แก๊งโหดบ้านโป่ง อุ้มลูกน้องซ้อมกระทืบ ถ่ายคลิปโพสต์เย้ย กม. โมโหเก็บเงินกู้ไม่ได้ ขู่เคยฆ่าคนไม่ติดคุก

วัยรุ่นบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อุ้ม-ซ้อม ขู่ว่าเคยยิงคนตายมาแล้วไม่ติดคุก แถมถ่ายคลิปโพสต์ลงโซเชียลเย้ยกฎหมาย

เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ return part 6 โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ใครเคยถูกอุ้มตื้บมาแสดงตัวได้เลยไม่ต้องกลัวว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม...ราชบุรี โดยเนื้อหาใจข้อความสรุปได้ว่า แม่ของผู้เสียหายซึ่งเป็นวัยรุ่นในพื้นที่บ้านโป่ง มาร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากลูกชายถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มไปซ้อมกระทืบและถ่ายคลิปลงโซเชียลเย้ยกฎหมาย

ทางฝั่งผู้เสียหายเกรงกลัวต่ออิทธิพลของกลุ่มบุคคลนี้ เนื่องจากมีพฤติกรรมโหด จนคนในพื้นที่เกิดความหวาดกลัวและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชอบอุ้มคนไปซ้อมและจะพูดให้ผู้เสียหายหลายคนกลัวว่า พวกตัวเองเคยยิงคนฆ่าคนมาแล้วไม่ติดคุก จึงทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัวจนไม่กล้าออกไปจากบ้านแม้แต่จะไปแจ้งความและยังถูกคุกคามข่มขู่อย่างต่อเนื่อง

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณนฤชา กมุทโยธิน ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับผู้บาดเจ็บ โดย หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 29 ปี บอกว่า ตนรู้จักกับนายเก็ทและนายกอล์ฟ สองพี่น้องที่เป็นคนลงมือทำร้ายตนเพราะว่าเป็นวัยรุ่นในพื้นที่บ้านโป่งด้วยกัน ซึ่งตนเคยคบหากันในฐานะรุ่นพี่ รุ่นน้อง ต่อมานายเก็ทและนายกอล์ฟ จึงชักชวนตนให้มาทำงานเก็บเงินกู้นอกระบบ บอกว่าแค่เก็บเงินเฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไรมาก

ตนกับเพื่อนจึงไปทำงานเก็บเงินกู้ ทำอยู่นานเป็นปีตอนแรก ๆ แค่เก็บดอกเบี้ยจากลูกหนี้ตามปกติ แต่ระยะหลังพอเก็บได้ไม่ครบตามยอดก็จะถูกทุบตีทำร้ายร่างกาย ซึ่งแต่ละวัน ต้องไปเก็บดอกรายวันจากลูกหนี้ประมาณ 30-40 คนต่อวัน คนละประมาณ 100 บาทถึง 400 บาท

โดยเก็ทและกอล์ฟ จะปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2 บาท ต่อวัน หรือ ร้อยละ 60 ต่อเดือน ยอดดอกเบี้ยที่ตนต้องรับผิดชอบไปเก็บจากลูกหนี้ทั้งหมดประมาณ 10,000 บาทต่อวัน บางวันลูกหนี้จ่ายมาไม่ครบหรือตนเองนำเงินของลูกค้าไปใช้ก่อน แต่ก็นำมาจ่ายคืนให้ พอนายเก็ตและนายกอล์ฟรู้ ก็จะเกิดความไม่พอใจและลงมือทุบตีทำร้ายตนกับเพื่อนอยู่เป็นประจำ

หนึ่งบอกว่ามีบ้างครั้ง เพื่อนของตนเคยโดนเตะจนสลบคาเท้า กอล์ฟก็ยังกระทืบต่อไม่พาไปส่งโรงพยาบาลปล่อยให้ฟื้นเอง หลังจากฟื้นขึ้นมาก็จะบังคับให้ไปเก็บเงินต่อ ส่วนตนพยายามที่จะแยกตัวออกมา และเลิกทำงานนี้แต่ก็ถูกตามมาคุกคามข่มขู่ถึงที่บ้าน

จนตนเองต้องหลบหนีไปอาศัยอยู่ที่อื่นและไม่กล้าแจ้งความเนื่องจาก เก็ทและกอล์ฟค่อนข้างมีอิทธิพลในพื้นที่ทำงานปล่อยเงินกู้มานานเป็นปีไม่มีใครทำอะไรได้ และทั้งคู่ยังเคยพูดคุยด้วยว่าเคยสั่งให้ลูกน้องไปยิงคนตาย ก็ยังไม่ถูกจับ ตนจึงกลัวว่าถ้าไปแจ้งความกับตำรวจแล้วจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ขณะที่นางสาวดวงตา (นามสมมุติ) แม่ของนายหนึ่ง บอกว่า ตนไม่เคยทราบมาก่อนว่าลูกชายไปทำงานกับแก๊งเงินกู้นอกระบบ และไม่เคยรู้มาก่อนด้วยว่า ลูกชายถูกทำร้ายร่างกายจนกระทั่งรอบล่าสุด ลูกชายถูกซ้อมจนเข้าโรงพยาบาล

ตนจึงได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด และแก๊งเงินกู้นอกระบบที่ลูกชายไปทำงานด้วย เคยตามมาถึงที่บ้านหลายครั้ง พูดจามึงกู ถามหาลูกชายตน พอตนปฏิเสธไปว่า ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็เจอพูดข่มขู่อีกด้วยว่า "เวลามึงขับรถให้ระวังตัวนะ" ตนจึงกังวลเรื่องความปลอดภัยและต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ให้ถึงที่สุด

ด้านคุณเพชร จิตอาสา ที่เข้ามาดูแลและช่วยเหลือเรื่องนี้ ได้ประสานไปยังพลตำรวจตรีประสพชัย มัตสยะวนิชชกุล บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และได้พาตำรวจ สภ.บ้านโป่งพร้อมด้วยชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่มาที่บ้านของนายหนึ่งผู้เสียหายเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในเบื้องต้นแล้ว และพาหนึ่งเข้าแจ้งความที่สภ.บ้านโป่ง

https://youtu.be/lszqTvAxuI0