พ่อคาใจ 13 โจ๋บุกฟันลูกชายคดีเงียบ หวั่นมีลูกหลานตำรวจร่วมแก๊ง หลังผ่าน 1 เดือนคดีไม่คืบ

พ่อยังคาใจ กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุฟันลูกชายมอบตัวแค่คนเดียว ทั้งที่ก่อเหตุถึง 13 คน พร้อมเปิดหลักฐานใหม่เป็นคลิปเสียงที่หัวโจก ไลฟ์สดเมื่อคืนนี้ยังพุดคุยเล่นกันอย่างสนุกสนานโดยไม่มีท่าทีสลด

จากเหตุการณ์ที่กลุ่มวัยรุ่น 5 คน ซึ่งมีนายไอซ์ อายุ 19 ปี เป็นหัวโจก บุกเข้าไปใช้มีดฟันนายนัท อายุ 20 ปี ซึ่งนั่งอยู่กับเพื่อนภายในบ้าน โดยนายนัท ถูกรุมฟันหลายแห่งตามร่างกายต้องเย็บถึง 50 เข็ม ที่สำคัญคือที่หัวถูกฟันจนกะโหลกแตก ต้องเอ็กซเรย์สมอง จมูกถูกฟันจนฉีก ทั้งที่นายนัทและเพื่อนไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องกับผู้ก่อเหตุมาก่อน

ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายไอซ์ ยังได้ตะโกนถามหานายเต๋อ ราชวัติ หรือ นายเต๋อ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ในหมู่บ้านของนายนัทด้วย เพราะชนวนเหตุทั้งหมดมาจากที่กลุ่มของนายไอซ์ ต้องการมาตามล่าตัวนายเต๋อ เพราะนายเต๋อ เคยมีปัญหากับกลุ่มของนายไอซ์จึงต้องการมาแก้แค้น แต่ปรากฎว่าไม่เจอตัวนายเต๋อจึงมาทำร้ายนายนัทกับเพื่อนแทน

โดยนอกจากนายนัทจะได้ถูกฟันได้รับบาดเจ็บแล้ว ยังมีนายอาร์ม ซึ่งเป็นเพื่อนของนายนัทถูกฟันได้รับบาดเจ็บด้วยอีก 1 คน

ขณะที่เมื่อวานนี้นายนัทและพ่อ ได้มาขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองเประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากคดีเกิดขึั้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผานมา แต่ผ่านมานานกว่า 1 เดือนแล้วคดีไม่คืบหน้า ยังไม่มีการจับกุมผู้ก่อเหตุแม้แต่คนเดียว

ที่สำคัญก่อนหน้านี้ตำรวจ สภ.วานรนิวาส ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีได้ประสานมาเพื่อให้พ่อของผู้บาดเจ็บไกล่เกลี่ย โดยเสนอเงินให้ 1 แสนบาทแลกกับการไม่ดำเนินคดี รวมถึงจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุขี่มอเตอร์ไซด์มา 6 คัน รวมประมาณ 13 คน แต่ตำรวจกลับบอกว่ามีผู้กระทำผิดเพียง 8 คน ส่วนที่เหลืออีก 5 คนไม่สามารถดำเนินคดีได้เพราะผู้กระทำผิดไม่ซัดทอด

จึงทำให้พ่อของผู้บาดเจ็บตั้งคำถามถึงการทำงานของตำรวจว่าล่าช้าไปหรือไม่ มีการช่วยเหลือกันหรือไม่ โดยเฉพาะอีก 5 คนไม่ถูกดำเนินคดี เพราะอาจเป็นลูกหลานของตำรวจ

ล่าสุดพ่อของผู้บาดเจ็บ ได้เปิดใจกับทีมข่าวช่อง 3 หลังมีกระแสข่าวว่านายไอซ์ ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจวันนี้ โดยบอกว่าไม่ผิดจากที่ตนคาดการณ์ไว้ เพราะนายไอซ์หลังก่อเหตุได้หนีไปที่จังหวัดนครราชสีมา แต่หลังจากนั้นก็กลับเข้ามาในพื้นที่เพื่อมาเจรจราขอจบคดี ก็คือวันที่นัดทนายความของตนไปเจรจาเพื่อเสนอเงิน 1 แสนบาท แต่ตนไม่ยอม และหลังจากนั้นนายไอซ์ ก็ยังวนเวียนอยู่ในพื้นที่ไม่ได้หลบหนีไปไหน

