อาชญากรรม

สะเทือนขวัญ! ‘อดีต ผอ.โรงเรียน’ บุกฆ่ายกครัวภรรยาเก่า 4 ศพ ก่อนยิงตัวตายตามหลังถูกสกัดจับ

โดย paweena_c

23 ก.ค. 2567

929 views

‘อดีต ผอ.โรงเรียน’ บุกฆ่าล้างครัวเมียเก่า 4 ศพ ก่อนขับรถหนีข้ามจังหวัด ถูกตามสกัดจับ ยิงตัวตายต่อหน้าตำรวจ ญาติคาดปมเหตุเรื่องแบ่งทรัพย์สินไม่ลงตัว แถมพาผัวใหม่มาอยู่ในบ้านที่ร่วมสร้างเป็นเรือนหอ

กล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ บันทึกเหตุการณ์ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงปืนรัวดังขึ้น พร้อมเสียงผู้หญิงเอะอะโวยวาย หลังสิ้นเสียงปืนนัดที่ 8 เสียงก็เงียบลง สักพักได้ยินเสียงผู้ชายร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แล้วมีเสียงผู้หญิงร้องขึ้น พร้อมเสียงปืนอีก 1 นัด แล้วเสียงทุกอย่างก็เงียบลง แต่คนร้ายยังยิงปืนอีก 2 นัด เหมือนจะเช็กความเรียบร้อย รวมยิงปืนไปทั้งหมด 11 นัด ก่อนหลบหนีไป

เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 8 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ มีผู้เสียชีวิตในบ้าน 4 ศพ ประกอบด้วย น.ส.ดวงเดือน อายุ 41 ปี เป็น ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ นายปรมัตถ์ อายุ 39 ปี สามีใหม่ น.ส.ดวงเดือน มีอาชีพเป็นทนายความ ถูกยิงเข้าท้ายทอยและแผ่นหลัง นางหยกมณี อายุ 66 ปี แม่ น.ส.ดวงเดือน ถูกยิงเข้าที่ใบหน้า และนายบุญเลื่อน อายุ 61 ปี น้าเขยของ น.ส.ดวงเดือน ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายปฐพี หรือ เขี้ยว อายุ 52 ปี อดีตสามีของ น.ส.ดวงเดือน หลังก่อเหตุได้ขับรถเก๋งสีดำหลบหนีไป

นางดัชฎาพร อายุ 63 ปี ภรรยานายบุญเลื่อนที่เสียชีวิต กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ลูกชายวัย 10 ขวบ ของ น.ส.ดวงเดือน วิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่า คนในบ้านถูกยิงตายหมดแล้ว ตกใจมากรีบตามไปดู ก็ถึงกับเข่าทรุด เพราะสามีก็รวมอยู่ในนั้นด้วย เชื่อว่าคนที่ก่อเหตุคือนายเขี้ยว อดีตสามีของ น.ส.ดวงเดือน ซึ่งหลานสาวคนนี้มีสามีมาแล้ว 4 คน คนแรกเป็นตำรวจไม่มีลูกด้วยกัน คนที่ 2 ก็เป็นตำรวจ มีลูกด้วยกัน 1 คน คนที่ 3 คือ นายเขี้ยว เป็นอดีต ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งที่บุรีรัมย์ เพิ่งมีเรื่องฟ้องหย่ากันเมื่อไม่นานมานี้ โดยหลานสาวได้ว่าจ้างนายปรมัตถ์เป็นคนเขียนคำร้องฟ้องหย่า จากนั้นได้คบหาดูใจกัน และแต่งงานกับทนายความเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

นางดัชฎาพร กล่าวอีกว่า เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นชนวนเหตุให้นายเขี้ยวโกรธแค้น ทั้งปัญหาสินสมรสที่สร้างมาด้วยกัน แต่เคลียร์กันไม่ลงตัว รวมถึงบ้านหลังเกิดเหตุ เป็นเรือนหอที่สร้างมาด้วยกัน แต่กลับพาสามีใหม่เข้ามาอยู่ ทำให้โกรธแค้น คอยตามรังควาน ข่มขู่มาตลอด บางครั้งถึงขนาดแจกใบปลิวรอบๆ หมู่บ้าน ข้อความว่า “บ้านหลังนี้บ้านของกู” กระทั่งมาเกิดเหตุ ยังโชคดีที่ตอนเกิดเหตุ ลูกชาย น.ส.ดวงเดือน อยู่ในห้องน้ำ หลังได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวาย จึงรีบวิ่งออกจากห้องน้ำหนีมาหาเธอ เลยรอดชีวิตมาได้

