ตร.ประจวบฯ ชี้แจง 4 ข้อเท็จจริงเหตุ 'จ่าพั้นช์' ถูกยิงดับ ยืนยันไม่มีตำรวจเป็นหุ้นส่วนผับ

ตำรวจประจวบคีรีขันธ์ ออกแถลงการณ์ ชี้แจงเหตุที่เกิดขึ้น 4 ข้อ เหตุการณ์ 'จ่าพั้นช์' ถูกยิงดับกลางผับ พร้อมยืนยันไม่มีตำรวจเป็นหุ้นส่วนผับ

ตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกหนังสือชี้แจง 4 ข้อคือ

ข้อ 1. เวลาเปิดบริการของร้านที่ให้บริการถึง 04.00 น. ได้อย่างไร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกตรวจปิดสถานบริการในพื้นที่รับผิดชอบตามเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยร้านที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปจำนวน 2 ครั้ง เวลา 00.10 น. และ 00.30 น. และได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเห็นได้ว่าสถานที่ดังกล่าวปิดให้บริการไปแล้ว และได้แจ้งผลการปฏิบัติการ ปิดสถานบริการทั้งพื้นที่รับผิดชอบให้ศูนย์วิทยุทราบ

จากนั้น ได้ออกไปรวมกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตามแผนการตรวจ ช่วงเวลา 01.30 น. - 03.30 น. ที่บริเวณปากชอย 36/1 ถนนเพชรเกษม ตำบลหัวหิน อำเภอหัวหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และได้มีผลการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติดของกลางจำนวน 16 เม็ด จากการตั้งจุดตรวจ แล้วนำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง มาทำบันทึกที่สถานีตำรวจภูธธรหัวหิน

ระหว่างทำบันทึก ได้รับแจ้งว่ามีเหตุใช้อาวุธปืนยิงที่ร้านดังกล่าว จึงเร่งรัดออกไปตรวจสอบและรักษาสถานที่เกิดเหตุ จึงทราบว่าภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปจากร้าน เวลา 00.30 น. ผู้ดูแลร้านได้ลักลอบเปิดให้บริการต่อ

เมื่อปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุพร้อมตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานต่างๆ เสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่จึงได้ร้องทุกข์กข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดี กับร้านดังกล่าว ตาม พรบ.สถานบริการฯ และ พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมนำตัวผู้ดูแลร้านส่งฟ้องศาล จังหวัดหัวหิน และเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขอให้มีคำสังปิดสถานที่ดังกล่าว 5 ปี

ข้อ 2. กรณีที่ว่าร้านดังกล่าวเป็นของตำรวจหรือไม่นั้น ได้สอบสวนและบันทึกปากคำเจ้าของร้านที่เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้มีชื่อในสัญญาเช่า, ในใบขอใช้ไฟฟ้า และในใบขออนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว พบว่าเจ้าของร้านเป็นนักธุรกิจ ทำธุรกิจหลายอย่างในพื้นพื้นที่ จังหวัดสมุทรสาคร และบริเวณใกล้เคียง

สนใจอยากทำธุรกิจในหัวหิน จึงมาเปิดร้าน แต่เจ้าของไม่มีเวลาดูแลร้านเต็มเวลา จึงมอบหมายให้ผู้จัดการร้านเป็นผู้ดูแล บริหารจัดการ ซึ่งเจ้าของร้านและผู้ดูแลร้าน ไม่ได้เป็นตำรวจ สภ.หัวหิน หรือมีญาติเป็นตำรวจ สภ.หัวหิน แต่อย่างใด

ข้อ 3. ในภาพข่าวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนคุมบุคคลภายนอกถอดกล้องวงจรปิด คือ ภาพที่ เมื่อพนักงานสอบสวนถึงสถานที่เกิดเหตุ ได้สั่งการให้ผู้ดูแลร้านถอดเมมโมรี่การ์ดของกล้องวงจรปิด เพื่อนำมาเป็นหลักฐานประกอบสำนวนการสอบสวน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเป็นผู้ยืนควบคุม หลังจากถอดแล้วก็นำลงมามอบให้พนักงานสอบสวนโดยทันที และปัจจุบันเมมโมรี่การ์ดดังกล่าว ได้นำส่งกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจสอบต่อไปแล้ว

ข้อ 4. เพราะเหตุใดกรณีมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ ในกรณีนี้ มีการชี้แจงว่า สถานีตำรวจภูธรหัวหินได้รับแจ้งความไว้แล้วตั้งแต่หลังเกิดเหตุโดยทันที มีผู้เสียชีวิต, ผู้บาดเจ็บที่ 1 (รักษาตัวที่โรงพยาบาล), ผู้บาดเจ็บที่ 2 (รักษาตัวที่โรงพยาบาล), ส่วนผู้บาดเจ็บที่ 3 เป็นผู้กล่าวหา กับ ผู้ก่อเหตุ เป็นผู้ต้องหา ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,พยายามฆ่าผู้อื่นฯ และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ต่อมาได้ควบคุมผู้ต้องหาพร้อมด้วยอาวุธปืนของกลาง และจากนั้นได้นำตัวตัวผู้ต้องหาไปฝากขังต่อศาลจังหวัดหัวหิน และได้คัดค้านการประกันตัวในข้อหาข้างต้น

ภายหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้ไปโรงพยาบาล สอบถามอาการคนเจ็บทั้งสองรายแล้ว แพทย์แจ้งว่ายังรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU ไม่สามารถบันทึกคำให้การได้ และได้สอบถามติตตามอาการมาโดยตลอดจนทราบว่าสามารถที่จะให้การได้ ดังนั้นในวันที่ 21 สิงหาคม 2567 พนักงานสอบสวนจึงได้ทำการสอบสวนบันทึกปากคำคนเจ็บทั้งสองคนในฐานะผู้เสียหายไว้แล้ว

https://youtu.be/f7o49QHjxSk