โดยหลังจากที่เมื่อวานตนมาร้องเพจสายไหมต้องรอด เชื่อว่านายไอซ์ได้ดูข่าวจึงตัดสินใจมามอบตัว และรู้ว่าน่าจะได้ประกันตัวหรือถูกปล่อยตัวถึงกล้ามามอบตัวกับตำรวจ

ซึ่งตนขอถามตำรวจว่านอกจากนายไอซ์แล้ว ตำรวจจะดำเนินคดีกับใครเพิ่มหรือไม่ เพราะหลักฐานจากภาพวงจรปิดก็ชัดเจนว่ามีผู้ก่อเหตุถึง 13 คน ซึ่งตนขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ไม่มีการยอมความอย่างแน่นอน

ล่าสุดทีมข่าวอาชญากรรมได้หลักฐานสำคัญ เป็นคลิปเสียง ที่ถูกระบุว่าเป็นคลิปเสียงของนายไอซ์ คุยกับเพื่อน โดยมีพลเมืองดีอัดเสียงไว้ ระหว่างที่นายไอซ์ ได้ไลฟ์สดทางไอจีเมื่อคืนนี้

โดยในคลิปพูดในทำนองหยอกล้อกันว่า นายไอซ์ เป็นหัวโจกของกลุ่ม ตอนนี้ดังแล้วข่าวออกหลายช่อง และยังมีการพูดถึงนายเต๋อ ที่ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวช่อง 3 ในประเด็นที่นายเต๋อบอกว่าอยู่บ้านทุกวัน หากมีอะไรก็มาทำกับตัวนายเต๋อ ไม่ต้องไปทำกับคนอื่น ซึ่งนายไอซ์ก็บอกว่าไปแล้วไม่เจอตัว

ขณะที่นายนัท ได้พูดถึงประเด็นที่เมื่อวานนี้นายเต๋อ ได้พูดขอโทษที่ทำให้นายนัทต้องรับเคราะห์ถูกทำร้ายร่างกายแทน ส่วนเหตุผลที่ตั้งแต่เกิดเรื่องยังไม่มาขอโทษเพราะรู้สึกละอายใจนั้น ตนยอมรับว่าเชื่อในสิ่งที่นายเต๋อพูดเพียงครึ่งเดียว เพราะถ้ามีความสำนึกผิดก็คงมาขอโทษตั้งนานแล้วเพราะบ้านก็อยู่ใกล้กัน

ส่วนที่นายเต๋อบอกว่าจะแก้แค้นให้ตนนั้น ตนขอย้ำว่าไม่จำเป็น ขอให้เรื่องทุกอย่างจบลงตรงนี้ และให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย

โดยเมื่อวานนี้นายเต๋อได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับทีมข่าวอาชญากรรมช่อง 3 เป็นครั้งแรก โดยบอกว่ารู้สึกเสียใจที่นายนัท ซึ่งเป็นรุ่นน้องต้องมารับเคราะห์แทน ทำให้ไม่กล้าไปสู้หน้าหรือขอโทษเพราะรู้สึกละอายใจ

และยืนยันว่าตนกับนายไอซ์ ไม่เคยมีปัญหากันก่อน คนที่มีปัญหากับนายไอซ์ คือรุ่นน้องในหมู่บ้านและก็เคลียร์กันจนไปแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมนายไอซ์ ถึงผูกใจเจ็บต้องการตามล่าตน ซึ่งตนก็พร้อมเจรจาเพื่อจบเรื่องแต่ถ้าอีกฝ่ายไม่จบ ตนก็ไม่จบเหมือนกัน

https://youtu.be/gOcGZPvryxU