ต่อมาตำรวจ สภ.ประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ พบนายเขี้ยวขับรถเก๋งสีดำหนีเข้ามาในพื้นที่ จึงขับรถไล่ตามประกบ พร้อมประกาศให้หยุดรถ แต่รถคันดังกล่าวกลับขับหนี กระทั่งถึง 4 แยกพิณทอง ตัดกับถนนโชคชัย-เดชอุดม นายเขี้ยวถูกจอดประกบจนหนีไม่ได้ ตำรวจให้ลงจากรถ แต่ไม่ได้รับคำตอบ ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังมาจากในรถ 1 นัด เมื่อตรวจสอบพบว่า นายเขี้ยวเสียชีวิตแล้ว โดยใช้ปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุ ยิงหน้าอกซ้ายตัวเอง กระสุนทะลุกระจกประตูด้านหลังขวา ต่อมานายคำมี อายุ 78 ปี พ่อของนายเขี้ยว มาดูร่างลูกชายด้วยอาการเครียด โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุ พบญาติๆ กำลังช่วยกันทำความสะอาดคราบเลือด พร้อมตรวจสอบทรัพย์สิน เอกสารภายในบ้าน ร่วมกับตำรวจ ขณะเดียวกันได้เตรียมสถานที่จัดงานศพ ของ น.ส.ดวงเดือน นางหยกมณี และนายบุญเลื่อน ที่วัดบ้านหอยพัฒนา อำเภอเมืองศรีสะเกษ ส่วนศพนายปรมัตถ์ ญาติจะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดมหาพุทธาราม หรือ วัดพระโต

ญาติของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นายเขี้ยวไปจอดรถที่มุมถนนหน้าบ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 15 เมตร คาดว่า นายเขี้ยวจะเดินข้ามรั้ว แล้วเดินลัดสนามหญ้าเข้ามา ตอนนั้นนายปรมัตถ์กำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะอาหารหน้าบ้าน จึงใช้ปืนลูกซองยาวลั่นไกใส่จากด้านหลัง จากนั้นได้ยิงนางหยกมณีซึ่งอยู่ใกล้กัน แล้วบุกเข้าไปในบ้านยิงนายบุญเลื่อน ระหว่างนั้น น.ส.ดวงเดือน ได้ยินเสียงปืน จึงผลักลูกชายไปซ่อนในห้องน้ำ ก่อนถูกยิงเป็นคนสุดท้าย

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวไปพบนางลอย อายุ 77 ปี แม่ผู้ก่อเหตุที่บุรีรัมย์ กล่าวว่า ลูกชายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม บอกแม่ว่าจะไปเที่ยว กระทั่งมาทราบข่าว สำหรับอดีตลูกสะใภ้ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ก่อนหน้านี้เคยมีลูกเล็กๆ ซึ่งเป็นลูกติดมาเที่ยวที่บ้าน ส่วนลูกชายก็มีลูกติด 2 คน โตจนไปทำงานกันหมดแล้ว ตอนที่ลูกชายเลิกกับ น.ส.ดวงเดือน ลูกมาบอกว่า เขามีคนใหม่แล้ว ส่วนเรื่องที่เป็นคดีความกัน แม่ก็ไม่รู้เรื่อง แต่เคยมีหนังสือจากศาลมาที่บ้าน 2 ครั้ง ก็ไม่รู้ว่าถูกฟ้องเรื่องอะไร เพราะลูกชายไม่เคยบอก

ส่วนสาเหตุที่แท้จริง ส่วนตัวเชื่อว่าลูกชายคับแค้นใจ เพราะบ้านที่จังหวัดศรีสะเกษ ลูกชายเป็นคนร่วมสร้าง แต่ฝ่ายหญิงกลับไปมีสามีใหม่ซึ่งเป็นทนาย อายุน้อยกว่า และฟางเส้นสุดท้ายที่ลูกชายแค้น ถูกฝ่ายหญิงแต่งตั้งทนาย ซึ่งเป็นสามีใหม่มาฟ้อง ไม่ให้ลูกชายเข้าไปยุ่งเกี่ยวในทรัพย์สินที่ช่วยกันหามา จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว

ด้านพลตำรวจตรี รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในรถของผู้ก่อเหตุ ได้หลักฐานต่างๆ จนมั่นใจว่า คดีมูลเหตุชัดเจน คือ เรื่องครอบครัว โดยนายเขี้ยวเตรียมการไว้แล้ว ทั้งการลาออกจากราชการ ที่เพิ่งลาออกได้ประมาณเดือนเศษ

และยังเขียนจดหมายสั่งเสีย ไว้กับกระดาษที่ได้จากร้านล้างรถ ซึ่งจะวางไว้ให้เหยียบในรถว่า “ถ้าตายไม่ต้องตั้งสวดนะ เผาได้เลย แต่นำเอากระดูกกลับ” พร้อมกับเขียนชื่อพ่อแม่ และเบอร์ศัพท์เอาไว้ อย่างไรก็ตามตำรวจบุรีรัมย์จะทำคดีแค่เรื่องพิสูจน์หลักฐาน ส่วนคดีหลักเป็นของตำรวจที่ศรีสะเกษ


https://youtu.be/OJnoiT0ifO0

คุณอาจสนใจ

Related News