหตุจริง จะนำตัวส่งฝากขังต่อศาลอาญาตลิ่งชันในวันพรุ่งนี้

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/P_gCqZ87MCs